ศบค.คงเปิดเรียน 1 ก.ค.

ทำเนียบฯ 29 พ.ค.- ศบค. คงเปิดเรียน 1 ก.ค. ให้กระทรวงศึกษาธิการ ประเมินโรงเรียนเด็กโตอาจขยับเปิดเทอมได้ก่อน หากมีความพร้อม 


นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. กล่าวว่า การประชุม ศบค.ชุดใหญ่วันนี้ (29 พ.ค.) โดย พล.อ.ประยุท์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. กล่าวขอบคุณคณะรัฐมนตรี (ครม.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ได้ร่วมมือทำงานควบคุมและป้องกันโรคจนได้รับคำชื่นชมจากต่างประเทศ โดยช่วงเช้านายกรัฐมนตรี ได้เยี่ยมชมรถตู้ตรวจเชื้อโควิด-19 (Mobile Swab Test) และนวัตกรรมต่างของศูนย์รวมนวัตกรรม สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ซึ่งนายกรัฐมนตรีชื่นชมที่สามารถผลิตนวัตกรรมช่วยลดต้นทุนนำมาใช้งาน และยังมีการพัฒนาต่อยอดในอนาคตคาดว่าจะสร้างได้

โฆษก ศบค. กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ยังได้กล่าวในที่ประชุมถึงการประกาศขยายพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพ อยากให้ทุกฝ่ายเข้าใจ และสั่งการให้เตรียมความพร้อมในการยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ หลังการผ่อนคลายระยะที่ 4 โดยอาจนำพ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ หรือกฎหมายอื่นมาใช้


นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ในส่วนของวาระที่สำคัญ คือการเสนอมาตรการผ่อนคลายระยะที่ 3 นั้น มีประเด็นสำคัญที่ต้องดำเนินการเนื่องจากเป็นกิจการ กิจกรรมที่มีความเสี่ยงปานกลางออกไปทางสูง ได้แก่ มาตรการคัดกรองไข้ อาการไอ เหนื่อยหอบ จาม หรือเป็นหวัด สำหรับพนักงานบริการ และผู้ใช้บริการและรายงานหน่วยงานรับผิดชอบกรณีพบผู้ที่เข้าเกณฑ์สอบสวนโรค ทุกกิจการและกิจกรรมจัดให้มีการลงทะเบียนก่อนเข้า-ออกสถานที่และเพิ่มมาตรการใช้แพลตฟอร์มไทยชนะ หรือใช้มาตรการควบคุมด้วยการบันทึกข้อมูลและรายงานทดแทน และให้พิจารณาพัฒนานวัตกรรม เช่น ลงทะเบียนเข้า-ออกสถานที่ ระบบการเรียนการสอน การจองคิวแบบออนไลน์ เพื่อให้บริการรูปแบบใหม่ในระยะยาว นำไปสู่การป้องกันควบคุมโรคที่มีประสิทธิภาพ

โฆษก ศบค. กล่าวว่า ในที่ประชุม ศบค.มีการพิจารณาวาระที่มีการเสนอให้มีการเปิดเรียนซึ่งเดิมเป็นวันที่ 1 ก.ค 2563 โดยยังให้คงวันดังกล่าวไว้เช่นเดิม แต่มีการหารือในประเด็นที่จะเลื่อนให้เร็วขึ้นได้หรือไม่ ในบางส่วนบางโรงเรียน เช่น โรงเรียนห่างไกลพื้นที่ต่างจังหวัด และอัตราการเกิดโรคไม่ได้มาก และเป็นโรงเรียนที่ห้องเรียนมีจำนวนคนไม่มาก สมควรที่จะเปิดได้ก่อนหรือไม่ เช่นเดียวกับโรงเรียนเอกชน ที่มีห้องเรียนน้อย จำนวนนักเรียนต่อห้องไม่มากทั้งในเมืองและต่างจังหวัด ซึ่งในข้อสรุป คือยังยึดวันเปิดเทอมเป็นวันที่ 1 ก.ค. 2563 เช่นเดิม แต่ถ้ามีความพร้อมเกิดขึ้นก่อนอาจจะสามารถขยับเร็วขึ้นได้

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า โดยหลักการกว้าง ๆ ที่ ผอ.ศบค.ให้ไว้ อาทิ 1.ขนาดโรงเรียน สถานที่ตั้งของโรงเรียนอยู่ห่างไกล ไม่ได้มีอัตราการติดเชื้อสูง อยู่ในถิ่นทุรกันดาร เพื่อให้นักเรียนได้รับการเรียน 2. หากเป็นพื้นที่ในเมืองต้องเดิน อาจสลับเหลื่อมเวลาเรียน 3 วันต่อสัปดาห์ ถ้าสามารถทำได้ จะทำให้ไม่แออัดกันมาก ขึ้นอยู่กับจำนวนนักเรียนด้วย โดยเน้นเฉพาะกลุ่มเด็กโต เนื่องจากเด็กเล็ก หากมาเรียน อาจจะมีความเสี่ยงเพราะอยู่ใกล้ชิดกัน นอนกลางวัน และเล่นกัน 


โฆษก ศบค. กล่าวว่า ส่วนโรงเรียนนานาชาติที่ขอร้องมาว่า การเรียนที่จะต้องมีการเปิดเทอมขึ้นเร็ว เพราะให้ทันของกระแสโลก และการเรียนที่เป็นมาตรฐานของต่างประเทศนั้น ยังไม่มีข้อตกลง ว่าจะเป็นข้อสรุปอย่างไร โดยทั้งหมดได้มอบให้ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ไปศึกษารายละเอียดและหาข้อสรุปของแต่ละเรื่องมานำเสนออีกครั้งในการประชุม ศบค.ครั้งต่อไป และจะชี้แจงความชัดเจนต่อประชาชนอีกครั้ง

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องกิจการชุดใหญ่ มีรายงานว่าที่ประชุมใหญ่ ศบค. มีมติผ่อนปรนปรับลดเวลาเคอร์ฟิวลง 1 ชั่วโมง จากเดิม 5 ทุ่มถึงตี 4 ปรับลดเป็น 5 ทุ่มถึงตี 3 นอกจากนี้ ยังจะปรับเวลาปิดห้างสรรพสินค้า เป็น 21.00 น. ให้ร้านค้าต่าง ๆ ภายในห้างสรรพสินค้ากลับมาเปิดบริการได้เพิ่มเติม ผ่อนปรน ร้านนวดแผนไทย กลับมาเปิดให้บริการ ยกเว้นอบสมุนไพร ส่วนสถานเสริมความงาม สามารถเปิดให้บริการได้ แต่ไม่ให้มีการอบไอน้ำ ด้านสนามมวย สถานบันเทิง ผับ บาร์ ไนต์คลับ และโรงเรียน จะอยู่ในการผ่อนคลายระยะที่ 4.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ฝุ่น กทม.

คนกรุงจมฝุ่นต่อเนื่อง เช้านี้อยู่ระดับสีแดง 21 พื้นที่

กทม. อ่วมหนัก ฝุ่น PM 2.5 พุ่งต่อเนื่อง อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 21 พื้นที่ ย้ำสวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่นอกอาคาร และงดกิจกรรมกลางแจ้ง

หนุ่มอุดรฯ ดวงเฮง ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ 45 ล้านบาท

สุดเฮง! หนุ่มอุดรฯ ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ รับเงินรางวัล 45 ล้านบาท ลูกสาวเผยพ่อเป็นคนชอบทำบุญ ก่อนหน้านี้เพิ่งโทรมาบอกให้ใส่บาตร เชื่อผลบุญหนุนโชคลาภ