ภาคประชาชน เสนอรัฐ ช่วยเหลือประชาชนถ้วนหน้าจากโควิด-19

กทม.4มิย.-เครือข่ายประชาชนเพื่อรัฐสวัสดิการ เรียกร้อง ให้รัฐเยียวยาประชาชน ถ้วนหน้า เพราะทุกกลุ่มอาชีพได้รับผลกระทบทั้งหมด ช่วยลดความเหลื่อมล้ำของสังคม ระบุ จากผลสำรวจ พบครัวเรือบเกือบครึ่งมีเงินใช้ไม่ถึง3 เดือน หากไม่มีงานทำ


นายนิมิตร์ เทียนอุดม เครือข่ายประชาชนเพื่อรัฐสวัสดิการ (WWN) นายเดชรัต สุขกำเนิด นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ นางสุจิน รุ่งสว่าง ประธานสมาพันธ์ศูนย์ประสานงานแรงงานนอกระบบแห่งประเทศไทย และนางสาวเนืองนิช ชิดนอก ประธานเครือข่ายสลัม4 ภาค ร่วมแถลงข่าว เสนอข้อเรียกร้องให้รัฐ จัดระบบสวัสดิการสังคมเพื่อรองรับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 แบบถ้วนหน้า หลังจัดทำการสำรวจพบว่า ประชาชนทุกระดับ “ทุกข์ถ้วนทั่ว ต้องอุดรอยรั่ว ด้วยสวัสดิการถ้วนหน้า” ที่มูลนิธิพัฒนาที่อยู่อาศัย 


นายเดชรัต กล่าวว่า ได้จัดทำผลสำรวจแนวทางการจัดระบบสวัสดิการสังคม เพื่อรองรับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 โดยมีผู้ตอบแบบสอบถาม จำนวน 1,998 คน ในทุกภูมิภาค ผ่านการตอบแบบสอบถามออนไลน์ ระหว่าง14-24พ.ค. 63 โดยสำรวจสถานการณ์เศรษฐกิจครัวเรือน ก่อนเกิดโควิด-19และหลังโควิด-19 พบว่าก่อนเกิดโควิด-19 ครัวเรือนร้อยละ72 มีรายได้ประจำ และรายได้ใกล้เคียงกับรายจ่าย แต่เมื่อเกิดโควิด-19 พบว่า ร้อยละ90 ได้รับผลกระทบ รายได้ครัวเรือนลดลงเกินกว่าครึ่ง ส่วนครัวเรือนที่มีรายได้น้อยกว่า 50,000 บาท สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ไม่ถึง3 เดือนหากขาดรายได้ ขณะที่คนไม่ได้รับผลกระทบมีเพียง 10% คน และกลุ่มที่มีรายได้เพิ่ม เนื่องจากเปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาสมีไม่ถึง1%


ทั้งนี้พบว่าปัญหาที่เกิดขึ้น เนื่องจากตกงานและรายจ่ายสวนทางกลับรายได้ที่ยังคงเดิม30% และ50% รายจ่ายเพิ่มขึ้น ส่วนที่เพิ่ม คือ ค่าอาหาร ค่าน้ำ ค่าไฟ จากผลสำรวจพบว่า ทุกระดับรายได้ได้รับผลกระทบทั้งหมด และครัวเรือนส่วนใหญ่พยายามช่วยเหลือตัวเองด้วยการหารายได้เสริม ขอความช่วยเหลือจากรัฐบาล และตอนนี้พบว่าเริ่มขาย จำนำทรัพย์สิน กู้เงินนอกระบบ กู้ยืมเงินจากญาติพี่น้อง และพบว่ากลุ่มที่กระทบมากที่สุดยังเข้าไม่ถึงสวัสดิการการช่วยเหลือและตกหล่นถึงร้อยละ50 และการเข้าเงินกู้สถาบันการเงินที่ดิกเบี้ยต่ำยังน้อยมากเนื่องจากไม่มีหลักประกัน นับว่ากระทบถ้วนทั่ว และรุนแรงทุกระดับรายได้ ส่วนคนที่ไม่ได้รับผลกระทบแต่ได้รับความช่วยเหลือ10% อยากให้เปลี่ยนวิธีคิด ต้องช่วยเหลือให้ครอบคลุมทุกคน การใช้ระบบคัดกรองหรือคัดคนที่เดือดร้อนเพื่อเยียวยา ทำให้กลุ่มที่เดือดร้อนจริงตกหล่นเกินกว่าครึ่ง มองโจทย์ไหนสำคัญกว่ากัน ตอนนี้เกิดความทุกข์ถ้วนทั่ว เดือดร้อนทุกครัวเรือน ควรได้รับรัฐสวัสดิการทุกครัวเรือน 

ด้าน นางสุจิน รุ่งสว่าง ประธานสมาพันธ์ศูนย์ประสานงานแรงงานนอกระบบแห่งประเทศไทย กล่าวว่า แรงงานนอกระบบทั้งประเทศ 25 ล้านคน ได้รับผลกระทบเกือบทั้งหมด และได้รับการเยียวยาเพียง 3 ล้านคน ที่เหลือเข้าไม่ถึงสิทธิ์ แรงงานนอกระบบ มีทั้งรายวัน รายเดือน ตกงาน ว่างงานชั่วคราว เช่น แม่บ้านสนามบิน ค้าขาย เมื่อต้องอยู่บ้าน ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่อาศัยอยู่แฟลต การเคหะ ต้องมาอยู่รวมกันห้องเล็กๆยิ่งเป็นการเพิ่มภาระ และจะให้เว้นระยะห่างคงทำได้ยาก บางบ้านมีลูกเล็ก ผู้ป่วยติดเตียง ถือว่าเป็นผลกระทบวงกว้างของประชาชน ไม่มีเงินในการซื้อของกินของใช้ แม้รัฐมีมาตรการเยียวยา5,000 บาท ยิ่งสร้างความทุกข์ เพราะลงทะเบียนไม่เป็น ความรู้ไม่มี ยิ่งสร้างความยุ่งยากให้ประชาชน เข้าไม่ถึงการช่วยเหลือ ตกหลุ่น มองว่าจะมีมาตรการคัดกรองทำไม ทำไมไม่ให้ถ้วนหน้าไปเลย 

ด้านนางสาวเนืองนิช ชิดนอก ประธานเครือข่ายสลัม4 ภาค กล่าวว่า คนจนเมืองมีหลากหลายกลุ่มอาชีพ ส่วนใหญ่ตกงาน ให้ออกจากงาน ช่วงแรกแต่ละชุมชนพอมีกองทุนที่เป็นของชุมชนจะช่วยกันเองก่อนได้ จะเห็นว่าชาวบ้านประสบปัญหาค่อนข้างมาก เริ่มเปิดรับบริจาคกระจายความช่วยเหลือสู่ชุมชน แค่การกินอยู่ ไม่สามาถต่อยอดสร้างอาชีพได้ ส่งผลให้คนตกงานบางส่วน กลายเป็นคนไร้บ้าน เพราะไม่มีค่าเช่าห้อง ส่งผลให้อัตราคนไร้บ้านเพิ่มขึ้น คนที่พอจะมีเงินเก่าที่เคยเก็บสะสมก็นำมาใช้หมดแล้ว พอมาตรการผ่อนปรนออกมา ก็ไม่มีเงินทุนไปขายของ ยอมรับว่ามาตรการเยียวยาต่างๆ กลุ่มคนที่อบู่ในเครือข่ายสลัม4 ภาค ไม่สามารถเข้าถึงได้เลย อยากเรียกร้องคำว่า ถ้วนหน้า ช่วยเหลือถ้วนหน้า จะสามารถลดความเหลื่อมล้ำได้ 

นายนิมิตร์ เทียนอุดม ตัวแทนเครือข่ายประชาชนเพื่อรัฐสวัสดิการ (WWN) กล่าวว่า อยากเรียกร้องไปยังภาครัฐ 2 ข้อ ที่จะทำให้ระบบสังคมมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น 1.การเยียวยา ต้องใช้ว่ารัฐสวัสดิการถ้วนหน้า  2.เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี ช่วยเร่งพิจารณารับรองร่างพรบ.บำนาญแห่งชาติ คนที่มีอายุตั้งแต่60 ปีขึ้นไป ให้มีหลักประกันด้านรายได้ทุกเดือน เดือนละ3,000 บาท ตามเส้นความยากจน ที่สำรวจว่า หากมีเงินส่วนนี้จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความมั่นคงทางรายได้ให้กับประชาชนได้ ราว10 ล้านคนท ซึ่งภาคประชาชนร่วมกันเสนอ ส่งไปแล้วตั้งแต่มีนาคม ให้เร่งรับรองและมีผลบังคับใช้ เพื่อทำให้อุดรอยรั่วที่เกิดความทุกข์ที่เกิดขึ้นมานาน สร้างความมั่นคงทางรายได้ มองว่าโควิด-19 เพียงทำให้ฝีหนองแตก เพราะความเดือดร้อนเกิดมานานแล้ว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” สุดชิล ใส่เสื้อฮาวาย เข้าพรรคประชุมแกนนำ

ภูมิใจไทย 6 ก.ย. – “อนุทิน” ว่าที่นายกฯ สุดชิล ใส่เสื้อฮาวายลายใบไม้ เดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ประชุมแกนนำในวันหยุด นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ด้วยท่าทีผ่อนคลาย สีหน้ายิ้มแย้ม สวมเสื้อฮาวายลายใบไม้ เมื่อมาถึงผู้สื่อข่าวพยายามขอสัมภาษณ์ แต่นายอนุทิน ขอตัวขึ้นไปประชุมก่อน และระบุว่าขณะนี้ยังไม่มีข่าว ขณะที่พรรคภูมิใจไทย เตรียมความพร้อมในการจัดงานพิธีสำคัญ ภายหลังมีแกนนำพรรค และว่าที่รัฐมนตรีตามโผ ครม.อนุทิน 1 เช่น นายภราดร ปริศนานันทกุล นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ นอกจากนี้ยังมีผู้ที่ส่งช่อดอกไม้มาแสดงความยินดี รวมไปถึงต้นกล้วยไม้สีขาวก้านยาว ในกระถางพลาสติกสีเขียวอ่อนขนาดใหญ่ ประมาณ 1 คนโอบ ติดนามบัตรมีชื่อของนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด.-314-สำนักข่าวไทย

อุตุฯ เตือน “อีสาน กลาง ใต้” รับมือฝนถล่ม

6 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ รับมือฝนถล่ม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออกบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี และตราด ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 8 – 9 ก.ย. โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” บอกฟอร์มทีม ครม.เรียบร้อยแล้ว-เร่งเดินหน้าแก้ปัญหา

พรรคภูมิใจไทย 5 ก.ย.-“อนุทิน” ขอบคุณเสียงโหวตนั่งนายกฯ คนที่ 32 เร่งเดินหน้าแก้ปัญหาทดแทนโอกาสที่เสียไป เผย วินาทีกราบพ่อ เป็นสิ่งแรกที่อยากทำ ฟอร์มทีม ครม.เรียบร้อยแล้ว บอกผมโอเค พรรคร่วมรัฐบาลก็ต้องโอเค นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าที่ทำการพรรคภายหลังร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร พร้อมเปิดใจเป็นครั้งแรก หลังจากได้รับการโหวตเห็นชอบให้เป็นนายกรัฐมนตรี โดยนายอนุทินได้กล่าวขอบคุณประชาชน ในโอกาสที่ได้รับเสียงสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะถือเป็นเสียงของประชาชนที่ได้ใช้สิทธิ์ ผ่านสส. โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สส.พรรคประชาชน และพรรคการเมืองที่ได้ลงคะแนนให้กับตน หรือพรรคที่ไม่ได้ลงคะแนนให้กับตน โดยการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่มีนายชัยเกษม นิติสิริ ได้รับการเสนอชื่อโหวตชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่เมื่อการโหวตผ่านพ้นไปแล้ว ก็อยากให้ทุกอย่างมันจบไปด้วยดี และอยากให้เราหันหน้าเข้าหากัน เพื่อทำงานให้กับประชาชน ให้กับประเทศ ในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวไปข้างหน้า ด้วยความรวดเร็ว เพื่อทดแทนโอกาสที่เสียไป ซึ่งตนเชื่อว่าหากเราหันหน้าทำงานด้วยกัน ก็จะทำให้ทะลุเป้าหมายต่างๆ ได้ ส่วนจะผลักดันนโยบายอะไรต่อขอยังไม่ลงรายละเอียด เมื่อถามถึงการเข้าพบนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล ผู้เป็นบิดา หลังจากได้รับการโหวตเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี นายอนุทินเล่าว่า นายชวรัตน์ ไม่ค่อยสบาย รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ซึ่งตนก็คิดว่านายชวรัตน์ ก็อยากให้ไปหา จึงเร่งไปกราบเป็นอันดับแรก เมื่อถามว่านายชวรัตน์ให้พรอะไรบ้าง […]

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย