ไม่ได้กู้ แต่เป็นหนี้แบงก์เป็นล้าน ตะลึง ทำเป็นขบวนการ

ตรัง 28 พ.ค.-อดีตทหารบกข้าราชการบำนาญ จู่ๆ ตกเป็นลูกหนี้เงินกู้ธนาคารเกือบล้านบาท ทั้งไม่เคยยื่นกู้หรือทำธุรกรรมกับธนาคารดังกล่าวมาก่อน ถูกหักเงินเงินบำนาญเดือนละเกือบ 4 พันบาทมากว่า 1 ปี โดยไม่รู้ตัว เชื่อมีการทำเป็นขบวนการ


ที่บ้านในตำบลนาโยงเหนือ อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง ร้อยตรี ทักษิณ สัมฤทธิ์ อายุ 60 ปี พร้อมด้วยภรรยา นายสมควร จิตรแก้ว นายก อบต.นาโยงเหนือ ญาติพี่น้องและเพื่อนบ้าน  ร้องเรียนผู้สื่อข่าวกรณี ร้อยตรี ทักษิณ ซึ่งเป็นข้าราชการบำนาญ (อดีตเคยรับราชการทหารสังกัด กองทัพบก) ตกเป็นหนี้เงินกู้ธนาคารกรุงเทพ สาขาตรัง เกือบล้านบาท โดยที่ไม่เคยยื่นกู้ และไม่เคยเข้าไปติดต่อทำธุรกรรมใดๆกับธนาคารดังกล่าวมาก่อน 


โดยผู้เสียหาย เล่าว่า เคยรับราชการทหาร สังกัดกองทัพบก และเกษียณอายุราชการออกมาเมื่อเดือนตุลาคม 2560  โดยได้รับเงินบำเหน็จบำนาญตามปกติ โดยแต่ละเดือน ทราบว่า มีสิทธิ์ได้รับอัตราเงินบำนาญเดือนละ 41,321 บาท จากกรมบัญชีกลาง หักภาษีเดือนละ 399.38 บาท เงินที่เหลือจะโอนเข้าบัญชีธนาคารทหารไทย ต้นสังกัด เดือนละ 40,921.62 บาท  ซึ่งนับตั้งแต่เกษียณอายุราชการมา ประมาณวันที่ 23 ของทุกเดือน กรมบัญชีกลางโอนเงินบัญชีมาให้ / ตนเองก็จะกดเงินด้วยบัตรเอทีเอ็มเท่าที่ความจำเป็นจะต้องใช้แต่ละเดือนเท่านั้น เงินที่เหลือไม่เคยสนใจเบิกเกินมา หรือไม่เคยตรวจเช็คยอดเงิน  เพราะพอถึงปลายเดือนเงินเข้าอีก ก็จะกดกับบัตรเอทีเอ็มตามจำนวนที่ต้องใช้อีก จึงไม่ได้สนใจใดๆ เพราะเชื่อว่าไม่มีใครสามารถโกงเงินไปจากบัญชีได้  

แต่ปรากฏว่าเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคมที่ผ่านมา ปรึกษากับภรรยาว่าจะสร้างขนำภายในพื้นที่การเกษตร จึงได้ไปติดต่อที่สำนักงานสัสดี จังหวัดตรัง  เพื่อขอเอกสารหลักฐานเตรียมยื่นกู้เงินกับธนาคารกรุงไทย ปรากฏว่าเมื่อไปถึงได้รับคำตอบจากเจ้าหน้าที่สัสดีจังหวัดตรังว่า ตนเองยื่นกู้เงินไปแล้ว ไม่มีสิทธิ์จะกู้ได้อีก ตนเองก็ตกใจ เพราะไม่เคยใช้สิทธิ์ยื่นกู้เงินมาก่อน จึงขอดูเอกสารหลักฐาน ก็พบว่ากรมบัญชีกลางหักเงินบำนาญไปทุกเดือนๆละ 3,950 บาท เพื่อจ่ายหนี้เงินกู้ ในเอกสารระบุกู้เงินตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2562 เป็นเงิน 6 แสนบาท ระยะเวลาการกู้ 360 เดือน และถูกหักเงินมาแล้วเป็นเวลาประมาณ  1 ปี รวมยอดเงินแล้ว 47,400 บาท และพบว่าแต่ละเดือนเงินบำนาญที่เหลือจากการหักหนี้เงินกู้ เข้าบัญชีธนาคารทหารไทยของตนเพียงเดือนละ 36,971.62 บาท  ซึ่งไม่เคยสังเกตจำนวนเงินที่เข้าในบัญชี เพราะแต่ละเดือนจะถอนเงินจากธนาคารมาใช้ด้วยบัตรเอทีเอ็ม และเบิกจำนวนเดิมๆ ที่ต้องใช้แต่ละเดือนเท่านั้น 

ทั้งนี้ ได้ยืนยันกับสัสดีจังหวัดตรัง และเจ้าหน้าที่สำนักงานสัสดีจังหวัดตรัง  กลับได้รับคำยืนยันว่าตนเองยื่นกู้จริง  และขอให้ยอมรับ อาจหลงลืมจำเหตุการณ์ไม่ได้  เพราะหลักฐานมีการกู้ยืมจริง 


จากนั้น ผู้เสียหายจึงได้เดินทางไปติดต่อที่ธนาคารกรุงเทพ สาขาตรัง ก็ได้รับตอบจากธนาคารว่า ตนเองมายื่นกู้จริง หลักฐานบัตรประชาชนก็ของจริง ซึ่งผู้เสียหายก็ยืนยันว่า ตนเองไม่เคยมาที่ธนาคารดังกล่าวหรือทำธุรกรรมใดๆ ด้วย จากนั้นจึงขอดูเอกสารการกู้เงินจากธนาคาร และขอดูกล้องวงจรปิดในวันที่มากู้  ทางเจ้าหน้าที่ปฏิเสธที่จะให้ดูหลักฐานการกู้ โดยบอกว่าหลักฐานการกู้ตนเองได้รับไปแล้ว ส่วนกล้องวงจรปิดธนาคารก็ไม่ให้ดู แต่เปิดให้ดูลายเซ็น และบัตรประชาชนที่ใช้เป็นหลักฐานในการกู้จากคอมพิวเตอร์ว่า ก็ปรากฎเป็นของผู้เสียหายจริง แต่ผู้เสียหายยืนยันว่าตนเองไม่ได้มายื่นกู้ ลายเซ็น และบัตรประชาชนต้องมีคนปลอมขึ้นมาแน่นอน 

ทั้งนี้ ได้สอบถามอย่างละเอียด และให้เจ้าหน้าที่ธนาคารเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า คนที่มากู้ในวันนั้นหน้าตาเป็นอย่างไร ก็ได้รับคำตอบว่า มา 2 คน เป็นผู้หญิง 1 คน (เป็นเจ้าหน้าที่มาจากสำนักงานสัสดีจังหวัดตรัง) และผู้ชายอายุประมาณ 30 ปีเศษอีก 1 คน  (แอบอ้างว่าเป็นตนเอง) โดยเจ้าหน้าที่สัสดี ผู้หญิงคนนั้น บอกกับเจ้าหน้าที่ธนาคารว่า เป็นบุตรบุญธรรมของผู้เสียหาย แล้วธนาคารก็ให้กู้ไป พร้อมกันให้เปิดสมุดบัญชีใหม่ และทำบัตรเอทีเอ็มใหม่ในนามชื่อผู้เสียหายไปด้วย พร้อมให้เบอร์ติดต่อคนที่สามารถติดต่อได้กับธนาคารไว้ 1 คน เมื่อโทรสอบถามพบว่า คนดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ อำเภอจุฬาภรณ์ จังหวัดนครศรีธรรมราช นอกจากนี้ ผู้เสียหายเล่าว่า ทางธนาคาร บอกว่า ตนเองมากู้จริง ก็ยอมรับเถอะ และยังพูดจาบังคับให้ตนเองใช้คืนเงินกู้ดังกล่าวให้หมดโดยเร็ว 

ผู้เสียหายได้เดินทางเข้าแจ้งความกับ สภ.เมืองตรัง เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคมที่ผ่านมา เพื่อดำเนินคดีโดยไม่ได้ระบุตัวบุคคล แต่ต่อมาวันที่ 27 พฤษภาคม พอจะทราบบุคคลเบื้องต้น 1 คน จึงได้เข้าแจ้งความใหม่ พบเป็นลูกจ้าง ประจำสำนักงานสัสดีจังหวัด ชื่อ นางสาวพชร จันทร์ดำ พร้อมพวก เพื่อให้ตำรวจสอบสวน ดำเนินคดีให้ได้ทั้งหมด

สำหรับ ขั้นตอนทั่วไปในการขอยื่นกู้เงินดังกล่าวตามสิทธิ์นั้น ร.ต.ทักษิณ กล่าวว่า หลักฐานส่วนบุคคลของตนเอง ครอบครัว บิดามารดา เหมือนข้าราชการที่ยังทำงานปกติ จะอยู่ในสารบบสำนักงานสัสดีจังหวัดตรัง สามารถคัดลอกเอาออกมาได้ทั้งหมด  ส่วนหนังสือรับรองจากคลังจังหวัด สามารถลิงค์ข้อมูลขอออกมาได้ แต่ในทางปฏิบัติจริงๆ จะต้องแสดงตัวตนของคนที่จะกู้ พร้อมเอกสารหลักฐาน  แต่ปรากฎว่า มีการทำเหมือนจริงทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน แต่ว่าทุกอย่างปลอมหมด แม้แต่บัตรประชาชน สุดท้ายเมื่อได้รับการอนุมัติจากหัวหน้างานคือ สัสดีจังหวัดตรังแล้ว ก็ส่งตรงไปยังกรมบัญชีกลาง ซึ่งเชื่อว่ากรมบัญชีกลางคงตรวจสอบแล้วว่าหลักฐานพร้อม ถูกต้องตามระเบียบ คงไม่ทราบว่ามีการปลอมแปลงกันมาเป็นขั้นเป็นตอน ส่วนตัวจึงเชื่อว่าการกระทำดังกล่าวจะต้องทำเป็นขบวนการ จะต้องมีผู้ร่วมกระทำผิดหลายคน 

ร.ต.ทักษิณ สัมฤทธิ์  กล่าวว่าเป็นตัวอย่างที่น่ากลัวมาก เพราะมีการปลอมทั้งหมด แม้แต่บัตรประชาชน จึงขอเตือนให้ข้าราชการบำนาญทุกคน หมั่นตรวจเช็คสถานะส่วนบุคคลของตนเองให้ดี เกรงจะเกิดเหตุการณ์เป็นหนี้โดยไม่รู้เนื้อรู้ตัวเหมือนกับตนเองได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” บินสิงคโปร์แล้ว ทนายยัน 9 ก.ย. มาศาลฟังคดีชั้น14

4 ก.ย.- “ทักษิณ” นั่งเจ็ทส่วนตัวบินสิงคโปร์แล้ว ตม.ไม่มีอำนาจกักตัว หลังศาลยกฟ้องคดี ม.112 ขณะที่ “ทนายวิญญัติ” ยัน 9 ก.ย. มาศาลฟังคดีชั้น 14 แน่นอน ช่วงเย็นวันนี้มีกระเเสข่าวว่านายทักษิณ ชินวัตร ขอเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัวที่จอดไว้กับลานบินเอกชนย่านดอนเมือง เเละทราบว่าขอเดินทางไปยัง อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งนายทักษิณมีบ้านพักส่วนตัวที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี และอีกกระเเสเเจ้งว่านายทักษิณขอเดินทางไปพบเเพทย์ที่สิงคโปร์ 2 วัน เเละจะกลับมาขึ้นศาล โดย ตม.ตรวจสอบหนังสือเดินทางเเละสอบถามเหตุผลในการเดินทางของนายทักษิณในตอนนี้เเล้วเเละอนุญาตให้นายทักษิณเดินทางได้ กระเเสข่าวนี้เกิดขึ้น ท่ามกลางการเตรียมลงมติของสส.ในการเลือกนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 วันที่ 5 กันยายน 2568 เเละวันที่ 9 กันยายน นายทักษิณต้องไปฟังคำตัดสินคดีชั้น 14 รพ.ตำรวจ ซึ่งศาลฎีกาแผนคดีอาญานักการเมืองนัดให้นายทักษิณ ไปฟังคำวินิจฉัยในคดีนี้กับผู้บังคับการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ หลังก่อนหน้านี้ศาลอาญา ตัดสินยกฟ้องนายทักษิณในคดี ม.112 เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม เเละอยู่ระหว่างที่อัยการกำลังพิจารณาว่าจะอุทธรณ์หรือไม่ หลังจากนั้นนายวิญญัติ ชาติมนตรี […]

