ดีอีเอสเตรียมทำแอปใหม่เตือนเช็กเอาท์หลังใช้บริการร้านค้า

ทำเนียบรัฐบาล 27 พ.ค.-โฆษก ศบค.เผยตัวเลขผู้ป่วยใหม่ 9 ราย กลับจากต่างประเทศทั้งหมด ไม่เสียชีวิตเพิ่ม ขออาชีพกลุ่มเสี่ยงดูแลสุขลักษณะเข้มงวด ป้องกันติดเชื้อ ดีอีเอสเตรียมทำแอปใหม่เตือนเช็กเอาท์หลังใช้บริการร้านค้า


นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์โควิด-19 ว่า วันนี้ (27 พ.ค.) ไทยมีรายงานผู้ป่วยใหม่  9 ราย รวมผู้ป่วยสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 3,054 ราย รักษาหาย 2,931 ราย รักษาอยู่ 66 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 57 ราย ซึ่งผู้ป่วยใหม่ 9 รายทั้งหมดเดินทางกลับจากต่างประเทศและเข้าสถานกักกันตัวที่รัฐจัดให้ โดย 2 รายแรก เป็นชายไทย อายุ 18 และ 27 ปี กลับจากประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม เข้าพักในสถานที่ที่รัฐจัดให้ที่จังหวัดชลบุรี และตรวจพบเชื้อวันที่ 26 พฤษภาคม โดยไม่มีอาการ

“รายที่ 3 เป็นชายไทยอายุ 34 ปีอาชีพพนักงานนวด กลับมาจากประเทศกาตาร์ เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม เข้าพักในสถานที่ที่รัฐจัดให้ที่จังหวัดสมุทรปราการ มีอาการไข้ 38 องศาเซลเซียส ไอ จมูกไม่ได้กลิ่น ตรวจพบเชื้อวันที่ 25 พฤษภาคม อีก 6 รายเป็นนักศึกษาชายอายุ 23 ถึง 33 ปี กลับจากประเทศซาอุดิอาระเบีย ผ่านเข้ามาทางด่านปะดังเบซาร์เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม เข้าพักในสถานที่ที่รัฐจัดให้ที่จังหวัดสงขลา 3 คน ยะลา 1 คน ปัตตานี 1 คน และนราธิวาส 1 คน ตรวจพบเชื้อวันที่ 25 พฤษภาคม ซึ่งอาจจะปิดด่านปะดังเบซาร์ เนื่องจากมีผู้ป่วยเดินทางผ่านแดนเข้ามา เพื่อทำความสะอาดจุดต่าง ๆ” โฆษกศบค. กล่าว


นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า จำนวนผู้ป่วยยืนยันสองสัปดาห์ล่าสุด จำแนกตามปัจจัยเสี่ยงพบว่าเป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานกักกันของรัฐจำนวน 15 ราย สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้า 8 ราย และไปสถานที่ชุมชน เช่นตลาดนัด สถานที่ท่องเที่ยว 4 ราย สำหรับผู้ป่วยบางราย พบว่าไม่มีอาการเมื่ออยู่ในสถานกักกันตัวของรัฐ แต่ตรวจพบในวันที่ใกล้ครบกำหนด 14 วัน แต่ทั้งนี้ ยังไม่มีมาตรการเปลี่ยนแปลงการกำหนดระยะเวลาการกักกันตัว โดยยังคงอยู่ที่ 14 วันเช่นเดิม และจะตรวจหาเชื้อทั้งก่อนเข้าและออกจากสถานกักกันตัวของรัฐ ส่วนอาชีพของผู้ป่วยที่พบว่าเป็นพนักงานนวดตั้งข้อสังเกตว่าเป็นอาชีพที่สัมผัสใกล้ชิดกัน ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงปานกลางไปถึงสูง ดังนั้น ผู้ให้บริการจะต้องดูแลป้องกันสุขลักษณะอย่างเข้มงวด 

โฆษกศบค. กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์โลก พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รวม 5,684,795 ราย เสียชีวิต 352,225 ราย สหรัฐอเมริกาพบติดเชื้อมากที่สุด  1,725,275 ราย  ขณะที่ไทยอยู่ที่อันดับที่ 77 ของโลก ส่วนประเด็นที่น่าสนใจในต่างประเทศ รัฐบาลอังกฤษจะอนุญาตให้เปิดร้านค้า ห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้า ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนเป็นต้นไป ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ เปิดทางให้ธุรกิจต่าง ๆ กลับมาดำเนินการได้อีกครั้ง


“รัฐบาลญี่ปุ่นเพิ่มรายชื่ออีก 11 ประเทศที่ห้ามประชาชนในประเทศดังกล่าวเดินทางเข้าสู่ญี่ปุ่น ได้แก่ อินเดีย อาร์เจนตินา แอฟริกาใต้ อัฟกานิสถาน บังคลาเทศ เอลซัลวาดอร์ กานา กินี เคอร์กิสถาน ปากีสถานและทาจิกิสถาน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 พร้อมออกคำเตือนไม่ให้ชาวญี่ปุ่นเดินทางไปยังกลุ่มประเทศดังกล่าวด้วย นอกจากนี้รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศยกเลิกภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศแล้ว โดยจะประเมินสถานการณ์การติดเชื้อทุก 3 สัปดาห์” นพ.ทวรศิลป์ กล่าว

โฆษกศบค. กล่าวว่า ส่วนอินโดนีเซียมีคำสั่งให้ทหารและตำรวจกว่า 340,000 นายใน 4 จังหวัดออกปฏิบัติการควบคุมการใช้กฎข้อบังคับ ให้ประชาชนต้องสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่อออกจากที่พักและการเว้นระยะห่างทางสังคม หลังมีรายงานว่าประชาชนจำนวนมากออกมาเลือกซื้อสินค้าตามตลาดและร้านค้า เพื่อเฉลิมฉลองหลังสิ้นสุดเทศกาลถือศีลอดในเดือนรอมฎอน ที่เกาหลีใต้พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 36 รายที่มาจากศูนย์กระจายสินค้าออนไลน์คูปัง ที่เมืองบูชอน ทางตะวันตกของกรุงโซล และคาดว่าตัวเลขน่าจะเพิ่มขึ้นอีก ทำให้ต้องตรวจโรคพนักงานกว่า 3,600 คน

“การยกตัวอย่างของต่างประเทศ ไม่ได้เป็นการขู่ประชาชน แต่ต้องการให้เกิดการเรียนรู้ว่าในอนาคตหากผ่อนคลายมาตรการแล้วจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง หากทุกคนเรียนรู้ไปพร้อมกัน จะทำให้เกิดประโยชน์กับทุกฝ่าย ทั้งประชาชนมีสุขภาพดีและบุคลากรทางการแพทย์จะได้ทำงานน้อยลง” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

โฆษกศบค. กล่าวถึงการใช้แพลตฟอร์มไทยชนะ ผ่าน www.ไทยชนะ.com ว่า การใช้งานของวานนี้(26 พ.ค.) เวลา 21.00 น. พบว่ามีร้านค้าลงทะเบียน 116,175 ร้าน  มีผู้ใช้งาน 13,769,194 คน มีผู้เช็กอิน 34,827,852 คนและเช็กเอาท์ 23,563,704 คน และมีการประเมินร้านค้า 13,567,825 คน ส่วนห้าประเภทกิจการที่มีรายงานคะแนนสูงสุด ได้แก่ การถ่ายทำรายการโทรทัศน์ ร้อยละ 4.98 คลินิกเสริมความงาม  ร้านเสริมสวย ร้อยละ 4.98 บริการทางการแพทย์ ร้อยละ 4.97 พิพิธภัณฑ์และห้องสมุดร้อยละ 4.97 สถานที่บริการเด็กหรือผู้สูงอายุร้อยละ 4.96 

“ปัญหาการใช้แพลตฟอร์มไทยชนะที่มีประชาชนเช็กอินและลืมเช็คเอาท์ เบื้องต้นทางกระทรวงดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอีเอส) จะทำแอปพลิเคชันขึ้นมา เพื่อให้ประชาชนลงทะเบียนและเมื่อสแกนคิวอาร์โค้ดในการเช็คอินแล้วจะมีระบบเตือนประชาชนไม่ลืมเช็คเอาท์” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย       

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พระขโมยรถยนต์โยมวันเข้าพรรษา

กาฬสินธุ์ 12 ก.ค.-วงการผ้าเหลืองไม่แผ่ว พระหนุ่มขโมยรถยนต์ญาติโยมที่มาทำบุญวันเข้าพรรษา ถูกตำรวจสกัดจับได้ทันควัน ตำรวจ สภ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ สกัดจับรถเก๋งสีดำคันบริเวณสี่แยกไฟแดง อ.สมเด็จ หลังรับแจ้งว่าพระสงฆ์หนุ่มแอบขโมยรถจากญาติโยมที่มาทำบุญในวันเข้าพรรษา แล้วขับหนีมาทาง อำเภอสมเด็จ ตำรวจจึงออกสกัดจับจนเจอ ส่วนพระสงฆ์ที่ก่อเหตุมีอาการพูดจาวกไปวนมา ตำรวจจึงนำตัวมาสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก และแจ้งให้เจ้าของรถมารับรถคืน เตรียมดำเนินคดีกับพระรูปนี้ต่อไป หลังสึกจากการเป็นพระ.-สำนักข่าวไทย

น้ำป่าทะลักท่วมแพร่ บ้านเรือนเสียหายหนัก

แพร่ 12 ก.ค.-ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ จ.แพร่ น้ำป่าทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรช่วงกลางดึก เสียหาย 2 อำเภอ เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมพื้นที่ชุมชนในตำบลแดนชุมพล จังหวัดแพร่ และอำเภอร้องกวางบางส่วน เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างหนักในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหายในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลุ่มและแนวทางน้ำธรรมชาติที่รับน้ำจากภูเขาและป่าใกล้เคียง ปริมาณน้ำที่หลากเข้ามาเกิดจากฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดช่วงคืนที่ผ่านมา ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านไม่ทันตั้งตัว ทรัพย์สินของประชาชนบางส่วนได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะบ้านโทกค่า อำเภอสอง จังหวัดแพร่ หลายหลังคาเรือนได้รับผลกระทบเนื่องจาก ไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้มาก่อน ปีนี้น้ำมากกว่าทุกปี ทำให้เก็บข้าวของไม่ทัน ได้รับความเสียหาย ครั้งสุดท้ายที่เคยท่วม ตั้งแต่ปี 2538 .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ปมมีชื่อพระโผล่คลิปสีกา ก.

กรุงเทพฯ 11 ก.ค. – เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ เผยกรณีปรากฏชื่อ “พระปริยัติธาดา” ในคลิปพัวพันสีกา ก. มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร จากกรณีปรากฏรายชื่อพระในคลิปมีความสัมพันธ์กับ “สีกา ก.” จนถึงขั้นปาราชิก หนึ่งในนั้นคือ พระปริยัติธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร และมีรายงานข่าวว่าท่านหายตัวจากวัดหลังจากตกเป็นข่าว ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังวัดกัลยาณมิตรฯ พบว่าพระของวัดทุกรูปลงโบสถ์เพื่อประกอบศาสนกิจเนื่องในวันเข้าพรรษา ภายในพระอุโบสถ ภายหลังประกอบศาสนกิจลงโบสถ์ของพระวัดกัลยาณมิตรฯ เสร็จสิ้น พระพรหมกวี เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ ได้ถ่ายรูปกับพระใหม่และพระสงฆ์ในวัด และให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปถ่ายภาพ พร้อมกับพูดคุยเบื้องต้น กรณีปรากฏชื่อของพระปริยัติธาดา เป็นหนึ่งในบุคคลในคลิปที่เกี่ยวข้องกับสีกา ก. ว่าส่วนตัวไม่ทราบ คนเราไม่ได้รู้เรื่องส่วนตัวของคนอื่น มองเป็นเรื่องธรรมชาติในสังคมที่มีทั้งคนดีและไม่ดี เรื่องนี้เป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร และอยากถาม พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว เพื่อขอดูคลิปที่กล่าวอ้าง ถ้าภาพมันชัดเจนก็ต้องออกตามกฎ ซึ่งใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น เมื่อถามว่า พระปริยัติธาดา ออกไปจากวัดตั้งแต่เมื่อไร พระพรหมกวี บอกว่า ท่านออกไปจากวัด 6-7 วันแล้ว ก็ออกไปเฉยๆ ไม่ได้สึกออกไป และไม่รู้ว่าตอนนี้สึกหรือยัง แต่หากจะสึกต้องแจ้งมาที่วัด […]

