ผู้เชี่ยวชาญ-นักวิชาการหนุนปลดล็อกการบินไทยจากสายการบินแห่งชาติ-รัฐวิสาหกิจ

กรุงเทพฯ 14 พ.ค. – ผู้เชี่ยวชาญด้านการบินและนักวิชาการทีดีอาร์ไอ ฟันธงปลดล็อกการบินไทยจากสายการบินแห่งชาติ -ความเป็นรัฐวิสาหกิจ ไม่ส่งผลกระทบธุรกิจการบินของไทยในช่วงเปิดน่านฟ้าเสรีแล้ว ขณะที่แกนนำรัฐบาลตั้งวงใหญ่ถกแนวทางฟื้นฟูการบินไทย 15.00 น.วันนี้






นายชัยศักดิ์ อังค์สุวรรณ อดีตรองปลัดคมนาคมและอดีตอธิบดีกรมการขนส่งทางอากาศ และผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจการบิน  กล่าวถึงประเด็นการฟื้นฟูกิจการของการบินไทยในขณะนี้ ซึ่งเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ว่า โจทย์สำคัญในการแก้ไขปัญหาการบินไทย คือ ทำให้ธุรกิจกลับมาคล่องตัวสามารถแข่งขันได้  โดยเรื่องของสายการบินแห่งชาตินั้น ยืนยันว่าปัจจุบันทั่วโลกไม่ได้ให้ความสำคัญกับประเด็นดังกล่าว โดยได้ยกตัวอย่างกรณีหากคนไทยต้องการทำการบินไปยังเมืองสำคัญในสหรัฐ เช่น นิวยอร์ก ซึ่งการบินไทยก็ไม่ได้ให้บริการบินอยู่แล้ว แต่ปัจจุบันการเดินทางยังสามารถทำได้โดยมีสายการบินอื่น ๆ อีกมากมายให้บริการ ดังนั้น ในช่วงที่มีการเปิดเสรีด้านการบินไปแล้ว ผู้ใช้บริการมีทางเลือกมากมายที่เหมาะกับความต้องการและกำลังซื้อของผู้โดยสาร ประเด็นสายการบินแห่งชาติจึงมีหลายประเทศ เลิกให้ความสำคัญไปแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดคือการทำให้ผู้โดยสารเข้าถึงบริการ และภาครัฐดูแลให้บริการของสายการบินปลอดภัยมีมาตรฐาน ค่าบริการเป็นธรรมกับผู้ใช้

ส่วนประเด็นการบินไทยจะยังคงเป็นรัฐวิสาหกิจหรือไม่ นายชัยศักดิ์ ระบุว่าโดยฐานะของการบินไทยขณะนี้จำเป็นต้องทำให้เกิดความคล่องตัวในการบริหารจัดการ มีค่าใช้จ่ายที่เหมาะสม ครอบคลุมถึงความจำเป็นต้องลดสวัสดิการ ทั้งผู้บริหารและพนักงานที่เกินจำเป็นให้มีความเหมาะสม


นายชัยศักดิ์ ระบุทิ้งท้ายว่าในช่วงที่ธุรกิจการบินทั่วโลกได้รับผลกระทบจากปัญหาการระบาดโควิด-19 และไม่รู้ว่าจะสามารถกลับมาฟื้นตัวได้เมื่อไหร่นั้น ถือเป็นจังหวะที่ดีที่การบินไทยจะใช้เวลาช่วงปีกว่าถึง 2 ปีนี้ เร่งฟื้นฟูกิจการตัวเอง ให้กลับมาแข็งแรง  

นายสุเมธ องกิตติกุล ผู้อำนวยการวิจัย ด้านนโยบายการขนส่งและโลจิสติกส์ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ  ระบุคำว่า สายการบินแห่งชาติไม่ได้จำเป็นในยุคเปิดเสรีน่านฟ้าแล้ว  ส่วนการบินไทยควรจะคงความเป็นรัฐวิสาหกิจไว้หรือไม่นั้น  เห็นว่าการมีรัฐเป็นเจ้าของ หรือเอกชน ไม่สำคัญเท่าผลสำเร็จของการบริหารจัดการที่ต้องมีประสิทธิภาพแข่งขันได้ โดยยกตัวอย่าง เช่น สิงคโปร์แอร์ไลน์ แม้จะมีรัฐบาลเป็นเจ้าของ (ถือหุ้นโดยเทมาเส็ก โฮลดิ้งส์ ) แต่ก็มีการบริหารจัดการที่คล่องตัวธุรกิจแข่งขันได้  แต่ต้องยอมรับว่าในส่วนของประเทศไทยประวัติศาสตร์เกี่ยวกับการบริหารจัดการรัฐวิสาหกิจอาจไม่ได้เป็นในลักษณะดังกล่าว 

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการเร่งจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการวันนี้หน่วยงานและบุคคลที่ได้รับมอบหมาย อาทิ นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม ผู้บริหารสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) บอร์ดและฝ่ายบริหารการบินไทยจะประชุมร่วมกันในช่วงบ่ายวันนี้ (14 พ.ค.) โดยอาจมีรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องจำนวนมากไม่ว่าจะเป็นนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลกระทรวงคมนาคม นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เข้าร่วมหารือด้วย เพื่อเร่งทำแผนให้เสร็จตามที่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กำหนดก่อนวันที่ 21 พฤษภาคมนี้ เพื่อเร่งนำเข้าขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีโดยเร็ว  เพื่อให้มีทิศทางชัดเจนไปในทางหนึ่งทางใด  เนื่องจากมีรายงานข่าวระบุด้วยว่าการบินไทยจะประสบปัญหาสภาพคล่อง เรื่องค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เช่น การจ่ายเงินเดือนพนักงาน หลังเดือนพฤษภาคม เป็นต้นไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม