มหาสารคามห่วงฤดูฝนน้ำอาจไม่พอ เตรียมแผนรับมือ ย้ำเกษตรกรอย่าเร่งปลูกข้าว

มหาสารคาม 21 พ.ค.- คณะกรรมการและผู้ใช้น้ำสองฝั่งแม่น้ำชี-มหาสารคาม เตรียมแผนบริหารจัดการน้ำ แม้เข้าฤดูฝนแล้ว แต่อาจไม่เพียงพอภาคเกษตรบางพื้นที่ พบเกษตรกรเริ่มพากันปลูกข้าว ขณะที่น้ำหน้าเขื่อนวังยางยังต่ำกว่าเกณฑ์



นายอนันต์ศักดิ์ แย้มชื่น ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชีกลาง  พร้อมนายพัฒนะ พลศรี  หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาเขื่อนวังยาง  นายจรัส  เพ็ญศิริสมบูรณ์  ผู้อำนวยการชลประทานจังหวัดมหาสารคาม รวมทั้งกลุ่มผู้ใช้น้ำทั้ง 2 ฝั่งติดแม่น้ำชี และคณะกรรมการผู้ใช้น้ำทั้ง 4 อำเภอ จ.มหาสารคาม  ประกอบด้วย อ.เชียงยืน  โกสุมพิสัย  กันทรวิชัย  และอำเภอเมือง ประชุมวางแผนการบริหารจัดการน้ำเขื่อนวังยางช่วงฤดูฝน

นายอนันต์ศักดิ์ กล่าวว่า  ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศว่าประเทศไทยเข้าสู่หน้าฝนอย่างเป็นทางการในวันที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยแผนเริ่มการเพาะปลูกพืชฤดูฝนในปี 2563 ได้ขอความร่วมมือเกษตรกรให้เริ่มการเพาะปลูกในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ เพราะพบว่าขณะนี้หลายพื้นที่เริ่มมีการเพาะปลูกกันแล้ว  ซึ่งเสี่ยงต่อปัญหาฝนทิ้งช่วง  หากจะปลูกข้าวขอให้คำนึงถึงน้ำต้นทุนว่ามีเพียงพอหรือไม่  เนื่องจากเขื่อนไม่มีแผนสนับสนุนการเตรียมแปลงเพาะปลูก โดยจะส่งน้ำให้เมื่อมีปริมาณน้ำต้นทุนเพียงพอ  หรือพิจารณาแล้วว่าสามารถช่วยเหลือได้ และเวลานี้ปริมาณน้ำหน้าเขื่อนยังคงต่ำระดับเก็บกักประมาณ 2 เมตร


นายอนันต์ศักดิ์ กล่าวว่า  ที่ประชุมมีมติพิจารณาระดับเก็บกักน้ำหน้าเขื่อนวังยาง  ให้อยู่ที่ระดับ 137.00 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง  หรืออยู่ที่ 33 ล้านลูกบาศก์เมตร  ปัจจุบันระดับน้ำอยู่ที่ 135.07 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง  หรือ 17.79 ล้านลูกบาศก์เมตร  คิดเป็นร้อยละ 52.96 และขอให้สถานีสูบน้ำขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตลอดลำน้ำชี 84 สถานีงดสูบน้ำจนกว่าจะมีน้ำเพียงพอ โดยขอสงวนน้ำไว้สำหรับอุปโภคบริโภค  ผลิตน้ำประปา  และรักษาระบบนิเวศน์เท่านั้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย