IRPC ลดงบ5 ปี เหลือ 2.8 หมื่นล้านบาท




กรุงเทพฯ
20 พ.ค.-ไออาร์พีซีลดงบลงทุน 5 ปี เหลือ 2.8 หมื่นล้านบาท คาด ไตรมาส 2 อาจขาดทุนสตอกอีก
ด้าน จีซี ใช้4 กลยุทธ์ ฝ่า วิกฤติ โควิด-19

น.ส.กัญญามาส
ฤทธิเดช ผู้จัดการฝ่ายการเงินและนักลงทุนสัมพันธ์ บมจ.ไออาร์พีซี (
IRPC) เปิดเผยว่า
บริษัทปรับแผนเพื่อรับมือภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว
หลังเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยกลยุทธ์หลัก 3 ด้าน ประกอบด้วย

1. Maintain Market Position หรือการปรับกลยุทธ์การตลาด
ทั้งในฝั่งของผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม และปิโตรเคมี ที่ยังได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก
โดยจะพยายามรักษาระดับให้ปรับตัวลดลงน้อยกว่าตลาด เช่น ปรับลดการผลิตผลิตภัณฑ์น้ำมันอากาศยาน
ปรับไปเป็นการผลิตน้ำมันดีเซล รวมถึงเน้นขายในประเทศเป็นหลัก ซึ่งหลังจากคลาย ล็อกดาวน์แล้ว
ส่วนผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี ทั้งในกลุ่มโอเลฟินส์ กลุ่มอะโรเมติกส์และสไตรีนิคส์
ก็มีการปรับแผนการขายให้เข้ากับสถานการณ์เช่นกัน


2.
การปรับลดงบลงทุน โดยบริษัทได้ปรับลดงบลงทุนภายใน 5 ปี (63-67) ลงเหลือ 28,055
ล้านบาท จากเดิมที่ตั้งไว้ที่ 53,953 ล้านบาท แบ่งเป็น การลงทุนในโครงการต่าง ๆ
ลดลงเหลือ 15,009 ล้านบาท จากเดิมวางไว้ที่ 41,598 ล้านบาท
โดยได้ชะลอการลงทุนโครงการผลิตอะโรเมติกส์ หรือโครงการ
MARS ออกไปอย่างไม่มีกำหนด
แต่ยังคงการลงทุนในโครงการ
Ultra Clean Fuel (UCF) ไว้ เพื่อรองรับการผลิตน้ำมันตามมาตรฐานยูโร 5, การปรับปรุงโครงการต่างๆ  ลดลงเหลือ 10,870 ล้านบาท จากเดิมวางไว้ที่
12,355 ล้านบาท และเพิ่มการลงทุนในโครงการ
Strengthen IRPC จำนวน 2,176 ล้านบาท

สำหรับงบลงทุนปีนี้วางไว้ที่
4,780 ล้านบาท ลดลงจากเดิมที่วางไว้ที่ 6,962 ล้านบาท โดยจะใช้ในโครงการต่าง ๆ
จำนวน 2,159 ล้านบาท และการปรับปรุงโครงการ จำนวน 2,367 ล้านบาท และโครงการ
Strengthen IRPC ที่ 254 ล้านบาท

3.
การเพิ่มการลงทุนในโครงการ
Strengthen IRPC เพื่อเพิ่มรายได้ เพิ่มประสิทธิภาพ และลดต้นทุนการผลิตในช่วง 4 ปี
(63-66) ซึ่งบริษัทฯ ตั้งเป้ามีกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย
,ภาษี,ค่าเสื่อมและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) อยู่ที่ 4,600 ล้านบาท และปีนี้อยู่ที่
1,904 ล้านบาท ซึ่งจะมาจากการดำเนินงานในโครงการ
E4E, โครงการ IRPC
4.0 โดยใช้ดิจิทัล และโครงการ Breakthrough โดยให้พนักงงานเสนอโครงการที่ไม่เกี่ยวข้องกับสายงาน
เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับองค์กร  เช่น
โครงการลดการสำรองน้ำมันดิบ (
Crude & Product  Inventory)  ตั้งเป้าจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ 1,000
ล้านบาท ในช่วง 3 ปี (63-65)

ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส
2/63 น่าจะยังมีผลขาดทุนจากสตอกน้ำมัน (
Stock loss) อยู่บ้าง จากไตรมาส 1/63 มีผลขาดทุนจากการสตอกน้ำมันอยู่ที่
8
,905 ล้านบาท
ขณะที่ปัจจุบันราคาน้ำมันที่เริ่มปรับตัวสูงขึ้น หลังกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน
(โอเปก) จับมือกับชาติพันธมิตร ปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 9.7 ล้านบาร์เรล/วัน
ทำให้ส่งผลกระทบต่อต้นทุนของ
IRPC

นายคงกระพัน​
อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.พีทีทีโกลบอลเคมิคอล หรือ จีซี
กล่าวว่าบริษัทใช้
4
แนวทางในการบริหารงานช่วงการระบาดของโควิด-
19 ได้แก่ 1เรื่องความปลอดภัย​ของพนักงาน ป้องกันการติดโรค
ส่งเสริมการทำงานที่บ้านร้อยละ 90   มีการล็อกตัวพนักงานที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมโรงงาน
600 คน เช่าโรงแรมที่ระยองให้พัก
เพื่อให้ทุกโรงงานเดินเครื่องได้ตามปกติ​ 2. การให้ความสำคัญความมั่นคงขององค์กร​ตั้งแต้ต้นไปจนถึงปลายทาง
โดยดูแลไปถึงซัพพลาย​เออร์ ลูกค้า  การดูแลสภาพคล่องทางการเงินให้แข็งแกร่ง

3.การช่วยเหลือสังคมที่ร่วมพัฒนานวัตกรรม​ทางการแพทย์​เป็นจำนวนมาก
 4.การสร้างความชัดเจนทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง

“จากการวางแผนและการที่จีซีเป็นบริษัทปิโตรเคมีและการกลั่นครบวงจรก็ทำให้ไตรมาส1มีกำไร กว่า 1พันล้านาทหากไม่คิดการขาดทุนสตอกน้ำมันที่สูงถึง
8,900 ล้านบาท ซึ่งเรื่องนี้เป็นไปตาม ทิศทางราคาน้ำมันตลาดโลก  ในขณะที่การใช้พลาสติกใข้ครั้งเดียวทิ้งกลับมาเพิ่มขึ้น
ความนิยมในไบโอพลาสติก​ก็เพิ่มขึ้น ดังนั้น
บริษัทจึงดำเนินแผนงานส่งเสริมการจัดการขยะในรูปแบบ
เซอร์คิวลาร์อีโคโนมีให้เหมาะสม ควบคู่กับการเดินหน้าให้เกิดโรงงานพลาสติกชีวภาพ​
PLA 
ในไทย”นายคงกระพันกล่าว
สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ทบ.ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน

กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – โฆษก ทบ. ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวนเส้นทาง พื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จ.ศรีสะเกษ บาดเจ็บ 3 นาย สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า วันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 กรณีกำลังพลของหน่วยกองร้อยทหารราบที่ 111 เหยียบกับระเบิด ขณะทำการลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1. จ่าสิบเอก ธานี พาหา ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ป้องกัน บาดเจ็บรุนแรง ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด2. พลทหาร ภาคภูมิ ไชยสุระ ตำแหน่งพลปืนเล็ก บาดเจ็บบริเวณแขนและด้านหลัง3. พลทหาร ธนันชัย ไกรวงค์ […]

จับผับรังสิต

สั่งเด้งผู้การปทุมธานี ขาดจากตำแหน่งเดิม เซ่นจับผับดังรังสิต

8 ส.ค. – โดนด้วย! สั่งเด้งผู้การปทุมธานี โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม พร้อมพวกอีก 5 นาย เซ่นจับผับดังรังสิต พบฉี่ม่วงเพียบเฉียด 200 คน พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ลงนามในคำสั่งตำรวจภูธรภาค 1 ที่ 209/2568 เรื่อง ข้าราชการตำรวจช่วยราชการ ใจความว่า ด้วย ตำรวจภูธรภาค 1 มีคำสั่งที่ 208/2568 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2568 แต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในกรณีเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 เวลา 01.00 น. ชุดปฏิบัติการ พิเศษกรมการปกครอง ได้มีการจัดระเบียบสังคม โดยเปิดปฏิบัติการ (Zero Drug) โดยนำกำลังเข้าทำการ ตรวจสอบและจับกุมสถานบริการ ชื่อ ร้าน “Skin […]

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 กำชับกำลังพลเพิ่มความระมัดระวัง หลังทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด

10 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 กำชับกำลังพลเพิ่มความระมัดระวัง หลังทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนแนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ จากการตรวจสอบพบเป็นทุ่นใหม่ ถูกวางไว้ช่วงทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานป้องกันการเข้าโจมตีของไทย ไม่ใช่การลอบนำมาวางใหม่หลังถอนกำลัง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยภายหลังการรับมอบสิ่งของช่วยเหลือทหารและเจ้าหน้าที่ตามแนวชายแดน จากภาครัฐและเอกชน ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเจ้าหน้าที่ทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนแนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ เมื่อวานว่า จากการตรวจสอบพบว่าเป็นทุ่นใหม่ที่ถูกวางไว้ช่วงทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานเพื่อป้องกันการเข้าโจมตีของไทย ก่อนที่จะถอนกำลังออกไป ไม่ใช่การลอบนำมาวางใหม่หลังถอนกำลัง จึงสั่งการให้ทุกหน่วยเพิ่มความระมัดระวัง พร้อมใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักร เช่น รถไถ รถตักในการเคลียร์เส้นทางและค้นหาทุ่นระเบิดบุคคล เพื่อป้องกันไม่ให้กำลังพลได้รับอันตรายซ้ำ สำหรับพื้นที่แนวปะทะที่มีการวางกำลังของทหารกัมพูชายังถือว่าไม่ปลอดภัยสำหรับทหาร เนื่องจากมีการวางระเบิดไว้มาก ส่วนพื้นที่ชาวบ้านซึ่งอยู่นอกแนวชายแดนลึกเข้ามา ไม่น่าเป็นห่วงจากทุ่นระเบิดบุคคล แต่ยังมีความเสี่ยงจากจรวดที่ยิงเข้ามาแล้วไม่ระเบิด หากประชาชนพบเห็นให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที ห้ามเข้าไปจับ ดึง หรือเก็บเอง อย่างไรก็ตาม พื้นที่ส่วนใหญ่ เช่น ภูมะเขือ อานม้า ซำแปร และตาเมือนธม ไทยสามารถครอบครองได้ […]

นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องชาติมากถึง 75%

กทม. 10 ส.ค.-นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องผลประโยชน์ชาติ จากสถานการณ์ไทย-กัมพูชา มากถึง 75% แนะเปิดเจรจาทางการทูตสองฝ่ายจริงจัง รวมทั้งเห็นว่าไม่ควรรับผู้ป่วยชาวกัมพูชาทุกคน ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ไปต่อแบบไหนดี” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 4-5 สิงหาคม 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป เกี่ยวกับความไว้วางใจและความพอใจต่อบทบาทของภาคส่วนต่างๆ ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา พบว่า -กองทัพ ตัวอย่าง ร้อยละ 75.73 ระบุว่า ไว้วางใจมาก รองลงมา ร้อยละ 19.31 ระบุว่า ค่อนข้างไว้วางใจ ร้อยละ 3.66 ระบุว่า ไม่ค่อยไว้วางใจ ร้อยละ 1.07 ระบุว่า ไม่ไว้วางใจเลย และร้อยละ 0.23 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ -กระทรวงการต่างประเทศ ตัวอย่าง ร้อยละ 41.76 […]

พบหลุมระเบิดที่กัมพูชายิงใส่ไทย 824 หลุม ใน 4 จังหวัดชายแดน

กทม. 10 ส.ค.-เพจกองทัพบก ทันกระแส โพสต์เจ้าหน้าที่ EOD เข้าเก็บกู้ระเบิด พบหลุมระเบิดที่เกิดจากฝีมือกัมพูชามากถึง 824 หลุม ใน 4 จังหวัดชายแดนไทย ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่พลเรือนและโรงพยาบาล เพจเฟซบุ๊ก “กองทัพบก ทันกระแส” โพสต์ว่า เจ้าหน้าที่ EOD เข้าพื้นที่เก็บกู้ระเบิด พบหลุมระเบิดที่เกิดจากฝีมือกัมพูชามากถึง 824 หลุม ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่พลเรือนและโรงพยาบาล ซึ่งสร้างความเสียหายและความหวาดกลัวให้ประชาชน ที่กำลังทยอยกลับเข้าพื้นที่เพื่อสำรวจความเสียหายของบ้านพักอาศัย ข้อมูลที่เพจโพสต์แสดงให้เห็นถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นใน 4 จังหวัดชายแดน ได้แก่ สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ซึ่งเป็นผลจากการยิงอาวุธของกัมพูชาใส่เป้าหมายพลเรือน ทำให้ประชาชนในพื้นที่ต้องอพยพหนีภัยสงคราม และหากสถานการณ์เริ่มคลี่คลายลง ประชาชนเริ่มกลับเข้าสู่พื้นที่ตนเอง แต่ต้องเผชิญกับอันตรายจากระเบิดที่ยังคงหลงเหลืออยู่ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ EOD ทำงานอย่างหนัก เพื่อเร่งเก็บกู้ระเบิดให้แล้วเสร็จ เพื่อให้ประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างปลอดภัยในบ้านของตนเองอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย

ชวนชมดวงไฟประดับรอบกรุงเทพฯ วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม

ทำเนียบ 10 ส.ค.-รัฐบาลเชิญชวนชมความงดงามของดวงไฟประดับรอบกรุงเทพฯ ในโอกาสเฉลิมพระเกียรติ วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง วันที่ 12 สิงหาคมของทุกปี (วันแม่แห่งชาติ) กรมทางหลวงชนบท (ทช.) และ MEA หรือการไฟฟ้านครหลวง ร่วมใจกัน ติดตั้งไฟประดับทั้ง 2 ข้างทาง เพื่อเฉลิมพระเกียรติและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ขอเชิญชวนประชาชนได้ร่วมสัมผัสความงดงามของดวงไฟประดับ เนื่องในโอกาสมหามงคลนี้ โดยการไฟฟ้านครหลวง ได้ดำเนินการติดตั้งไฟประดับจำนวนกว่า 2 ล้านดวง เพื่อประดับในสถานที่ต่าง ๆ ได้แก่ พระที่นั่งอัมพรสถาน วังศุโขทัย พระบรมมหาราชวัง บริเวณท้องสนามหลวง รอบพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน วังสระปทุม พระที่นั่งอนันตสมาคม ลานพระบรมรูปทรงม้า สนามเสือป่า ทำเนียบองคมนตรี กระทรวงมหาดไทย ถนนราชดำเนินใน ถนนราชดำเนินกลาง ถนนราชดำเนินนอก ถนนศรีอยุธยา ตั้งแต่วันนี้ – […]