“อนุทิน” ปัดจัดโผ ครม. บอกไหว้พ่อแม่ก่อนโหวตนายกฯ

รัฐสภา 4 ก.ย.- “อนุทิน” ปัดจัดโผ ครม. บอกยังไม่มี เผยตั้งใจไหว้พ่อ-แม่ เป็นสิริมงคลก่อนโหวตนายกฯ คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เดินทางกลับเข้ามาที่อาคารรัฐสภาอีกครั้ง ช่วงเย็นวันนี้ (4 ก.ย.) โดยผู้สื่อข่าวพยามสอบถามถึงโผ “ครม.อนุทิน 1” ว่า มีการจัดเตรียมให้ใครนั่งตำแหน่งใดและนายอนุทิน จะควบตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยด้วยหรือไม่ ซึ่งนายอนุทิน ร้องหูย ก่อนจะบอกว่ายังไม่มี ข่าวก็ลงไปเรื่อย ยังไม่ได้จัดอะไร ขนาดหัวหน้ายังไม่ได้เลย ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า พรุ่งนี้จะมีการโหวตนายกรัฐมนตรีแล้ว ก่อนจะเข้าอาคารรัฐสภา จะไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไหนเพื่อความเป็นสิริมงคลหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ไหว้พ่อไหว้แม่นี่แหละ เป็นสิริมงคลที่สุดแล้ว -สำนักข่าวไทย

“เท้ง” เมินออปชันสุดท้ายเพื่อไทย มั่นใจ สส.ปชน.ไม่แตกแถว ย้ำไม่มีฟรีโหวต

รัฐสภา 4 ก.ย.- “เท้ง” ลั่นไม่เสียดาย-ไม่ทบทวนมติโหวต “อนุทิน” นั่งนายกฯ เมินออปชันสุดท้ายเพื่อไทย ซัดไม่จริงใจ-ปล่อยข่าวชิงการเมือง มั่นใจ สส.พรรคประชาชน ไม่แตกแถว-ไม่มีฟรีโหวต นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ปฏิเสธกรณีที่มีกระแสข่าวความเห็นต่างภายในพรรคฯ ต่อการลงมติเลือกนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (5 ก.ย.) ว่า ไม่ได้มีความเห็นที่แตกต่างกันภายในพรรค และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา จนถึงตลอดทั้งวัน ก็มีความชัดเจนแล้วว่า พรรคเพื่อไทย ยุติกระบวนการยุบสภา และเดินหน้าเสนอชื่อนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาเป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมย้ำว่า กระบวนการตัดสินใจของพรรคประชาชน สิ้นสุดลงตั้งแต่คณะกรรมการบริหารพรรคฯ แถลงข่าว และลงนามร่วมกับพรรคภูมิใจไทยแล้ว ส่วนข้อเสนอไพ่ใบสุดท้ายของพรรคเพื่อไทย ที่จะยุบสภาทันทีหากนายชัยเกษม ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภานั้น หัวหน้าพรรคประชาชน ระบุว่า ถ้ามีการเสนอมาก่อนหน้านี้ และมีการพูดคุยอย่างเป็นทางการ ก่อนพรรคฯ จะมีมติ ตนเชื่อว่า ตน และสส.ภายในพรรค จะรับไว้พิจารณา แต่กระบวนการที่ผ่านมา ยังคงมีการให้ข่าวกลับไป กลับมา […]

“ชัยเกษม” แถลงให้คำมั่นหากเป็นนายกฯ ยุบสภาทันที

นนทบุรี 4 ก.ย.- “ชัยเกษม” แถลงยืนยันตอบรับข้อเสนอทุกข้อของพรรคประชาชน หากได้รับเลือกนั่งนายกฯ พร้อมยุบสภาทันที โดยไม่ต้องรอเวลาถึง 4 เดือน นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ตั้งโต๊ะแถลงการณ์จากบ้านพักส่วนตัว โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะ หัวหน้าพรรคประชาชาติ โดยนายชัยเกษม กล่าวว่า สวัสดีครับพี่น้องประชาชนและท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่เคารพ กระผมนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จากพรรคเพื่อไทย ขอยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยตอบรับข้อเสนอทุกข้อของพรรคประชาชน และหากผมได้รับการลงคะแนนให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จะยุบสภาทันที โดยไม่ต้องรอเวลาถึง 4 เดือน เพื่อคืนอำนาจให้ประชาชนเข้าสู่การเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยต่อไป กระผมขอยืนยันอีกครั้งว่า นี่คือสัญญาที่ทำไว้ต่อพี่น้องประชาชน และท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกคน ผมในฐานะนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำรัฐบาล จะปฏิบัติตามข้อตกลงนี้ โดยไม่มีข้อเปลี่ยนแปลง ไม่มีเงื่อนไขเพิ่มเติมใดๆ .-316 -สำนักข่าวไทย