รัฐสภา 31 พ.ค.-นายกฯ ขอดีเดย์ 1 มิ.ย.ผ่อนคลายระยะ 3 เป็นวันดี ๆ ไม่ทำให้ทุกคนระวังตัวแล้วต้องกลับไปเริ่มต้นแก้ปัญหาโรคใหม่ ยืนยัน ไม่ได้คงอำนาจไว้เพื่อตัวเอง ติงปาร์ตี้วันเกิด มั่วสุมยาเสพติด ห่วงระบาดรอบ 2 เตรียมทยอยผ่อนคลายมาตรการเฟส 4
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการเริ่มผ่อนคลายมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ระยะ 3 วันที่ 1 มิถุนายนนี้ ว่า อยากให้คำว่าเริ่มดีเดย์เป็นวันดีดี ไม่ใช่วันที่จะกลับไปอยู่ที่เก่า กลับไปที่เดิม ปล่อยเนื้อปล่อยตัว ปล่อยใจ ไม่ใส่หน้ากากอนามัย ไม่รู้ระยะห่าง เมื่อเช้าเห็นข่าวแล้ว ไม่สบายใจที่มีคนกลุ่มหนึ่งไปเช่าโรงแรมจัดงานเลี้ยงวันเกิดและมีเรื่องยาเสพติดด้วย ซึ่งอาจจะเป็นสถานที่แพร่ระบาดกลับมาอีกครั้งหนึ่ง
“ถ้าทุกคนไม่รักษาวินัย เพราะถ้าทุกคนไม่รักตัวเอง ขึ้นอยู่กับพวกท่าน แต่ขอให้รักครอบครัวของท่าน รักประชาชนของท่าน สิ่งที่ทำมา ไม่ใช่ทำได้โดยรัฐบาลอย่างเดียว ทุกคนต้องร่วมมือกันทำ แต่ถ้ายังมีบางคนไม่ร่วมมือ ผมไม่รู้ว่าเพราะอะไร อาจจะมองตัวอย่างจากต่างประเทศก็ได้ ซึ่งไม่ใช่วัฒนธรรมของคนไทย อย่างพวกเราก็ใส่หน้ากากทุกคน อย่างน้อยก็เป็นปราการชั้นที่ 1 ให้เราไม่ติดการแพร่ระบาด ถ้าเราเป็นก็ไม่แพร่ให้คนอื่น นี่คือรักตัวเองและรักคนอื่นด้วย จำไว้คนไทยต่อจากนี้ต้องรักตัวเอง รักครอบครัว รักคนอื่นด้วย นั่นแหละประเทศไทยจะผ่านวิกฤติไปได้ด้วยดี ขอให้วันที่ 1 มิถุนายน เป็นวันดีเดย์” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลมีความจำเป็น ต้องตัดสินใจบนความเสี่ยงพอสมควร แต่จากการพิจารณา สิ่งที่รัฐบาลทำมาโดยตลอด 3 เดือน เราสามารถควบคุมได้ ในระดับที่ดีพอสมควร แต่ถ้าไม่ดี เกิดระบาดขึ้นใหม่ต้องย้อนกลับไปทำใหม่เป็นจุด ๆ ไป คงไม่ใช่ตนต้องการคงอำนาจตรงนี้ไว้ให้นานที่สุด
“ไม่จำเป็นหรอกครับ เป็นอำนาจที่ใช้ในการบริหารเท่านั้นเอง จะเห็นได้ว่าไม่ได้ไปละเมิด ลงโทษใครจนเอาเป็นเอาตาย แต่บางทีการไม่ลงโทษทำให้ทุกคนเคยตัวเหมือนกัน เพราะผ่อนผันกฎหมายกันไปเรื่อย ๆ เห็นใจความจน เห็นใจการปรับเงิน คนก็เลยไม่กลัวกฎหมาย แต่ถ้าทุกคนกลัวกฎหมาย ไม่มีเรื่อง ทุจริตก็จะไม่เกิด ถ้าไม่ไปกดดันเจ้าหน้าที่ ข้าราชการในพื้นที่ ฟังเสียงประชาชนข้างล่าง เขาต้องการอะไร นั่นแหละคือเจตนารมณ์ของผมและรัฐบาล แต่ต้องถูกต้อง เพราะต้องมีคนรับผิดชอบในการบริหารเงิน คนที่ได้ประโยชน์ ไม่ใช่เรา คือประชาชน” นายกรัฐมนตรี กล่าว
เมื่อถามถึงการผ่อนคลายระยะที่ 4 จะเป็นการทยอยผ่อนคลายใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลังจาหนี้จะเป็นการทยอยผ่อนคลายมาตรการ ซึ่งมีหลายอย่าง คืออยากให้ประชาชนมีรายได้ แต่อะไรที่เสี่ยงมาก ๆ ต้องพิจารณาให้รอบคอบ ส่วนต้องรอ 14 วันเหมือนหลักการเดิมหรือไม่ ค่อย ๆ ผ่อน ขอให้รอพิจารณาก่อน.-สำนักข่าวไทย