“พล.อ.ประวิตร” ลงพื้นที่นครปฐมเน้นย้ำขจัดผักตบชวารับฤดูน้ำหลาก

นครปฐม 20 พ.ค.- “พล.อ.ประวิตร” สั่งทุกหน่วยรัฐร่วมภาคประชาชน เร่งกำจัดผักตบชวาและวัชพืชแม่น้ำท่าจีน รับน้ำหลากฤดูฝน




เมื่อเวลา 10.00 น. (20 พ.ค.) พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ผักตบชวาและวัชพืช ณ บริเวณวัดทรงคนอง อำเภอสามพรานจังหวัดนครปฐม โดยรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมติดตามการแก้ไขปัญหาผักตบชวาและวัชพืช และตรวจเยี่ยมการทำงาน เพื่อเตรียมการรับน้ำหลากในฤดูฝน ปี 2563 โดยมีนายชาญนะ เอี่ยมแสงผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม กล่าวต้อนรับ และนายชยพล  ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง กล่าววัตถุประสงค์ของการประชุม รวมทั้ง ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ(สทนช.) ร่วมประชุม พร้อมรับฟังผลการดำเนินงานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต่อจากนั้นได้เยี่ยมชมผลิตภัณฑ์จากผักตบชวาและการนำผักตบชวามาใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆ ของสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติ และสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดนครปฐม อาทิ จัดทำปุ๋ยอินทรีย์ อาหารสัตว์ ผลิตภัณฑ์จักสาน เป็นต้น พร้อมทั้งได้ติดตามการกำจัดผักตบชวาและวัชพืชของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สมาชิกชมรมคนริมน้ำ และท้องถิ่นในพื้นที่อำเภอสามพรานที่ได้นำเรือท้องแบนติดเครื่องยนต์ตามที่รัฐบาลได้จัดสรรให้ท้องถิ่น ทั้งนี้ได้มอบนโยบายเร่งรัดให้หน่วยงานนำไปปฏิบัติและแก้ไขปัญหาดังกล่าวเพื่อให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณแม่น้ำท่าจีนโดยเร่งด่วน

พลเอกประวิตร  กล่าวว่า ปัญหาผักตบชวาและวัชพืชในแม่น้ำเป็นปัญหาที่รัฐบาลใส่ใจให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหา พร้อมทั้งติดตามผลการดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน และในวันนี้ สืบเนื่องจากการประชุมกำหนดแผนการกำจัดผักตบชวาและวัชพืช เพื่อเตรียมรับน้ำหลากในฤดูฝนปี 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งได้มอบหมายให้ 4 หน่วยงาน รับผิดชอบพื้นที่ที่มีการสะสมของผักตบชวาและวัชพืชในแม่น้ำสายหลักและแหล่งน้ำเชื่อมโยงตามรายงานการสำรวจของสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน)(GISTDA) จำนวน 25 จุด แล้ว ยังได้สั่งการให้ GISTDA สำรวจพื้นที่ที่มีการสะสมของผักตบชวาและวัชพืชในแม่น้ำสายหลักและแหล่งน้ำเชื่อมโยงเพิ่มเติมในลุ่มน้ำภาคกลางและภาคตะวันออก จำนวน 19 จังหวัด พบการสะสมของผักตบชวาและวัชพืช จำนวน 128 จุด และมอบหมายให้กรมโยธาธิการและผังเมือง จัดแบ่งพื้นที่ให้ 4 หน่วยงานหลักรับผิดชอบ และเร่งรัดดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายนนี้


นอกจากนี้ ยังสั่งการให้กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นจัดหาเรือท้องแบนแบบติดเครื่องยนต์เพิ่มเติม เพื่อสนับสนุนให้หน่วยงานท้องถิ่นมีอุปกรณ์เครื่องมือในการดูแลแก้ไขปัญหาผักตบชวาในพื้นที่รับผิดชอบของตนเอง เพื่อมิให้ผักตบชวาและวัชพืชกีดขวางการไหลระบายของน้ำและป้องกันบรรเทาปัญหาน้ำล้นตลิ่งที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่อยู่ริมน้ำและใช้เส้นทางสัญจรทางน้ำดังกล่าว นอกจากนี้ในการแก้ไขปัญหาในระยะยาวไม่ว่าจะเป็นการจัดเก็บเล็กผักตบชวาด้วยเรือท้องแบนแบบติดเครื่องยนต์ที่ให้การสนับสนุนกับหน่วยงานท้องถิ่น ขอให้จังหวัด นายอำเภอ รวมถึงหน่วยงานปกครองได้กวดขันกำชับให้มีการดำเนินการจัดเก็บให้เป็นกิจวัตรประจำอย่างต่อเนื่อง และรวบรวมรายงานผลการดำเนินการตามระยะเวลาที่กำหนดเพื่อประเมินผลและความคุ้มค่าในการใช้จ่ายงบประมาณสนับสนุนดังกล่าว

ด้านนายชยพล  กล่าวเพิ่มเติมว่า จากข้อมูล ภาพถ่ายดาวเทียมของ GISTDA ที่แสดงการสะสมของผักตบชวาและวัชพืชในลุ่มน้ำภาคกลางและภาคตะวันออก จำนวน 19 จังหวัด พบการสะสมของผักตบชวาและวัชพืช จำนวน 128 จุด มีการมอบหมายให้ 4 หน่วยงานหลักรับผิดชอบ ดังนี้ 1.กรมโยธาธิการและผังเมือง รับผิดชอบ จำนวน 13 จุด 2.กรมชลประทาน จำนวน 75 จุด 3.กรมเจ้าท่า จำนวน 13 จุด และ 4.กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 24 จุด นอกจากนี้ยังมีเขตรับผิดชอบของกรุงเทพมหานคร จำนวน 3 จุด รวมเป็นพื้นที่ทั้งหมด 3,574 ไร่ ปริมาณผักตบชวาและวัชพืช จำนวน 285,920 ตัน ซึ่งทุกหน่วยงานจะต้องวางแผนและเร่งรัดดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายนนี้ พร้อมรายงานผลให้กรมโยธาธิการและผังเมือง ทราบทุกวันที่ 15 ของเดือนเพื่อดำเนินการต่อไป ปัจจุบันกรมโยธาธิการและผังเมือง รับผิดชอบแม่น้ำท่าจีน เป็นระยะทาง 120 กิโลเมตรโดยในพื้นที่จังหวัดนครปฐม มีการจัดตั้งสถานีดักผักตบชวาและวัชพืช จำนวน 5 จุด ได้แก่ 1.บริเวณวัดโพธิ์ 2.วัดบางพระ 3.วัดไทยาวาส 4.วัดทรงคนอง และ 5.วัดบางช้างเหนือ ด้วยเรือกำจัดผักตบชวาแบบสายพานลำเลียงและรถแบ็คโฮบนเรือพอนทูน อย่างละ 1 ลำ โดยในบริเวณพื้นที่สถานีและบริเวณพื้นที่สะสมของผักตบชวาหนาแน่นจะมีการเพิ่มเครื่องจักรเข้าไปดำเนินการแก้ไขปัญหาในการเปิดทางน้ำที่เป็นอุปสรรคในการระบายน้ำเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง สำหรับพื้นที่รับผิดชอบแม่น้ำท่าจีนในจังหวัดนครปฐม ได้กำจัดผักตบชวาและวัชพืชไปแล้ว ในปีงบประมาณ 2562 จำนวน 404,941 ตัน และ เริ่มต้นปีงบประมาณ 2563 ถึงปัจจุบันกำจัดได้  จำนวน 230,780 ตัน ส่วนผลการดำเนินการกำจัดผักตบชวาและวัชพืชทั่วประเทศ ของทุกหน่วยงานร่วมกันในปีงบประมาณ 2562 สามารถกำจัดได้ทั้งหมด 4,646,622 ตัน และปีงบประมาณ 2563  ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2562 – เมษายน 2563 สามารถกำจัดได้แล้ว จำนวน 2,079,501 ตัน 

ทั้งนี้ การกำจัดผักตบชวาและวัชพืชเป็นหนึ่งในมาตรการในการบริหารจัดการน้ำโดยมีวัตถุประสงค์เป็นการเปิดทางน้ำ ให้น้ำสามารถไหลเวียน ได้สะดวกในฤดูฝน อีกทั้งยังเป็นการรักษาคุณภาพน้ำในแม่น้ำและแหล่งน้ำให้อยู่ในค่ามาตรฐานอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

รวบหนุ่มจีนพร้อมสาวไทย เอี่ยวฟอกเงินหลอกลงทุนคริปโต

ตำรวจไซเบอร์รวบหนุ่มจีนพร้อมสาวไทย กินหรูอยู่สบาย เอี่ยวฟอกเงินขบวนการหลอกลงทุนคริปโต พบเกี่ยวพันอีก 28 คดี มูลค่าความเสียหายกว่า 30 ล้านบาท

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