เข้าหน้าฝน กทม.เตรียมพร้อมป้องกันโรคไข้เลือดออก

กทม.13พ.ค.-ปลัด กทม.สั่งการสำนักการแพทย์ สำนักอนามัย สำนักงานเขต เตรียมพร้อมมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออก ในช่วงฤดูฝน ประกอบกับปีนี้ยังมีสถานการณ์โรคโควิด-19 ซึ่งมีความคล้ายคลึงกัน 


นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า จากรายงานของกรมอุตุนิยมวิทยาในช่วงเดือนนี้ประเทศไทยจะเข้าฤดูฝนอย่างเป็นทางการ โดยจะมีพายุฝนฟ้าคะนองในหลายพื้นที่ และอาจส่งผลทำให้เกิดน้ำขังในภาชนะต่างๆ ซึ่งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย จึงขอเตือนประชาชนระมัดระวังป้องกันตนเองไม่ให้ยุงกัด เพราะอาจเสี่ยงป่วยด้วยโรคไข้เลือดออก และควรช่วยกันกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย 


สำหรับสถานการณ์โรคไข้เลือดออกในส่วนของโรงพยาบาลในสังกัดกทม.ตั้งแต่วันที่ 1ม.ค.-20 เม.ย.63 พบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกแล้ว 1,295 ราย กลุ่มอายุที่พบมากที่สุด 3 อันดับ คืออายุระหว่าง 25-59 ปี 446 ราย อายุระหว่าง 15-24 ปี 347 ราย และอายุระหว่าง 10-14 ปี 195 ราย 

ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย สำนักการแพทย์ สำนักอนามัย และสำนักงานเขตพื้นที่ เร่งรณรงค์ควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดโรคไข้เลือดออกในชุมชนต่าง ๆ ตลอดจนให้ประชาชนร่วมเฝ้าระวัง ป้องกัน และกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายบริเวณที่พักอาศัยตนเอง ตามมาตรการต่างๆ อาทิ การดูแลสุขภาพด้วยตนเอง หลีกเลี่ยงไปสถานที่แออัด การดูแลความสะอาดภายในบ้านเรือนให้เป็นระเบียบเรียบร้อย เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งหลบซ่อนของยุง เก็บขยะ สำรวจภาชนะต่างๆ ไม่ให้มีน้ำขัง รวมถึงชุมชน โดยรอบพื้นที่โรงพยาบาล เพื่อตัดวงจรแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออก พร้อมแนะนำให้สวมใส่หน้ากากผ้า หน้ากากอนามัย เพื่อเป็นการดูแลเบื้องต้น


สำนักการแพทย์ ดำเนินการตรวจคัดกรองเบื้องต้น ณ โรงพยาบาลสังกัด กทม.เพื่อแยกประเภทกลุ่มโรคตามอาการ และเตรียมความพร้อมระบบเฝ้าระวังและควบคุมการแพร่ระบาดโรคไข้เลือดออก เพื่อลดความรุนแรงของการเจ็บป่วย ซึ่งอาจนำไปสู่การเสียชีวิตได้ โดยหากประชาชนมีอาการป่วย มีไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ หายใจเหนื่อยหอบ เบื่ออาหาร ปวดท้อง ซึ่งอาจมีลักษณะคล้ายกันหลายโรค ทั้งไข้หวัดใหญ่ ไข้เลือดออก และโรคโควิด-19  ขอให้ใส่หน้ากากอนามัย รับประทานยาลดไข้1-2 วัน ถ้าอาการไม่ดีขึ้นให้รีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน เพื่อรับการวินิจฉัยโรคและรับการรักษาต่อไป สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Hotline 1646 สายด่วนสุขภาพสำนักการแพทย์ กทม.

สำนักอนามัย ประสานความร่วมมือกับสำนักงานเขตพื้นที่ รณรงค์ควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดในชุมชน ตลอดจนให้ประชาชนร่วมเฝ้าระวัง กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายบริเวณที่พักอาศัย และจัดกิจกรรมบูรณาการในการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายในทุกชุมชน รวมทั้งเตรียมความพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุข เพื่อรองรับการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออก โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์โควิด-19 เนื่องจากทั้งสองโรค มีอาการป่วยในช่วงต้นคล้ายคลึงกัน หากพบผู้ป่วยอาการรุนแรงสามารถตรวจหาเชื้อในสถานพยาบาลของ กทม.ได้ทันที .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย