เลขาธิการ สมช.เผยถกพรุ่งนี้ ต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ หรือไม่

ทำเนียบฯ 20 พ.ค.-พล.อ.สมศักดิ์ เลขาธิการ สมช. เผยพรุ่งนี้ 21 พ.ค. พิจารณาขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ หรือไม่ ระบุการผ่อนคลายให้ดำเนินกิจการ ต้องควบคู่กับเฝ้าระวังไม่ให้ติดเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่


พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อโควิด-19 เปิดเผยว่า หลังจากมีการผ่อนคลายมาตรการระยะที่ 2 ให้สามารถดำเนินกิจกรรมและกิจการ ที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดในเกณฑ์ปานกลาง แต่มีผลทางเศรษฐกิจและสังคม และจะประเมินผลก่อนที่จะนำไปสู่การพิจารณาผ่อนคลายมาตรการระยะ 3 ต่อไป โดยคาดว่าจะมีการประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจฯ ช่วงใกล้ครบเวลา 14 วันหลังผ่อนคลาย ดังนั้น การผ่อนคลายมาตรการระยะที่ 3 อาจจะใช้ได้ในช่วงต้นเดือนมิ.ย.นี้ ทั้งนี้ การจะผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ จะต้องพิจารณาให้อยู่ในเกณฑ์เรื่องความปลอดภัยตามหลักของกระทรวงสาธารณสุข ควบคู่ไปกับเรื่องเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นหลักคิดตั้งแต่เริ่มต้นในการผ่อนปรนมาตรการ และต้องรอฟังความเห็นจากทางกระทรวงสาธารณสุข ประกอบกันด้วย

เลขาธิการ สมช. กล่าวว่า เรื่องการพิจารณาผ่อนคลายมาตรการระยะที่ 3 นั้น จะต้องพิจารณาควบคู่ไปกับการพิจารณาเรื่องพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฯ ที่จะครบกำหนดใช้ในวันที่ 31 พ.ค.นี้ โดยจะต้องมีความสอดคล้องกันด้วย ซึ่งเรื่องนี้ สมช.จะประชุมวันที่ 21 พ.ค.นี้ เวลา 11.00 น. ว่าจะมีการจะขยายเวลาประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ หรือไม่ โดยคาดว่าจะได้ผลสรุปเบื้องต้น จากนั้นจะเสนอตามขั้นตอน โดยเสนอต่อ ศบค.ชุดใหญ่ และ ครม.พิจารณา ทั้งการผ่อนปรนระยะที่ 3 และการขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ


พล.อ.สมศักดิ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาการผ่อนปรนมาตรการในระยะที่ 1 และ 2 พบว่าประชาชนมีความเคร่งครัดและให้ความร่วมมือ ส่งผลให้ตัวเลขการติดเชื้อภายในประเทศ และการปฎิบัติตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาด ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ แต่สิ่งที่กังวลคือการติดเชื้อจากภายนอกประเทศ ที่ต้องหามาตรการและแนวทางที่เหมาะสมรองรับก่อนที่จะมีการทยอยเปิดให้เดินทางระหว่างประเทศ 

ส่วนกรณีที่ผู้ประกอบกิจการบางประเภท อาทิ นวดแผนโบราณ รวมถึงสถานบันเทิง ผับ บาร์ ที่เรียกร้องขอให้มีการผ่อนปรน นั้น พล.อ.สมศักดิ์ กล่าวว่า ก็มีความรู้สึกเห็นใจในทุกกิจการ กิจกรรม ซึ่งตนก็รับฟัง แต่จะต้องมีการพิจารณาเพื่อหาแนวทางต่าง ๆ โดยปรับรูปแบบให้สอดคล้องกับชีวิตวิถีใหม่ และอยู่ภายใต้หลักการ ที่จะต้องป้องกันไม่ให้มีการแพร่ระบาดระลอกใหม่เกิดขึ้น เพราะจะมีผลทำให้การป้องกันลำบากมากขึ้น ซึ่งเรื่องนี้ผู้ประกอบการก็จะต้องมีแนวทางและปรับตัวการประกอบธุรกิจของตัวเองด้วย.-สำนักข่าวไทย       


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

จับหนุ่มอินเดียขนเงินกว่า 15 ล้านบาท เข้าไทย

หนุ่มอินเดียหอบเงินสด 15.7 ล้านบาท เดินเท้าจากปอยเปตเข้าไทย อ้างเล่นพนันได้ เจ้าหน้าที่เร่งขยายผล หวั่นพัวพันคอลเซ็นเตอร์

โฆษกรัฐบาล นำบุกร้านขายบุหรี่ไฟฟ้า แต่ไหวตัวทันไม่เจออะไร

โฆษกรัฐบาล นำ สคบ.-สธ. บุกร้านลอบขายบุหรี่ไฟฟ้าย่านสายไหม หลังได้รายงานลับ แต่ร้านไหวตัวทัน ปิดหนีหมดไม่เจออะไร เตรียมเสนอนายกฯ ตั้ง กก.ปราบจริงจัง เผยตัวเลขขายปีละ 5 พันล้าน อ้างเป็นสินค้าผ่านแดน แต่ปล่อยหลุดเข้าไทย

รวบหนุ่มจีนพร้อมสาวไทย เอี่ยวฟอกเงินหลอกลงทุนคริปโต

ตำรวจไซเบอร์รวบหนุ่มจีนพร้อมสาวไทย กินหรูอยู่สบาย เอี่ยวฟอกเงินขบวนการหลอกลงทุนคริปโต พบเกี่ยวพันอีก 28 คดี มูลค่าความเสียหายกว่า 30 ล้านบาท

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน