เปิดตลาดกุ้งก้ามกรามในปั๊มน้ำมันพีทีทีกลางกรุง

กรุงเทพฯ 2 มิ.ย. – กรมประมงจับมือโออาร์ ช่วยเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เปิดพื้นที่สถานีบริการน้ำมัน 4 แห่งใน กทม. เป็นตลาดจำหน่ายกุ้งก้ามกราม บรรเทาปัญหาราคาตกต่ำ เริ่ม 7 มิถุนายนนี้ 



นายมีศักดิ์ ภักดีคง อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า ได้ทำโครงการนำร่องร่วมกับบริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือโออาร์ สนับสนุนและเพิ่มช่องทางการจำหน่ายผลผลิตสัตว์น้ำให้แก่เกษตรกร เพื่อให้สามารถส่งตรงถึงมือผู้บริโภคโดยตรงไม่ผ่านพ่อค้าคนกลางบริเวณพื้นที่ของสถานีบริการน้ำมันพีทีที สเตชั่น แบบไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งเริ่มด้วยกุ้งก้ามกรามเป็นอย่างแรก ทั้งนี้ เลือกจำหน่ายในสถานีบริการน้ำมันเขตกรุงเทพมหานครในทำเลที่มีประชาชนสัญจรคับคั่ง 4 แห่ง ได้แก่ จุดที่ 1 พีทีที สเตชั่น สวัสดิการ ร.1 รอ. ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงสามเสนใน เขตพญาไท จุดที่ 2 พีทีที สเตชั่น ประชาอุทิศ-ลาดพร้าว เลียบด่วน 304 แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง  จุดที่ 3 พีทีที สเตชั่น เทพรักษ์ แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน และจุดที่ 4 พีทีที สเตชั่น แขวงตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน โดยจะเปิดจำหน่ายพร้อมกันทั้ง 4 จุด วันอาทิตย์ที่ 7 และ 14 มิถุนายน ตั้งแต่ 09. 00 น. เป็นต้นไป


สำหรับกุ้งก้ามกรามที่นำมาจำหน่ายเป็นผลผลิตที่มีคุณภาพจากฟาร์มของเกษตรกรจังหวัดสุพรรณบุรี นครปฐม และราชบุรี ซึ่งสด สะอาด และปลอดภัย ราคาถูกเทียบเท่ากับซื้อจากแหล่งผลิต เช่น เพศผู้ ขนาด 9-10 ตัว/กิโลกรัม ราคา 350 บาท ขนาด 11-13 ตัว/กิโลกรัม ราคา 330 บาท ขนาด 14-16 ตัว/กิโลกรัม ราคา 300 บาท ขนาด 17-20 ตัว/กิโลกรัม ราคา 280 บาท เพศเมีย ขนาด 20-24 ตัว/กิโลกรัม ราคา 230 บาท ขนาด 25-29 ตัว/กิโลกรัม ราคา 210 บาท ขนาด 30-34 ตัว/กิโลกรัม 180 บาท เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีสินค้าสัตว์น้ำแปรรูปอื่น ๆ มาจำหน่าย ได้แก่ ปลาสลิดแดดเดียว ปลาช่อนแดดเดียว ปลาดุกเส้นหวาน ปลาดุกแผ่น ปลาดุกร้า หนังปลาดุกทอดกรอบ จ๊อปลานิล ปลานิลแดดเดียว คั่วกลิ้งปลานิล เป็นต้น

อธิบดีกรมประมง กล่าวต่อว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ส่งผลกระทบต่อการประกอบอาชีพของเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำอย่างมาก เนื่องจากไม่สามารถจำหน่ายผลผลิตได้ตามปกติ อีกทั้งสัตว์น้ำเศรษฐกิจบางชนิดยังประสบปัญหาราคาตกต่ำอีกด้วย จึงช่วยเหลือเกษตรกรในการระบายผลผลิตผ่านช่องทางต่าง ๆ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนอย่างต่อเนื่อง จึงขอเชิญชวนประชาชนกรุงเทพฯ และบริเวณใกล้เคียงร่วมกันอุดหนุนกุ้งก้ามกรามและผลิตภัณฑ์แปรรูปประมงคุณภาพดี ในราคาย่อมเยาที่ส่งตรงจากมือเกษตรกรได้ที่สถานีบริการน้ำมัน พีทีที สเตชั่น ทั้ง 4 สาขาดังกล่าว สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center กรมประมง โทร. 0 2562 0600-15 ในวันและเวลาราชการ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ตร.ทางหลวงไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าไทย

ระทึก! ตำรวจทางหลวงขับรถไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าว 2 คัน สุดท้ายไม่รอด จนมุมบริเวณ ต.หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท ตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก จึงนำตัวทั้งหมด พร้อมกับคนขับรถทั้ง 2 คัน ส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองชัยนาท

คุมพ่อชาวรัสเซียฝากขัง จับลูกชายวัย 13 โยนลงทะเลเสียชีวิต

ตำรวจคุมตัว “หนุ่มรัสเซีย” ฝากขัง หลังก่อเหตุโยนลูกวัย 13 ปี ออกจากเรือ บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา จนถูกใบพัดเรือบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา อ้างเสียความทรงจำ ไม่รู้ทำอะไรลงไป

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