ข่าวแนะนำ

พระปรางค์วัดอรุณ

ข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.- “แพทองธาร” เผยข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลกของยูเนสโกแล้ว นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า “ข่าวดีของคนไทย “พระปรางค์วัดอรุณ ราชวรารามราชวรมหาวิหาร” ได้รับการบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก (Tentative List) ของยูเนสโกแล้วค่ะ ดิฉันได้รับรายงานจากคณะผู้แทนไทยในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ณ กรุงปารีส แจ้งว่า ที่ประชุมได้รับทราบว่าพระปรางค์วัดอรุณฯ เป็นหนึ่งในรายชื่อบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) นับเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการยกระดับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอย่างสมบูรณ์ในอนาคต กระทรวงวัฒนธรรมมอบหมายให้กรมศิลปากรดำเนินการจัดทำเอกสารเสนอชื่อ (Nomination Dossier) ควบคู่กับการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และจัดการพื้นที่ตามหลักสากล เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ขั้นตอนต่อไป ความคืบหน้านี้เป็นมากกว่าการอนุรักษ์สถานที่ แต่คือการยืนยันอัตลักษณ์ไทยที่งดงามและทรงคุณค่าในสายตาชาวโลก นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทย ที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่นี้” .-316 สำนักข่าวไทย

ตรวจสอบรายรับรายจ่ายวัดใหญ่จอมปราสาท

สมุทรสาคร 13 ก.ค. – เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบรายรับรายจ่ายของวัดใหญ่จอมปราสาท นำมาเทียบกับเส้นเงินของของเจ้าอาวาสที่หนีไป หลังตรวจพบโอนเงินให้สีกา ก. กว่า 1 ล้านบาท ที่วัดใหญ่จอมปราสาท ต.ท่าจีน อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พร้อมด้วย พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. นำคณะเข้าพบ พระครูสาครสุตกิจ เจ้าคณะตำบลท่าฉลอม เจ้าอาวาสวัดน้อยนางหงษ์ คณะพระสงฆ์ (พระลูกวัด) วัดใหญ่จอมปราสาท ผู้นำชุมชน และคณะกรรมการวัด เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ระบบการเงินในวัดใหญ่จอมปราสาท เพื่อนำไปเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจสอบเส้นทางการเงินของพระมหาทิวากร เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ที่ตรวจพบว่าได้โอนเงินกว่า 1 ล้านบาทไปให้สีกา ก. แต่ยังไม่มีเรื่องชู้สาวเข้ามาเกี่ยวข้อง ประเด็นที่ต้องการทราบเพิ่มเติมคือ เงินที่โอนให้สีกาเป็นเงินส่วนไหน แล้วเงินวัดมีรายรับจากที่ใดบ้าง มีรายจ่ายอย่างไร รวมถึง เงินวัดนั้นเข้าบัญชีใคร มีไวยาวัจกรณ์เบิกจ่ายหรือไม่ หรือใครเป็นผู้ทำหน้าที่รับและเบิกจ่ายเงินทั้งหมด ผู้ใหญ่บ้านชี้แจงว่า ทางวัดยังไม่มีไวยาวัจกรวัดคนใหม่ หลังจากคนเก่าลาออกไปเล่นการเมืองท้องถิ่น ส่วนเงินวัดนั้นเจ้าอาวาสเป็นผู้บริหารแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งเงินวัดก็จะมีรายรับมาจากให้ที่จอดเรือบริเวณหน้าวัด ประมาณเดือนละ […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]