การบินไทยจัดเที่ยวบินพิเศษรับคนไทยจากออสเตรเลียกลับบ้าน

กรุงเทพฯ  28 พ.ค. –การบินไทยจัดเที่ยวบินพิเศษเส้นทางไป-กลับออสเตรเลีย รับคนไทยกลับบ้าน 260 คน พร้อมเข้มมาตรการป้องกันโควิด-19 



นาวาอากาศตรี อนิรุต แสงฤทธิ์ ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายปฏิบัติการบิน ในฐานะหัวหน้าศูนย์ควบคุมการปฏิบัติการ (TOCC) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ปฏิบัติภารกิจรับคนไทยจากออสเตรเลียกลับประเทศไทย โดยให้ความร่วมมือกับกระทรวงการต่างประเทศของไทย สถานเอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย และสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา ประเทศออสเตรเลีย โดยจัดเที่ยวบินพิเศษเช่าเหมาลำ เส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ-เมลเบิร์น เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2563 เพื่อส่งชาวออสเตรเลียที่ตกค้างในประเทศไทยกลับประเทศ รวมทั้งรับผู้โดยสารชาวไทยที่ตกค้างในออสเตรเลียกลับไทย 


นาวาอากาศตรีอนิรุต กล่าวว่า การบินไทยได้จัดเที่ยวบินรับผู้โดยสารชาวไทยที่ตกค้างในออสเตรเลียที่ได้แจ้งความประสงค์กลับประเทศไทย และลงทะเบียนกับสถานเอกอัครราชทูต กรุงแคนเบอร์รา ประเทศออสเตรเลีย จำนวน 260 คน กลับถึงประเทศไทยสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี โดยเดินทางกลับด้วยเที่ยวบินที่ ทีจี 462 เส้นทาง เมลเบิร์น-กรุงเทพฯ ออกจากเมลเบิร์น เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2563 เวลา 23.30 น. (เวลาท้องถิ่น) ถึงกรุงเทพฯ เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ (28 พ.ค.) เวลา 06.00 น. ขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังได้ทำการขนส่งผู้โดยสารชาวออสเตรเลีย จำนวน 190 คน กลับประเทศ โดยเที่ยวบินที่ ทีจี 461 เส้นทางกรุงเทพฯ-เมลเบิร์น ออกจากกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2563 เวลา 08.10 น. ถึงเมลเบิร์น วันเดียวกัน เวลา 20.00 น. (เวลาท้องถิ่น) โดยมีพนักงานการบินไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ท่าอากาศยานเมลเบิร์น ออสเตรเลีย และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ร่วมปฎิบัติหน้าที่ประสานงานและอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสาร นอกจากนี้การบินไทยยังได้ทำการขนส่งสินค้าในเที่ยวบินทั้งขาไปและขากลับด้วย


ทั้งนี้ การบินไทยให้ความสำคัญด้านความปลอดภัยในสุขภาพของผู้โดยสารและพนักงานที่ปฏิบัติงานบนเที่ยวบิน เพื่อลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อโควิด-19 บริษัทฯ ได้ให้บริการผู้โดยสารด้วยการทำ Physical Distancing เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการตรวจรับบัตรโดยสาร การบริการอาหารบนเครื่องบินในรูปแบบอาหารกล่อง เพื่อลดการสัมผัสระหว่างบุคคลไปจนถึงขั้นตอนการนำผู้โดยสารลงจากเครื่องบินแบบเว้นระยะห่าง เพื่อหลีกเลี่ยงความแออัด พร้อมทั้งจัดให้มีการตรวจวัดอุณหภูมิผู้โดยสารหลังการให้บริการอาหารบนเที่ยวบินทั้ง 2 มื้อ รวมทั้งให้บริการเจลแอลกอฮอล์ล้างมือตลอดเที่ยวบิน พร้อมกันนี้บริษัทฯ ได้เน้นย้ำให้พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยอย่างเคร่งครัดขณะปฏิบัติหน้าที่ อาทิ สวมชุดป้องกัน สวมหน้ากากอนามัย และถุงมือ รวมทั้งคอยสังเกตอาการผู้โดยสารในระหว่างเที่ยวบิน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“โรม” ตั้งกระทู้ถามปมคุณสมบัติ ปธ.กสทช.

“โรม” ตั้งกระทู้ถาม ปม คุณสมบัติ ปธ.กสทช. ปูดคนรัฐบาลมีความสัมพันธ์กับ กสทช. เรื่องจึงไม่ขยับ ด้าน “ประเสริฐ” ปัดดองเรื่อง ขณะนี้ยื่นศาลรธน.ตีความแล้ว รอคำวินิจฉัย ยืนยันรัฐบาลแยกแยะเรื่องส่วนตัวจากการทำงาน ยึดประโยชน์ประชาชน

“อนุทิน” สั่งยกระดับเข้มงวดเข้าออกจุดผ่านแดนไทย

“อนุทิน” สั่งยกระดับความเข้มงวดในการเข้าออกจุดผ่านแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ป้องกัน ปราบปราม ยาเสพติด อาชญากรรมทุกประเภท ภายใต้ปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี

จับเว็บพนัน

ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง มีนักแสดงตัวประกอบเอี่ยวด้วย

ตำรวจไซเบอร์ ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง พบเงินหมุนเวียนเดือนละ 100 ล้าน มีนักแสดงตัวประกอบร่วมขบวนการ

เปิดใจผู้รอดชีวิตจากรถบัสมรณะ 18 ศพ

โศกนาฏกรรมรถบัสมรณะ 18 ศพ สร้างความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ให้กับชาว อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ วันนี้ทีมข่าวสำนักข่าวได้สัมภาษณ์เปิดใจผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ราวกับปาฏิหาริย์

ข่าวแนะนำ

ชายแดนไทย-เมียนมา ยังระอุ ปะทะเดือดใกล้จุดแตกหัก

ทหารกะเหรี่ยงใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีฐานทหารเมียนมา ตรงข้าม อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 800 เมตร โรงเรียนในฝั่งไทย ซึ่งอยู่ติดแนวปะทะ หยุดการเรียนการสอน 1 วัน ขณะที่มีชาวเมียนมาหนีภัยสู้รบเข้าไทยกว่า 400 คน

ทร.จับเรือประมงเมียนมารุกล้ำน่านน้ำไทย

ศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือระนอง จับกุมเรือประมงสัญชาติเมียนมา พร้อมลูกเรือและกัปตันเรือ 6 คน ขณะรุกล้ำน่านน้ำไทย บริเวณน่านน้ำเกาะช้าง จ.ระนอง ก่อนควบคุมเรือลำดังกล่าวมาตรวจสอบที่ท่าเรือน้ำลึกระนอง

แจ้งความเอาผิดขบวนการทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ผอ.องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ลุยเอง ยื่นหลักฐานให้ตำรวจ ปปป. เอาผิดขบวนการทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก ระบุทำกันมานานเกือบ 10 ปี พบทั้งข้าราชการ-อดีตข้าราชการ เอี่ยวประมาณ 20 คน

รู้เบาะแสคนร้ายชิงทอง 102 บาท คาดเป็นคนในพื้นที่

ตำรวจรู้เบาะแสคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทอง 102 บาท ภายในห้างดังกลางเมืองแม่สอด คาดยังหลบอยู่ในพื้นที่ สั่งคุมเข้มแนวชายแดน ป้องกันคนร้ายหลบหนี พร้อมยกระดับมาตรการดูแลร้านทอง-ห้างสรรพสินค้า ป้องกันเหตุซ้ำรอย