กฟผ.เตรียมรับซื้อปาล์มรอบใหม่ 1-2 สัปดาห์นี้

กรุงเทพฯ 27 พ.ค. – กฟผ.คาดจะเปิดรับซื้อปาล์มผลิตไฟฟ้าได้ใน 1-2 สัปดาห์นี้ รอกรมการค้าภายในแจ้งราคาแนะนำ และรายชื่อโรงสกัด ตามข้อกำหนดรัฐที่ต้องมีสตอกเกินร้อยละ 50 รอรัฐชี้ขาดเงินซื้อใช้งบกลางหรือค่าไฟฟ้าเอฟที ด้าน สนพ.รายงานภาวะเชื้อเพลิงชีวภาพ


นายพัฒนา แสงศรีโรจน์ รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า ได้ทำหนังสือสอบถามไปยังกรมการค้าภายในตามนโยบายรัฐบาลให้เปิดประมูลราคาปาล์มดิบหรือซีพีโอ เพื่อผลิตไฟฟ้าอีก 37,550 ตัน  ว่าจะให้กำหนดราคาแนะนำเพื่อประมูลเท่าใด และโรงงานสกัดใดบ้างมีสิทธิ์เสนอราคา เพราะตามข้อกำหนดของรัฐบาล คือ ให้ กฟผ.ซื้อเฉพาะโรงงานที่มีสตอกเกินร้อยละ 50เท่านั้น หากได้รับคำตอบสัปดาห์นี้ ทาง กฟผ.ก็จะเปิดประมูลได้ใน 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า โดยที่ผ่านมางบฯที่ กฟผ.นำมาซื้อปาล์มรวมเกือบ 5,000 ล้านบาท และกำลังรอความชัดเจนว่ารัฐจะจ่ายให้ กฟผ.ด้วยงบกลาง หรือให้นำไปคำนวณค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ หรือเอฟที

“เงื่อนไขการรับซื้อทาง กฟผ.ทำตามนโยบายรัฐบาล เงินรับซื้อทั้งหมด ทาง กฟผ.ออกไปก่อนและภาครัฐจะมีการจ่ายให้คืนอย่างไร สุดท้ายก็เป็นของรัฐทั้งหมด ซึ่งต้องยอมรับว่าการนำซีพีโอมาผลิตไฟฟ้า ต้นทุนสูง แต่เมื่อรัฐให้ดำเนินการ กฟผ.ก็พร้อมทำตามเพื่อร่วมดึงราคาปาล์มให้สูงขึ้น” นายพัฒนา กล่าว 


นายพัฒนา กล่าวว่า หากภาครัฐเห็นชอบให้นำเงินที่ซื้อปาล์มผลิตไฟฟ้าไปคำนวณเป็นเป็นค่าไฟฟ้าเอฟที ทางกระทรวงพลังงานก็จะต้องเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เปลี่ยนแปลงเกณฑ์การซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าบางปะกงจากโรงไฟฟ้าที่มีต้นทุนการผลิตต่ำสุดตามลำดับ (Merit order) ตามความต้องการไฟฟ้าขณะนั้น ๆ เป็นการสั่งเดินเครื่องโรงไฟฟ้าที่จำเป็นต้องเดิน (Must run และ Must take) เนื่องจากเป็นการเดินเครื่องสนองนโยบายรัฐบาลในการดูดซับซีพีโอแก้ไขปัญหาราคาตกต่ำ  โดยที่ผ่านมา กฟผ.ดำเนินการตามมาตรการรัฐในการเข้าไปรับซื้อซีพีโอ เพื่อผลิตไฟฟ้าแล้ว 320,789 ตัน และการที่ใช้โรงไฟฟ้าบางปะกงแทนที่จะใช้โรงไฟฟ้ากระบี่ก็เนื่องจากสามารถดูดซับปาล์มได้ปริมาณสูง ซึ่งที่ผ่านมา กฟผ.ก็ต้องลงทุนปรับเปลี่ยนเครื่องจักรของโรงไฟฟ้าให้มาใช้ซีพีโอได้ และไม่ได้คำนวณเป็นต้นทุนการผลิตที่แจ้งต่อภาครัฐแต่อย่างใด 

ด้านนายวัฒนพงษ์  คุโรวาท ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพ ในช่วงวันที่ 25-31 พฤษภาคม 2563 คาดผลผลิตผลปาล์มดิบเดือน พฤษภาคมและมิถุนายนจะอยู่ที่ประมาณ 1.67 และ 1.56 ล้านตัน ลดลงร้อยละ 10.83 จากปีที่แล้ว และ ณ สิ้นเดือนมีนาคมปริมาณการผลิตไบโอดีเซล 4.83 ล้านลิตร/วัน และปริมาณการใช้ไบโอดีเซล 5.32 ล้านลิตร/วัน  ส่วนเอทานอลภาคเชื้อเพลิงเดือนเมษายนอยู่ที่ 2.80 ล้านลิตรต่อวัน ลดลงจากเดือนมีนาคม ประมาณ 1.17 ล้านลิตรต่อวัน โดยมาตรการ “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” ทำให้การใช้รถยนต์เพื่อเดินทางลดลง ส่งผลทำให้การใช้เชื้อเพลิงชีวภาพลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

ทั้งนี้  ราคาน้ำมันไบโอดีเซลอ้างอิงเฉลี่ย วันที่ 25-31 พฤษภาคม 2563 อยู่ที่ 25.16 บาทต่อลิตร เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว 0.15  บาทต่อลิตร  ส่วนราคาผลปาล์ม  ณ วันที่ 18-22 พฤษภาคม 2563 อยู่ที่ 3.10 – 3.30 บาทต่อ กก. โดยราคาซีพีโอ อยู่ที่ 20.5 – 21.25 บาทต่อ กก. ปริมาณสตอกซีพีโอ  ณ สิ้นเดือนเมษายนประมาณ  251,369 ตัน สูงขึ้นจากเดือนมีนาคมประมาณ ร้อยละ 48.7 


ส่วนราคาเอทานอลอ้างอิงเดือนพฤษภาคม 2563 อยู่ที่ 23.28 บาทต่อลิตร  ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนก่อน ขณะที่กำลังการผลิตรวม 6.10 ล้านลิตรต่อวัน ผลิตจริงเดือนมีนาคมอยู่ที่ 4.49 ล้านลิตรต่อวัน ลดลงจากเดือนกุมภาพันธ์ 0.65 ล้านลิตรต่อวัน ปริมาณการใช้ในเดือนเมษายนอยู่ที่ 2.80 ล้านลิตรต่อวัน ลดลงจากเดือนมีนาคมประมาณ 1.17 ล้านลิตรต่อวัน ส่วนปริมาณการใช้ผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดมือในเดือนเมษายนอยู่ที่ 0.52 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 0.15 ล้านลิตรต่อวัน .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กต. ลั่นจะพูดคุยกัน เขมรต้องจริงใจก่อน ซัดพูดอย่างทำอย่าง แถมบิดเบือน

กระทรวงการต่างประเทศ 27 ก.ค.- กต. ขีดเส้นใต้ จะพูดคุยกันได้ “เขมร” ต้องจริงใจก่อน “นิกรเดช” ซัดพูดอย่างทำอย่าง นอกจากใช้พลเรือนเป็นโล่กำบังแล้ว ยังใช้โบราณสถานกำบังด้วย แถมบิดเบือน-สร้างข้อมูลเท็จ ผู้เชี่ยวชาญยังรู้เป็นภาพเก่า รับทราบพรุ่งนี้ “ภูมิธรรม” บินคุย “ฮุน มาเนต” หลัง “ทรัมป์” ต่อสายคุย เผย “มาริษ” ร่อนแล้ว เอกสารถึง UNICEF-OHCHR ยันกัมพูชาเริ่มก่อน นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ข้อเสนอหยุดยิงตามที่หลายท่านคงทราบอยู่แล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา (26 ก.ค.68) นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี ได้หารือกับนายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดยฝ่ายไทยได้ยืนยันอย่างหนักแน่นถึงจุดยืนของไทยในการแก้ไขปัญหาชายแดนกับกัมพูชาด้วยสันติวิธี โดยเฉพาะผ่านการเจรจาทวิภาคี ซึ่งฝ่ายไทยเราได้ย้ำมาโดยตลอดในทุกโอกาส ฝ่ายไทยจึงคาดหวังว่าจะเห็นความตั้งใจจริงจากกัมพูชา ในการยุติการใช้ความรุนแรง โดยเฉพาะเรื่องการโจมตีที่ไม่เลือกเป้าหมาย หากฝ่ายกัมพูชาแสดงความจริงใจและสุจริตใจในการแก้ไขปัญหา ฝ่ายไทยก็พร้อมจะหารือด้วย เพื่อร่วมกันกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนอย่างสันติและยั่งยืน นายนิกรเดช กล่าวต่อว่า การโจมตีเป้าหมายพลเรือนโดยกองกำลังกัมพูชาบนแผ่นดินไทยเหตุการณ์เมื่อคืน กัมพูชาได้เปิดฉากโจมตีหลายจุดตามแนวชายแดนไทยอีกครั้ง […]

