สถานเอกอัครราชทูตฯ นำคนไทยตกค้างเดินทางกลับประเทศ

กรุงเทพฯ 19 พ.ค.- สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบราซิเลียและทีมประเทศไทยนำคนไทยที่ตกค้าง ประกอบด้วยนักเรียน AFS นักเรียน Rotary และนักท่องเที่ยวในอาร์เจนตินา นักเรียน AFS ในอุรุกวัย และคนไทยในบราซิล เดินทางกลับประเทศไทย





สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบราซิเลีย โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก ระบุว่า ทีมประเทศไทย ณ กรุงบราซิเลีย ผนึกกำลังกันอีกครั้งเพื่อนำคนไทยตกค้าง 58 คน ที่บราซิล อาร์เจนตินา และอุรุกวัยกลับบ้าน ระหว่างวันที่ 16-18 พ.ค.63 นางสาวนิธิวดี มานิตกุล เอกอัครราชทูตไทยประจำสหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล และนายศักดา สินสุกใส ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครเซาเปาโล ข้าราชการและลูกจ้างสถานเอกอัครราชทูตฯ และสำนักงานส่งเสริมการค้าฯ ได้ร่วมกันช่วยเหลือคนไทยตกค้างในอาร์เจนตินาและอุรุกวัย ทั้งหมด 55 คน ประกอบด้วย นักเรียน AFS ไทยที่อาร์เจนตินา 50 คน นักเรียน Rotary ที่อาร์เจนตินา 2 คน นักท่องเที่ยวไทยตกค้างที่อาร์เจนตินา 1 คน และนักเรียน AFS ไทยที่อุรุกวัย 2 คนในการแวะเปลี่ยนเครื่องเพื่อเดินทางกลับประเทศไทย โดยสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้จองที่พักให้นักเรียน AFS ไทยจากอุรุกวัย 2 คนที่เดินทางมาถึงนครเซาเปาลูตั้งแต่วันที่ 16 พ.ค. 2563 เพื่อรอขึ้นเครื่องลำเดียวกันกับคนไทยกลุ่มใหญ่โดยจะแวะเปลี่ยนเครื่องอีกครั้งที่นครอัมสเตอร์ดัมก่อนกลับไทยในวันเดียวกัน สถานเอกอัครราชทูตฯ ยังได้รับความร่วมมือจากผู้อำนวยการส่งเสริมการค้าในต่างประเทศฯ ซึ่งมีสำนักงานฯ ณ นครเซาเปาลูอีกครั้งในการไปรับส่งคนไทยทั้งหมดในทั้ง 2 วัน 


พร้อมกันนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ยังได้ช่วยเหลือคนไทยตกค้างในบราซิล จำนวน 3 คน เดินทางออกจากนครเซาเปาลูเพื่อกลับประเทศไทยพร้อมกับคณะดังกล่าวด้วย ในโอกาสดังกล่าว สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ขอให้ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าฯ ได้มอบถุงยังชีพ “น้ำใจเล็กๆ เพื่อคนไทยต้านภัย COVID-19” ให้แก่คนไทยทั้งหมดด้วย 

ความช่วยเหลือในการส่งคนไทยกลับบ้านครั้งนี้เป็นไปอย่างราบรื่นและความปิติของคนไทยกลุ่มดังกล่าวที่จะได้กลับบ้าน ทั้งนี้ เมื่อคณะดังกล่าวเดินทางถึงนครอัมสเตอร์ดัม จะเดินทางต่อไปยังกรุงเทพฯ โดยจะเดินทางถึงประเทศไทยในช่วงเช้าของวันที่ 20 พ.ค. 2563 

สถานเอกอัครราชทูตฯ และทีมประเทศไทย รู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนช่วยในการส่งคนไทยที่ตกค้างได้กลับสู่มาติภูมิอีกครั้ง แม้ว่าสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ในบราซิล โดยเฉพาะในนครเซาเปาลูรุนแรงมากทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียขีวิตรายใหม่ซึ่งสูงเป็นอันดับ 2 ของโลก

 

ทั้งนี้ หากคนไทยในบราซิลต้องการคำปรึกษาและความช่วยเหลือในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 สามารถติดต่อได้ที่ เบอร์สายด่วนสถานเอกอัครราชทูตฯ ที่ +55 (61) 99919 – 8763 และติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดในบราซิลรายวันได้ที่ Facebook ของสถานเอกอัครราชทูตฯ .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

ปล่องลิฟต์ตึกถล่ม

กทม.เดินหน้าเจาะปล่องลิฟต์ ค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.

ผู้ว่าฯ กทม. เผยปฏิการค้นหาร่างผู้สูญหายจากเหตุตึก สตง.ถล่ม วันนี้เน้นเจาะปล่องลิฟต์-บันไดหนีไฟ หลังวานนี้ (18 เม.ย.) พบผู้เสียชีวิตในจุดดังกล่าวเพิ่มอีก 6 ราย ยืนยัน กทม. ให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการเข้า เก็บพยานหลักฐาน เพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว