สธ.16 พ.ค..- สธ.ย้ำ การคลายล็อกระยะที่2 สถานประกอบการต้องเตรียมความพร้อม มีความสะอาดทุกระบบ มาตรการระดับบุคคลยังต้องยึดเคร่งครัด ด้านรองอธิบดีกรมควบคุมโรค ชี้ จะต้องไม่เพิ่มความเสี่ยงการแพร่ระบาดของประเทศ
แพทย์หญิง พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวถึงการคลายล็อก ในระยะที่2 ว่ามีในกลุ่มที่1 คือขยายการจำหน่ายอาหาร/เครื่องดื่มเพิ่มในภัตตาคาร สวนอาหาร ศูนย์อาหาร โรงอาหาร ร้านอาหาร หรือเครื่องดื่มทั่วไป กลุ่มที่2 ร้านค้าปลีกค้าส่งขนาดใหญ่ วัสดุก่อสร้างเฟอร์นิเจอร์ ตลาดค้าส่งขนาดใหญ่ // กลุ่มที่3 ห้องประชุมโรงแรม ศูนย์ประชุม กลุ่มที่ 4 ห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้าคอมมูนิตี้มอลล์เพิ่มส่วนจำหน่ายสินค้าและบริการ แต่ยังงดการส่งเสริมการขายหรือกิจกรรมที่คนหนาแน่นยังคงเวลาปิดไว้ที่ 20:00 น. และสถานสงเคราะห์เด็กหรือผู้สูงอายุที่พักค้างคืน // กิจการถ่ายภาพยนตร์และวีดีทัศน์ไม่เกิน 50 คนต้องไม่มีผู้ชมเข้าร่วม // ส่วนกิจกรรมด้านออกกำลังกายดูแลสุขภาพและสันทนาการ คลีนิคเวชกรรมเสริมความงามเฉพาะเรือนร่างผิวพรรณเลเซอร์ ไม่รวมการเสริมความงามบริเวณใบหน้า // สถานที่หรือสนามออกกำลังกายในร่ม หากเล่นเป็นทีมฝั่งละไม่เกิน3คนเช่นแบดมินตัน ตะกร้อ // สถานที่ออกกำลังกายฟิตเนสเปิดได้เฉพาะเล่นโยคะ ฟรีเวท งดการเล่นเครื่องเล่น วิ่ง จักรยานปั่น หรือเล่นแบบรวมกลุ่ม // สระว่ายน้ำสาธารณะทั้งกลางแจ้งและในร่ม ใช้ลู่เว้นลู่ // สวนพฤกษศาสตร์ พิพิธภัณฑ์ ห้องสมุด
อธิบดีกรมอนามัยย้ำให้มีการเตรียมความพร้อมในการเปิดห้างสรรพสินค้าเน้น5มาตรการเข้ม คือ
1 ทำความสะอาดทั้งพื้นที่โดยรอบ ภายนอกและภายใน ไม่เว้นผนังห้องน้ำ เคาน์เตอร์จุดบริการ รวมถึงระบบปรับอากาศ เน้นให้มีการระบายอากาศ และวันนี้ควรมีการทดสอบระบบ ให้มีการระบายอากาศที่ดี
2 ผู้ให้-ผู้รับบริการต้องสวมหน้ากาก ผู้ที่ที่ต้องพบปะให้บริการทุกคนต้องใช้เฟซชิลด์ สวมทับหน้ากากอนามัย
3 มีจุดล้างมือ แอลกอฮอล์เจล ถ้ามีอ่างล้างมือด้วยยิ่งดีมาก
4 เว้นระยะห่าง มีแผ่นชีลด์ กั้นเวลารับประทานอาหาร ซื้ออาหาร ตารางเส้นกำหนดจุดยืน
5 ควบคุมจำนวนคน มีระบบนัดหมายช่วยให้นับจำนวนได้ดีขึ้น
ขณะที่เจ้าหน้าที่จากกรมอนามัยจะลงสุ่มตรวจระบบน้ำ การระบายอากาศ ความสะอาดของอาหาร และการจัดการขยะ ทุกรอบชั่วโมงพนักงานทำความสะอาดควรเช็ดจุดที่มีผู้สัมผัสร่วมอย่างสม่ำเสมอ เช่นลิฟท์ บันไดเลื่อน ราวบันได ลูกบิดห้องน้ำ ส่วนการคัดกรองพนักงานทุกคน ต้องทำทุกวัน พนักงานคนใดที่มีอาการไข้ให้หยุดงานทันที
อธิบดีกรมอนามัยยังให้ข้อสังเกตผลการสำรวจการประกอบกิจการในระยะผ่อนคลายที่1 ว่ามาตรการที่ผ่านมาได้ผลมากกว่า 95% แต่สิ่งที่ควรเน้นย้ำยังเป็นการควบคุมจำนวนคนต่อพื้นที่ // การกำหนดระยะเวลาที่ใช้บริการ // การทำความสะอาดจุดเสี่ยงสัมผัสร่วม // และผู้ให้บริการใส่อุปกรณ์ป้องกันตนเอง // การทำความสะอาดห้องน้ำก่อนและหลัง // ถังขยะที่สะอาดสภาพดีนำไปกำจัดทุกวัน แม้ทำได้เพียง95 % ก็ถือว่าทำได้ดีแต่ขอให้ อย่าลดความเข้มข้นในการปฏิบัติ
ด้าน นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรคเปิดเผยว่า สถานการณ์ผู้ป่วยรายใหม่ลดลงต่ำ 10 มาต่อเนื่อง วันนี้เป็นครั้งที่2 ที่ไม่พบผู้ป่วยรายใหม่หรือยอดเท่ากับ 0 ยอดรวม 3025 เสียชีวิต 56 กลับบ้าน 2855 ยังอยู่โรงพยาบาล 114 คน เห็นได้ว่าจำนวนผู้เสียชีวิตค่อนข้างต่ำมาก เมื่อดูกลุ่มจังหวัดที่มีผู้ป่วยสะสม พบว่ากรุงเทพมหานครและปริมณฑลยังคงเป็นอันดับ1 กลุ่มจังหวัดมีผู้ป่วยรองลงมาเป็นกลุ่มจังหวัดท่องเที่ยวขนาดใหญ่ เช่นภูเก็ต เชียงใหม่ ชลบุรี นอกนั้นเป็นกลุ่มจังหวัดภาคใต้ตอนล่าง ที่ต้องติดตามสถานการณ์อย่างเข้มข้น
สำหรับการผ่อนปรนระยะที่2 จะต้องไม่เพิ่มความเสี่ยงการแพร่ระบาดของประเทศ จะต้องมีมาตรการหลักทั้ง3แบบคือ
1 มาตรการทางสาธารณสุข เน้นไปที่การป้องกันกลุ่มเสี่ยง ทั้งผู้สูงวัยและผู้มีภาวะเสี่ยง เช่นแรงงาน ต้องเร่งค้นหาผู้ป่วย // จุดที่เจอผู้ป่วยๆเช่นห้างหรือหมู่บ้านต้องเพิ่มการเฝ้าระวัง // ส่วนกลุ่มประชากรเฉพาะ เช่น ผู้ป่วยปอดอักเสบ บุคลากรทางการแพทย์ ผู้สูงอายุ ครู (หากมีการเปิดเทอม) หรือการป่วยด้วยโรคหวัดเป็นกลุ่มก้อนต้องหาสาเหตุ และดำเนินการควบคุม
2 มาตรการระดับบุคคล ซึ่งทุกคนรู้ว่าแม้จะเปิดกิจกรรมและกิจการต่างๆก็ไม่สมควรจะออกจากบ้าน เพราะนั่นคือความเสี่ยง
3 มาตรการระดับองค์กร ต้องอาศัยเจ้าขององค์กรลุกขึ้นมาจัดระบ บ องค์กรไหนสามารถสนับสนุนเวิร์คฟอร์มโฮมหรือเหลื่อมเวลาทำงานได้ ก็สมควรปฏิบัติต่อไป
นายแพทย์ธนารักษ์ยังกล่าวว่าขณะนี้มีการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออกด้วยเช่นกันและว่าทั้ง2โรคมีอาการใกล้เคียงกัน จึงสมควรหาแนวทางป้องกันไข้เลือดออก กำจัดยุงกันอย่างเข้มข้นด้วย
ส่วนการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ แนะนำให้กลุ่มเสียง หญิงมีครรภ์ เด็กผู้สูงอายุรีบไปรับวัคซีนฟรี ซึ่งจะทำให้ระบบบริการสาธารณสุขดำเนินการได้อย่างราบรื่นรองรับการมีผู้ป่วย โควิด19ที่ต้องพึ่งบุคลากรทางการแพทย์ดูแลเป็นจำนวนมาก
ส่วนคำถามกรณี ไทยปลด จีน รวมฮ่องกงมาเก๊า เกาหลีใต้ ออกจากเขตโรคติดต่อร้ายแรง ก็ยังไม่สามารถทำให้คนจากประเทศเหล่านี้เดินทางเข้าไทยได้อยู่ดี เพราะไทยยังไม่อนุญาตให้มีการเดินทางเข้าประเทศไทย ยังมีการปิดน่านฟ้าและสนามบินอยู่.-สำนักข่าวไทย
![](https://imgs.mcot.net/images//2020/05/1589618728116.jpg)