เตือนสิงห์อมควัน เสี่ยงโควิด-19 ถึง 2 เท่า

กทม.14 พ.ค.-มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ผนึก รพ.รามาฯ เผยแพร่ผลวิจัยผู้ป่วยโควิด-19 จาก 3 ประเทศ จีน-สหรัฐฯ-เกาหลีใต้ ยืนยันสูบบุหรี่เสี่ยงป่วยโควิด-19 รุนแรงและเสียชีวิตเพิ่ม 2 เท่าของคนไม่สูบบุหรี่


มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา ได้ออกแถลงผลงานวิจัยการสูบบุหรี่ต่อความรุนแรงของการป่วยโควิด-19 พบสูบบุหรี่เสี่ยงป่วยโควิด-19รุนแรงเป็น 2 เท่า โดยออกรายงานเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยรายงานวิจัยชิ้นนี้เป็นผลงานจากความร่วมมือระหว่างนักวิจัยจากมหาวิทยาลัย แคลิฟอร์เนีย ซานฟรานซิสโก สหรัฐฯ และคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ตีพิมพ์ในวารสาร Nicotine & Tobacco Research 

โดยได้รวบรวมรายงานผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 19 ชิ้น จากวารสารทางการแพทย์ที่ผ่านการทบทวนจากผู้เชี่ยวชาญแล้ว รวมจำนวนผู้ป่วย 11,590 ราย ใน 3 ประเทศได้แก่ จีน สหรัฐฯ และเกาหลีใต้  พบว่าผู้ป่วยที่มีประวัติสูบบุหรี่เสี่ยงที่จะป่วยหนักจากโควิด-19 และเสี่ยงเสียชีวิตเพิ่มเป็น 2 เท่าของผู้ป่วยที่ไม่เคยสูบบุหรี่ โดยพบว่า30% ของผู้ป่วยที่สูบบุหรี่จะป่วยด้วยอาการที่รุนแรงหรือเสียชีวิต ในขณะที่มีเพียง 17% ของผู้ป่วย ที่ไม่สูบบุหรี่มีอาการป่วยหนัก


ดร.สแตนตัน แกล็นซ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยยาสูบแห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซานฟรานซิสโก กล่าวว่า การสูบบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่ระบบทางเดินหายใจเพราะการสูบบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าทำลายเซลล์เยื่อบุทางเดินหายใจ ทำลายปอดและระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายในการต่อต้านเชื้อโรค


ดร.พญ.เริงฤดี ปธานวนิช คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ผู้ร่วมวิจัย ได้แสดงความเห็นต่อประเด็นที่มีการพยายามอ้างว่าผู้สูบบุหรี่ติดเชื้อโควิด-19 น้อยกว่าผู้ไม่สูบ และเชื่อมโยงไปว่าการสูบบุหรี่อาจป้องกันโควิด-19 นั้น ไม่น่าเชื่อถือ เพราะการรายงานประวัติการสูบบุหรี่ในสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างโควิด-19 มีความเป็นไปได้ ที่จะมีการรายงานที่ตกหล่น ไม่ครบถ้วน จนทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่ามีผู้ป่วยโควิดที่สูบบุหรี่จำนวนน้อยกว่าที่เป็นจริง ซึ่งหากมีการเก็บรวบรวมข้อมูลที่ครบถ้วน คาดว่าความเสี่ยงของการสูบบุหรี่ต่อความรุนแรงของการป่วยด้วยโควิด-19 น่าจะเพิ่มขึ้น เพราะนอกจากการสูบบุหรี่เพิ่มความเสี่ยงโดยตรงต่อการติดเชื้อโควิด-19 แล้ว การสูบบุหรี่ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรังอื่นๆ เช่น โรคหัวใจมะเร็ง เบาหวาน และโรคถุงลมโป่งพอง ที่เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญของการป่วยรุนแรงของโควิดอีกด้วย 

“ขอสนับสนุนให้หน่วยงานสาธารณสุขที่ดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ควรมีการเก็บข้อมูลประวัติการสูบบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า  เนื่องจากเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญของการเจ็บป่วย และช่วยให้เกิดการส่งต่อผู้ป่วยเพื่อให้คำปรึกษาและช่วยเลิกสูบบุหรี่อย่างเป็นระบบต่อไป” ดร.พญ.เริงฤดี กล่าว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง