ดีอีเอสเตรียมทำแอปใหม่เตือนเช็กเอาท์หลังใช้บริการร้านค้า

ทำเนียบรัฐบาล 27 พ.ค.-โฆษก ศบค.เผยตัวเลขผู้ป่วยใหม่ 9 ราย กลับจากต่างประเทศทั้งหมด ไม่เสียชีวิตเพิ่ม ขออาชีพกลุ่มเสี่ยงดูแลสุขลักษณะเข้มงวด ป้องกันติดเชื้อ ดีอีเอสเตรียมทำแอปใหม่เตือนเช็กเอาท์หลังใช้บริการร้านค้า


นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์โควิด-19 ว่า วันนี้ (27 พ.ค.) ไทยมีรายงานผู้ป่วยใหม่  9 ราย รวมผู้ป่วยสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 3,054 ราย รักษาหาย 2,931 ราย รักษาอยู่ 66 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 57 ราย ซึ่งผู้ป่วยใหม่ 9 รายทั้งหมดเดินทางกลับจากต่างประเทศและเข้าสถานกักกันตัวที่รัฐจัดให้ โดย 2 รายแรก เป็นชายไทย อายุ 18 และ 27 ปี กลับจากประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม เข้าพักในสถานที่ที่รัฐจัดให้ที่จังหวัดชลบุรี และตรวจพบเชื้อวันที่ 26 พฤษภาคม โดยไม่มีอาการ

“รายที่ 3 เป็นชายไทยอายุ 34 ปีอาชีพพนักงานนวด กลับมาจากประเทศกาตาร์ เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม เข้าพักในสถานที่ที่รัฐจัดให้ที่จังหวัดสมุทรปราการ มีอาการไข้ 38 องศาเซลเซียส ไอ จมูกไม่ได้กลิ่น ตรวจพบเชื้อวันที่ 25 พฤษภาคม อีก 6 รายเป็นนักศึกษาชายอายุ 23 ถึง 33 ปี กลับจากประเทศซาอุดิอาระเบีย ผ่านเข้ามาทางด่านปะดังเบซาร์เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม เข้าพักในสถานที่ที่รัฐจัดให้ที่จังหวัดสงขลา 3 คน ยะลา 1 คน ปัตตานี 1 คน และนราธิวาส 1 คน ตรวจพบเชื้อวันที่ 25 พฤษภาคม ซึ่งอาจจะปิดด่านปะดังเบซาร์ เนื่องจากมีผู้ป่วยเดินทางผ่านแดนเข้ามา เพื่อทำความสะอาดจุดต่าง ๆ” โฆษกศบค. กล่าว


นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า จำนวนผู้ป่วยยืนยันสองสัปดาห์ล่าสุด จำแนกตามปัจจัยเสี่ยงพบว่าเป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานกักกันของรัฐจำนวน 15 ราย สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้า 8 ราย และไปสถานที่ชุมชน เช่นตลาดนัด สถานที่ท่องเที่ยว 4 ราย สำหรับผู้ป่วยบางราย พบว่าไม่มีอาการเมื่ออยู่ในสถานกักกันตัวของรัฐ แต่ตรวจพบในวันที่ใกล้ครบกำหนด 14 วัน แต่ทั้งนี้ ยังไม่มีมาตรการเปลี่ยนแปลงการกำหนดระยะเวลาการกักกันตัว โดยยังคงอยู่ที่ 14 วันเช่นเดิม และจะตรวจหาเชื้อทั้งก่อนเข้าและออกจากสถานกักกันตัวของรัฐ ส่วนอาชีพของผู้ป่วยที่พบว่าเป็นพนักงานนวดตั้งข้อสังเกตว่าเป็นอาชีพที่สัมผัสใกล้ชิดกัน ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงปานกลางไปถึงสูง ดังนั้น ผู้ให้บริการจะต้องดูแลป้องกันสุขลักษณะอย่างเข้มงวด 

โฆษกศบค. กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์โลก พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รวม 5,684,795 ราย เสียชีวิต 352,225 ราย สหรัฐอเมริกาพบติดเชื้อมากที่สุด  1,725,275 ราย  ขณะที่ไทยอยู่ที่อันดับที่ 77 ของโลก ส่วนประเด็นที่น่าสนใจในต่างประเทศ รัฐบาลอังกฤษจะอนุญาตให้เปิดร้านค้า ห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้า ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนเป็นต้นไป ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ เปิดทางให้ธุรกิจต่าง ๆ กลับมาดำเนินการได้อีกครั้ง


“รัฐบาลญี่ปุ่นเพิ่มรายชื่ออีก 11 ประเทศที่ห้ามประชาชนในประเทศดังกล่าวเดินทางเข้าสู่ญี่ปุ่น ได้แก่ อินเดีย อาร์เจนตินา แอฟริกาใต้ อัฟกานิสถาน บังคลาเทศ เอลซัลวาดอร์ กานา กินี เคอร์กิสถาน ปากีสถานและทาจิกิสถาน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 พร้อมออกคำเตือนไม่ให้ชาวญี่ปุ่นเดินทางไปยังกลุ่มประเทศดังกล่าวด้วย นอกจากนี้รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศยกเลิกภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศแล้ว โดยจะประเมินสถานการณ์การติดเชื้อทุก 3 สัปดาห์” นพ.ทวรศิลป์ กล่าว

โฆษกศบค. กล่าวว่า ส่วนอินโดนีเซียมีคำสั่งให้ทหารและตำรวจกว่า 340,000 นายใน 4 จังหวัดออกปฏิบัติการควบคุมการใช้กฎข้อบังคับ ให้ประชาชนต้องสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่อออกจากที่พักและการเว้นระยะห่างทางสังคม หลังมีรายงานว่าประชาชนจำนวนมากออกมาเลือกซื้อสินค้าตามตลาดและร้านค้า เพื่อเฉลิมฉลองหลังสิ้นสุดเทศกาลถือศีลอดในเดือนรอมฎอน ที่เกาหลีใต้พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 36 รายที่มาจากศูนย์กระจายสินค้าออนไลน์คูปัง ที่เมืองบูชอน ทางตะวันตกของกรุงโซล และคาดว่าตัวเลขน่าจะเพิ่มขึ้นอีก ทำให้ต้องตรวจโรคพนักงานกว่า 3,600 คน

“การยกตัวอย่างของต่างประเทศ ไม่ได้เป็นการขู่ประชาชน แต่ต้องการให้เกิดการเรียนรู้ว่าในอนาคตหากผ่อนคลายมาตรการแล้วจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง หากทุกคนเรียนรู้ไปพร้อมกัน จะทำให้เกิดประโยชน์กับทุกฝ่าย ทั้งประชาชนมีสุขภาพดีและบุคลากรทางการแพทย์จะได้ทำงานน้อยลง” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

โฆษกศบค. กล่าวถึงการใช้แพลตฟอร์มไทยชนะ ผ่าน www.ไทยชนะ.com ว่า การใช้งานของวานนี้(26 พ.ค.) เวลา 21.00 น. พบว่ามีร้านค้าลงทะเบียน 116,175 ร้าน  มีผู้ใช้งาน 13,769,194 คน มีผู้เช็กอิน 34,827,852 คนและเช็กเอาท์ 23,563,704 คน และมีการประเมินร้านค้า 13,567,825 คน ส่วนห้าประเภทกิจการที่มีรายงานคะแนนสูงสุด ได้แก่ การถ่ายทำรายการโทรทัศน์ ร้อยละ 4.98 คลินิกเสริมความงาม  ร้านเสริมสวย ร้อยละ 4.98 บริการทางการแพทย์ ร้อยละ 4.97 พิพิธภัณฑ์และห้องสมุดร้อยละ 4.97 สถานที่บริการเด็กหรือผู้สูงอายุร้อยละ 4.96 

“ปัญหาการใช้แพลตฟอร์มไทยชนะที่มีประชาชนเช็กอินและลืมเช็คเอาท์ เบื้องต้นทางกระทรวงดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอีเอส) จะทำแอปพลิเคชันขึ้นมา เพื่อให้ประชาชนลงทะเบียนและเมื่อสแกนคิวอาร์โค้ดในการเช็คอินแล้วจะมีระบบเตือนประชาชนไม่ลืมเช็คเอาท์” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย       

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

พลทหารเหยียบกับระเบิดพื้นที่ปราสาทตาควาย

สุรินทร์ 27 ส.ค.-พลทหารเหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย ขาขวาท่อนล่างขาด เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 15.45 น. เกิดเหตุ พลทหาร อดิศร ป้อมกลาง สังกัด กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 23 เหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย เบื้องต้นได้รับบาดเจ็บ บริเวณขาขวาท่อนล่างขาด หน่วยในพื้นที่ได้เข้าดำเนินการช่วยเหลือ และนำส่งเพื่อรับการรักษาแล้ว รายละเอียดอื่นๆ จะรายงานให้ทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ย้ำปฏิบัติตามเงื่อนไขหยุดยิงเคร่งครัด

ศรีสะเกษ 27 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ที่ด่านศุลกากรช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ ย้ำให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขการหยุดยิงอย่างเคร่งครัด ไม่ขยายขอบเขตความขัดแย้ง ไม่เผยแพร่ข่าวปลอม รวมถึงเห็นชอบให้ความร่วมมือปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ-แก๊งคอลเซ็นเตอร์ คำแถลงข่าวร่วมการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ ระหว่างกองทัพภาคที่ 2 ราชอาณาจักรไทย และภูมิภาคทหารที่ 4 ราชอาณาจักรกัมพูชา วันที่ 27 สิงหาคม 2568 จังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ จัดขึ้นวันที่ 27 สิงหาคม 2568 ในจังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย โดยมี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และพลโท […]

คุมฝากขัง “อดีตพระอลงกต-หมอบี” ค้านประกัน

27 ส.ค. – ตร.คุมตัว “อดีตพระอลงกต-หมอบี” ส่งฝากขังศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พร้อมคัดค้านการประกันตัว เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม ได้ควบคุมตัวอดีตพระอลงกต หรือ ทิดจอร์จ และนายเสกสันน์ หรือ หมอบี ออกจากห้องคุมขัง ที่อาคารศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อไปฝากขังที่ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เจ้าหน้าที่ได้แยกควบคุมตัวอดีตพระอลงกต หรือ ทิดจอร์จ สวมเสื้อยืดสีน้ำตาลและกางเกงขาสั้นสีน้ำตาลเข้ม ก่อนนำผ้าเช็ดตัวสีส้มมาห่มคลุมร่างกาย ขึ้นรถยนต์ตำรวจ ทันทีที่ออกมาทางอดีตพระอลงกตได้ยกมือซ้ายขึ้นมา ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามแต่ไม่ได้ตอบคำถามใดๆ ก่อนขึ้นนั่งบนรถ โดยมีศิษยานุศิษย์ประคองด้านข้าง ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่ารู้สึกกังวลใจหรือมีอะไรอยากจะชี้แจงหรือไม่ พร้อมกับถามถึงความรู้สึกหลังจากที่ลาสิกขาแล้ว แต่อดีตพระอลงกต ได้แต่ยิ้มแย้มและยกมือปฏิเสธ ไม่ตอบคำถามใดๆ จากนั้นผู้สื่อข่าวถามต่อว่า “ไปศาลใช่หรือไม่” อดีตพระอลงกต ตอบสั้นๆ ว่า “ไปศาล” ส่วนนายเสกสันน์ หรือ หมอบี ได้แยกควบคุมตัวขึ้นรถกระบะของกองบังคับการปราบปราม โดยหมอบี ยังสวมใส่ชุดเดิม คือเสื้อแขนสั้นสีครีม และกางเกงขายาวสีน้ำตาล เจ้าตัวไม่ได้ตอบคำถามสื่อมวลชนเพียงแค่ยิ้มให้เท่านั้น.-419-สำนักข่าวไทย

พายุคาจิกิกระทบหลายจังหวัดเหนือ-อีสาน

27 ส.ค. – ผลกระทบจากพายุ “คาจิกิ” ส่งผลหลายจังหวัดภาคเหนือและภาคอีสาน ฝนตกหนัก อย่าง จ.แม่ฮ่องสอน น้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงในพื้นที่บ้านแม่โกปี๋ ต.แม่ยวมน้อย อ.ขุนยวม ส่วน จ.เลย แม่น้ำเหืองเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ต.นาแก้ว อ.นาแห้ว ชาวบ้านต้องเร่งยกสิ่งของขึ้นที่สูง พายุคาจิกิเคลื่อนตัวสู่ จ.น่าน ทำให้ 6 อำเภอทางตอนเหนือของเมืองน่าน มีฝนตกหนักและเริ่มมีน้ำป่าหลากดินสไลด์ใน ต.ปิงหลวง อ.นาหมื่น ชาวบ้านตามชุมชนและร้านค้าต่างๆ เร่งเก็บข้าวของไว้บนที่สูง อย่างชุมชนสวนตาลล่าง ซึ่งยังไม่ทันฟื้นฟูความเสียหายจากพายุวิภาเมื่อเดือนที่แล้ว ต้องเตรียมพร้อมกันอีกรอบ อย่างร้านจำหน่ายแอร์และกล้องวงจรปิดร้านนี้ ซึ่งครั้งที่แล้วเสียหายไปกว่า 6 ล้านบาท ต้องขนสินค้าออกจากร้านและยกขึ้นชั้น 2 หวั่นเจอน้ำท่วมซ้ำอีก ขณะเดียวกันเริ่มอพยพผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียงที่อยู่ในจุดเสี่ยงน้ำท่วมออกมาอยู่ที่ศูนย์พักพิงแล้วกว่า 20 ราย รวมทั้งเร่งเสริมคันดินและกระสอบทรายตามจุดเสี่ยงรอบเมือง โดยเฉพาะโรงพยาบาลน่าน ที่เคยถูกน้ำท่วมเสียหายเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งขนอุปกรณ์การแพทย์ขนาดใหญ่ไปไว้ในที่ปลอดภัย และเสริมแนวกระสอบทรายป้องกันไว้แล้ว พร้อมยกระดับยกระดับการป้องกันและรับมือกับพายุคาจิกิขั้นสูงสุด ขณะที่ จ.แม่ฮ่องสอน มีผู้ใช้โซเชียลโพสต์คลิปสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงช่วงบ่ายวานนี้ (26 ส.ค.) ในพื้นที่บ้านแม่โกปี๋ ต.แม่ยวมน้อย อ.ขุนยวม […]