จันทบุรี 22 ก.ค. – พายุกระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านข้าวมันไก่ถล่ม กระแทกหลังแม่เจ้าของร้านได้รับบาดเจ็บ ส่วนที่ภูเก็ตพายุถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต
หลังคาร้านข้าวมันไก่ บริเวณตลาดศิริการ อ.เมือง จ.จันทบุรี ถูกพายุพัดร่วงลงมาทั้งแผง ท่ามกลางความตื่นตระหนกของลูกค้าและพนักงานในร้าน เหตุดังกล่าวเกิดช่วงเที่ยงพอดี จึงมีลูกค้ามานั่งกินข้าวเต็มร้าน กระทั่งมีฝนเทลงมา ทางร้านและลูกค้าจึงช่วยกันขนย้ายโต๊ะเก้าอี้เข้าข้างในเพื่อหลบฝน ก่อนพายุจะซัดเข้ามาอย่างรุนแรง จนหลังคาถล่ม
เบื้องต้นไม่มีลูกค้าได้รับบาดเจ็บ มีเพียงแม่เจ้าของร้านข้าวมันไก่อีกร้าน ที่อยู่ติดกัน ถูกหลังคากระแทกหลังได้รับบาดเจ็บ นำส่งโรงพยาบาลแล้ว พนักงานร้านข้าวมันไก่ บอกว่า ปกติบริเวณนี้มีฝนตกบ่อย หลังคาแข็งแรงดี ไม่ได้ชำรุดอะไร แต่วันนี้ ลมแรงมาก มาแบบวูบเดียว พัดหลังคาลอยขึ้นก่อนพังลงมา
ทั้งนี้ลมพายุได้พัดหลังคาของตึกที่อยู่ในละแวกร้านข้าวมันไก่พังเสียหายจำนวน 15 คูหา เบื้องต้นกำลังทหารและตำรวจ ได้เข้าตรวจสอบ พร้อมให้การช่วยเหลือ ขนย้ายเศษซากหลังคาเคลียร์พื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว
พายุโซนร้อนวิภาถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต
ที่หน้าหาดเกาะเฮ จังหวัดภูเก็ต นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ หอบข้าวของวิ่งหนีลมพายุ จังหวะนั้นต้นไม้ขนาดใหญ่ถูกลมพัดโค่นลงมา ในคลิปจะได้ยินเสียงคนพูดว่า “เห็นไหม คน ๆ อยู่ใต้นั้น” หลังเหตุการณ์สงบ พบร่างนักท่องเที่ยวหญิงชาวจีน อายุ 53 ปี ถูกต้นไม้ทับเสียชีวิต
สำหรับผู้เสียชีวิตและสามีเดินทางมาเที่ยวที่เกาะเฮกับกรุ๊ปทัวร์ ก่อนเกิดเหตุ ผู้เสียชีวิตกับสามีนั่งอยู่ที่เก้าอี้ชายหาดใต้ต้นไม้ ได้มีลมพัดแรงและฝนตก ก่อนต้นไม้จะล้มทับผู้เสียชีวิต ส่วนสามีถูกกิ่งไม้ที่ล้มลงฟาด ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ล่าสุด ทางจังหวัดภูเก็ต ได้ทำหนังสือแสดงความเสียใจไปยังสถานทูตจีนแล้ว
ส่วนบรรยากาศท่าเทียบเรือท่องเที่ยวต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ต โดยเฉพาะท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง ตลอดทั้งวันค่อนข้างเงียบเหงา มีนักท่องเที่ยวบางตา เนื่องจากประกาศของเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต ห้ามเรือเล็กออกจากฝั่ง และมีการปักธงแดงทุกชายหาด
พายุวิภา ทำต้นไม้ใหญ่ล้มพากำแพงบ้านล้มขวางถนน
ส่วนที่ ที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ช่วงหัวค่ำ เกิดพายุลมกระโชกแรงและมีฝนตกลงมาอย่างหนัก โดยเฉพาะถนนจากบ้านสันถนนไปยังบ้านหนองสี่แจ่ง ต.ศรีเมืองชุม ความแรงของพายุได้พัดต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มลงและพาเอากำแพงบ้านของชาวบ้านล้มลงไปขวางถนนด้วย จนรถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรไปมาได้
เจ้าหน้าที่ของ อบต.ศรีเมืองชุม ต้องใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง จึงสามารถตัดต้นไม้ เคลื่อนย้ายต้นไม้ออกจากถนน และดันกำแพงที่ขวางถนนใหห้ออกจากพื้นผิวจราจรได้สำเร็จ ก่อนจะเปิดให้มีการสัญจรไปมาได้ตามปกติ.-สำนักข่าวไทย