ปัญหาชายแดนไทยกัมพูชา

ไทยรับคำเชิญ “อันวาร์” ถกปัญหาชายแดน “ภูมิธรรม” นำทีมไทยแลนด์เจรจา

ทำเนียบรัฐบาล 27 ก.ค. – รัฐบาลยืนยัน “อันวาร์” ประธานอาเซียน เชิญผู้นำไทยถกปัญหาไทย-กัมพูชา “ภูมิธรรม” นำทีมไทยแลนด์เจรจา ย้ำไม่มีการเจรจาเรื่องแผนที่ ยืนยันการรักษาอธิปไตยของประเทศแม้ตารางนิ้วเดียวก็ให้ใครไม่ได้ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ. ทก.) เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยได้รับคำเชิญจากนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเชีย ในฐานะประธานอาเชียน ให้เดินทางไปร่วมหารือ แนวทางสันติภาพในภูมิภาคนี้ ในวันพรุ่งนี้ (จันทร์ที่ 28 กรกฎาคม 2568) ณ ทำเนียบนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยคณะจะออกเดินทางจากกองทัพอากาศเวลาประมาณ 10.30น และเข้าหารือ เวลา 15.00 น.ตามเวลาประเทศมาเลเซีย คณะของทีมไทยแลนด์นำโดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรีและตนในฐานะกรรมการ ศบ.ทก. ทั้งนี้ ได้รับแจ้งว่า […]

แม่ “จ.ส.อ.ธวัชชัย” เปลี่ยนความเสียใจเป็นภาคภูมิใจ

มุกดาหาร 27 ก.ค. – แม่ “จ.ส.อ.ธวัชชัย” ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุปะทะไทย-กัมพูชา เปลี่ยนความเสียใจเป็นภาคภูมิใจในตัวลูกชายที่ได้รับใช้ชาติ ที่จังหวัดมุกดาหาร ผู้ว่าราชการจังหวัด เชิญสิ่งของพระราชทานมอบให้ครอบครัว จ.ส.อ.ธวัชชัย บุสภา หรือ จ่าโต๋ ซึ่งเสียชีวิตบริเวณฐานปฏิบัติการฟ้าลั่น (เขาสัตตะโสม) อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จากเหตุปะทะและการยิงถล่มของกัมพูชาบริเวณเนิน 333 แม่ของ จ.ส.อ.ธวัชชัย บอกว่าตอนนี้ตนได้เปลี่ยนจากความเสียใจเป็นภาคภูมิใจในตัวลูกชายในการรับใช้ชาติ อีกทั้งครอบครัวได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถือเป็นบุญของลูกชายและครอบครัว ส่วนน้องชายที่เป็นทหารพรานอยู่ตอนนี้ก็ไม่ถอดใจ ส่วนที่ศาลาประชาคมชาวบ้านห้วยเตย ตำบลศรีสุขสำราญ อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น เชิญธงชาติขึ้นสู่ยอดเสาพร้อมใจกันร้องเพลงชาติไทยดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เพื่อแสดงพลังและส่งกำลังใจให้ทหารทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องรักษาชายแดนไทยและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมเปิดจุดรับบริจาคสิ่งของเพื่อนำส่งความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่และผู้ประสบภัย.-สำนักข่าวไทย

ชายแดนสุรินทร์ยังปะทะหนัก แม้ “ทรัมป์” เสนอเจรจาหยุดยิง

สุรินทร์ 27 ก.ค.-ชายแดนสุรินทร์ยังปะทะหนัก กัมพูชาเปิดฉากยิงใส่แต่เช้ามืด กระสุนบางส่วนตกใส่หมู่บ้านฝั่งไทย ขยายรัศมีไกลขึ้นเรื่อยๆ แม้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ เสนอเจรจาหยุดยิง แม้จะมีการเจรจาหยุดยิงผ่านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา แต่ขณะที่ยังไม่มีการเจรจาทวิภาคี ระหว่างไทย-กัมพูชา เช้ามืดวันนี้ ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ ก็ยังมีการปะทะกันอย่างหนัก จนกระสุนมาตกสร้างความเสียหายให้ราษฎรไทยอย่างที่เห็น“ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านปราสาทตาควายและตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เริ่มเปิดฉากปะทะกันตั้งแต่ช่วงตี 4 กระสุนจากการประทะบางส่วนเข้ามาตกในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ตำบลบ้านพลวง อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งปรากฏกระสุนรุกล้ำดินแดนไทยลึกเข้ามาเรื่อยๆ ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทั้งหลัง และมีไฟลุกไหม้ เศษสังกะสี ซีเมนต์ วัสดุโครงสร้างบ้านปลิวกระจัดกระจาย เคราะห์ยังดี ที่เจ้าของบ้านอพยพออกนอกพื้นที่หมดแล้ว เพราะเจ้าหน้าที่ขอร้องให้อพยพออกไปเมื่อวานนี้ จึงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต บางจุดลงฟาร์มวัววากิว ทำให้วัวตายไป 6 ตัว เจ้าของวัวเล่าว่า ตื่นขึ้นมาก็ได้ยินเสียงลูกปืนใหญ่ของ 2 ฝ่าย และสังเกตเห็นจรวด BM-21 พุ่งเข้ามาที่คอกวัว จึงได้หลบหาที่กำบัง พอเสียงเงียบ ตนก็รีบออกมาดู ก็พบว่า วัวของตนถูกกระสุนตายไป […]