แพทย์ชี้ไม่จำเป็นต้องรื้อระบบคัดกรองโควิด-19 หลังพบผู้ป่วยใหม่ในวันที่14 ของการกักตัว

สธ.27 พ.ค.-รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ย้ำไม่จำเป็นต้องรื้อระบบคัดกรองโรคใหม่ หลังพบผู้ป่วยกักตัวในสถานที่กักตัวรัฐจัดหาให้ในวันที่ 14 เพราะยังอยู่ในหลักเกณฑ์ ขอให้ทำตามกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่แค่ถูกใจ ยืนยันการป่วยในผู้ป่วยรายนี้ติดเชื้อจากต่างประเทศ  พร้อมเผยรถ ไฟฟ้า BTS เริ่มทดลองให้บริการเดินรถแบบเปิดหน้าต่าง หลังพบปัญหาคนแออัดในชั่วโมงเร่งด่วน พร้อมเชียร์ MRT ทำตาม ดูดอากาศภายนอกเข้าตัวรถ ช่วยอากาศถ่ายเท 


นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค  กล่าวในการแถลงข่าวสถานการณ์โควิด-19 ประจำวันของกระทรวงสาธารณสุข ว่า สถานการณ์โควิดในวันนี้พบผู้ป่วยเพิ่มจำนวน 9 คน ทั้งหมดกลับมาจากต่างประเทศ และถูกกักตัวภายในสถานที่รัฐจัดหาให้ หรือ State Quarantine  มาจาก สหรัฐอเมริกา 2 คน , การ์ตา 1 คน และซาอุดิอาระเบีย  6 คน  ซึ่งจากการสอบสวนโรคในส่วนนี้ที่พบผู้ป่วยในวันที่ 14 ของการกักตัว ไม่ถือเป็นเรื่องแปลก ทุกอย่างเป็นไปตามหลักวิชาการ ดังนั้น ไม่จำเป็นที่จะต้องมีการขยายมาตรการเฝ้าระวังให้มากกว่า 14  วัน เพราะการป่วยนี้ ไม่ได้แสดงอาการทันที นิยามการเฝ้าระวังครอบคลุมอยู่แล้ว ในรายที่เดินทางกลับมาจากสหรัฐอเมริกา ไม่ได้หมายความว่า เพิ่งป่วยเมื่อวันที่ 14 เขาอาจป่วยมาก่อนและไม่ได้แสดงอาการและรายนี้เป็นการติดเชื้อมาจากต่างประเทศ จึงไม่จำเป็นต้องปรับแก้ไขนิยามโรค ทุกอย่างต้องทำตาม และอาศัยหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่แค่ความรู้สึก 

นพ.ธนรักษ์ กล่าวว่า ในต่างประเทศมีการศึกษาการป่วยและติดเชื้อ อย่างในจีน พบว่าการเดินทางด้วยรถโดยสารปรับอากาศ เป็นระบบอากาศปิด ทำให้อัตราการแพร่เชื้อแม้คนป่วยจะนั่งท้ายรถโดยสาร แต่โอกาสที่จะติดเชื้อสามารถเกิดขึ้นได้ โดยระยะหว่างระหว่างคนป่วยกับคนที่สัมผัสติดเชื้อมีระยะได้ไกลถึง 4.5 เมตร เช่นเดียวกับการรับประทานอาหารในร้าน ที่มีการติดเครื่องปรับอากาศ อากาศจะวนหมุนอยู่ในห้อง การนั่งทานอาหารแบบโต๊ะจีนมีโอกาสเสี่ยงติดโรค ดังนั้นต้องมีการเว้นระยะห่าง และหาอุปกรณ์ หรือฉากมากั้นเพื่อความปลอดภัย เพราะการรับประทานอาหารต้องถอดหน้ากากอนามัย


นพ.ธนรักษ์ กล่าวว่า ข้อมูลจากประเทศสวีเดนที่ตอนแรก ประเทศมีความตั้งใจที่จะให้ร่างกายของประชากรในประเทศได้รับภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ จึงปล่อยให้มีการติดเชื้อ โดยหวังว่าภายในเดือนพฤษภาคมนี้ จะมีคนป่วยในประเทศมากถึงร้อยละ 60 แต่ปรากฎว่า ประชากรกลับมีภูมิคุ้มกันแค่ร้อยละ 7  และต้องเผชิญกับอัตราการป่วยจำนวนมาก และอัตราการเสียชีวิต ซึ่งเรื่องเหล่านี้ล้วนเป็นบทเรียนให้ไทย นำมาปรับใช้ 

นพ.ธนรักษ์ กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ทราบว่าเมื่อมีการผ่อนปรนมาตรการกิจกรรม และกิจการทำให้คนเดินทางกันมากขึ้น ข้อมูลจากรถไฟฟ้าบีเอส พบว่าใช่วงเวลาเร่งด่วน การเดินทางอยู่สภาพแออัด ทางรถไฟฟ้าบีทีเอสจึงได้มีการทดลองออกมาตรการ เปิดหน้าต่างเดินรถ เพื่อลดโอกาสการแพร่โรค และ ความแออัด ทำให้อากาศถ่ายเท ซึ่งทางกรมควบคุมโรค ก็เห็นว่าเป็นเรื่องที่ดี และหากมีการศึกษาวิจัย จะได้เป็นข้อมูลพื้นฐานในการป้องกันโรค ซึ่งในส่วนของรถไฟฟ้าMRT ก็สามารถทำได้ แม้อยู่ใต้ดิน ใช้ระบบเดียวกับเครื่องบิน ดึงอากาศภายนอกเข้าไปในรถ โดยผ่านระบบ

HEPA Filter กรองอากาศเข้าไป  ซึ่งเรื่องกลไกของอากาศในเครื่องบิน ก็ถูกนำมาเป็นหลักใช้ในการสอบสวนโรค เพราะว่าอากาศจะวนหมุนอยู่ในตำแหน่ง 2 แถวหน้า  และ  2 แถวหลังเท่านั้น   


นพ.ธนรักษ์ กล่าวด้วยว่า  มาตรการเหลื่อมเวลายังควรนำกลับมาใช้ทั้งในธุรกิจ กิจการขนาดใหญ่และเล็ก เพื่อป้องกันโรค ส่วนสถานการณ์การป่วยของไทย ในแต่ละจังหวัดพบมีถึง 65 จังหวัด ไม่มีผู้ป่วยมาแล้วในรอบ 4  สัปดาห์ และ 10 จังหวัด พบอัตราการป่วยร้อยละ 0.1-1 คน ซึ่งแม้ว่าสถานการณ์แนวโน้มจะดีขึ้น แต่ก็ไม่สามารถไว้วางใจ เพราะ 8-9 จังหวัด ที่เคยมีอัตราการป่วยสูง แต่วันนี้ไม่พบอัตราการป่วย ก็อาจเป็นไปได้ที่ จะมีผู้ป่วยไม่แสดงอาการอยู่ในชุมชน ดังนั้นจำเป็นที่จะต้องมีการสอบสวนโรค และค้นหาผู้ป่วย 

ส่วนกรณีที่เกาหลีใต้พบการติดเชื้อในศูนย์กระจายสินค้าออนไลน์ ซึ่งทำให้วิถีชีวิตใหม่ของคนไทย ที่ใช้ซื้อขายผ่านออนไลน์กังวล กลัวติดเชื้อนั้น ย้ำว่า ควรระวังแต่อย่าวิตก เพราะระบบของบริษัทต้องมีการตรวจวัดไข้คนทำงาน แต่ในส่วนของสินค้าหากไม่แน่ใจ อย่าเพิ่งรีบแกะ พักไว้ก่อน แต่อยากให้ทำความเข้าใจว่า เชื้อโควิดอยู่ในสิ่งแวดล้อมในอากาศ 20 องศาเซลเซียส นานที่สุด2 วัน เมืองไทยมีสภาพอากาศร้อนจัด เชื้อไม่น่า จะอยู่ในสภาพแวดล้อมได้นาน .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร