กทม. 4 มิ.ย.- จนถึงวันนี้ยังมีผู้ที่ยื่นเรื่องขอรับความช่วยเหลือ หรือสิทธิประโยชน์กรณีว่างงานแล้ว แต่ยังไม่ได้รับเงินช่วยเหลือ เดินทางไปยื่นเรื่องที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ของสำนักงานประกันสังคม เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วพบว่ามีปัญหาแตกต่างกันไป แต่ที่พบมากที่สุดเป็นเรื่องของข้อมูลระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง
ผู้ประกันตนกองทุนประกันสังคม ซึ่งมีทั้งถูกเลิกจ้างและหยุดทำงานแบบไม่ได้ค่าจ้าง อันเป็นผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังคงเดินทางมาที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์โควิด-19 สำนักงานประกันสังคม สำนักงานใหญ่ นนทบุรี หลังยื่นเรื่องขอรับเงินช่วยเหลือ หรือสิทธิประโยชน์กรณีว่างงานแล้ว แต่ยังไม่ได้รับเงินช่วยเหลือ
ผู้ที่เดินทางมาส่วนใหญ่คาดหวังจะได้คำตอบชัดเจนว่าพวกเขาจะได้รับเงินช่วยเหลือหรือไม่ มีทั้งที่เคยยื่นเรื่องผ่านระบบออนไลน์ และยื่นเรื่องเป็นเอกสารผ่านสำนักงานประกันสังคมจังหวัด
สุชิตา บรรดา พนักงานร้านเสริมสวย ทำผมในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง หยุดงานตั้งแต่ 22 มีนาคม ปลายเดือนมีนาคม เธอยื่นเรื่องผ่านระบบออนไลน์ แต่ผ่านมา 2 เดือนกว่ายังไม่ได้รับความช่วยเหลือ จึงมาที่นี่ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลพบว่า การระบุช่วงวันที่หยุดทำงานระหว่างเธอกับนายจ้างไม่ตรงกัน จึงแก้ไขข้อมูลให้ และเธอจะได้รับเงินช่วยเหลือ 2 เดือน คือเมษายนและพฤษภาคม
หัสธยา นามพรม เป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยในห้างสรรพสินค้า ต้องหยุดทำงานตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม ยื่นเรื่องผ่านระบบออนไลน์ไว้ แต่ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือ เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่าเธอกรอกข้อมูลผิด
ประภาเษศ สงเคราะห์ เป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยในห้างสรรพสินค้าอีกคนที่ยื่นเรื่องขอความช่วยเหลือตั้งแต่ปลายมีนาคม แต่เธอกรอกข้อมูลในแบบฟอร์มกระดาษที่สำนักงานประกันสังคมนนทบุรี เมื่อมาตรวจสอบที่นี่ไม่พบข้อมูลในระบบ เจ้าหน้าที่จึงกรอกข้อมูลให้ใหม่
รองเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม บอกว่า เจ้าหน้าที่พยายามตรวจสอบข้อมูลของผู้ประกันตนที่มายื่นเรื่องราวร้องทุกข์ที่นี่ให้ได้คำตอบในทันที เพราะหลายคนเดินทางมาจากที่ต่างๆ เพื่อขอความช่วยเหลือ ซึ่งนับจากเปิดศูนย์เรื่องราวร้องทุกข์ ตรวจสอบข้อมูลให้ผู้มาร้องทุกข์ในแต่ละวัน พบว่าปัญหาส่วนใหญ่เกิดจากการกรอกข้อมูลระหว่างลูกจ้างกับนายจ้างไม่ตรงกัน โดยเฉพาะระยะเวลาหยุดงาน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะช่วยประสานงานกับนายจ้างแก้ไขข้อมูลให้เลย
ข้อมูลของสำนักงานประกันสังคม ระบุว่า นับจาก 24 มีนาคม-3 มิถุนายน มีผู้ยื่นขอใช้สิทธิ์แล้วกว่า 1,460,000 ราย จ่ายเงินไปแล้วกว่า 1,410,000 ราย เป็นเงินกว่า 9,000 ล้านบาท คงเหลือที่อยู่ระหว่งดำเนินการกว่า 45,000 ราย คาดว่าจะเร่งจ่ายเงินช่วยเหลือให้ได้โดยเร็ว แต่ยังคงมีผู้ประกันตนทยอยมายื่นขอใช้สิทธิ์เพิ่มขึ้นทุกวัน เช่นเมื่อวานนี้ (3 มิ.ย.) มีผู้ยื่นขอความช่วยเหลือกว่า 20,000 ราย
สำหรับผู้ประกันตนที่ไม่ได้ทำงาน หรือนายจ้างไม่ให้ทำงาน และไม่ได้รับค่าจ้าง จะได้รับเงินกรณีว่างงาน 62% ของค่าจ้างไม่เกิน 90 วัน. -สำนักข่าวไทย