มุกดาหาร 11 พ.ค. – สำนักข่าวไทยลงพื้นที่ติดตามหาครูที่ตกเป็นผู้ต้องหา เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงจากปาก แต่วันนี้ยังไม่พบตัวทั้ง “ครูอานุภาพ” และ “ครูยุทธนา”
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย ลงพื้นที่บ้านพักหลังหนึ่งใน ต.มหาชัย อ.ปลาปาก จ.นครพนม หลังทราบว่าเป็นบ้านเกิดของนายอานุภาพ ซึ่งเป็น 1 ใน 7 ผู้ต้องหาคดีกระทำชำเรานักเรียนที่มุกดาหาร และได้เดินทางหลบมาพัก แต่ผู้สื่อข่าวไม่พบตัว มีเพียงรถกระบะทะเบียนมุกดาหารจอดอยู่ในโรงรถ และพบชายชราคนหนึ่งให้ข้อมูลว่าเป็นญาติห่างๆ โดยได้รับอนุญาตให้สร้างกระต๊อบหน้าบ้าน ทราบชื่อว่านายมานิตย์ พรหมดี อายุ 77 ปี มีศักดิ์เป็นลุง
นายมานิตย์ให้ข้อมูลว่า “ครูอานุภาพ” กลับมาที่บ้านหลายวันแล้ว แต่ได้เดินทางไปมุกดาหารกับครอบครัว และฝากให้ดูแลบ้าน ทั้งนี้ “ครูอานุภาพ” เพิ่งบรรจุเป็นครูได้ 2 ปี แต่งงานและมีครอบครัวแล้ว ลูกสาวเพิ่งอายุ 3-4 เดือน ยอมรับว่าได้ยินข่าวครั้งแรกรู้สึกตกใจ และไม่เชื่อว่าจะเป็นผู้ก่อเหตุ เพราะตั้งแต่เด็กไม่มีพฤติกรรมเกเร เรียนหนังสือเก่งจนสอบบรรจุครูได้ ก่อนหน้านี้นายบรรจงเล่าให้ฟังว่า วันเกิดเหตุได้ไปนั่งดื่มสุรากับเพื่อนครู แต่มีครูคนหนึ่งโทรศัพท์เรียกเด็กผู้หญิงเข้ามา และไม่ทราบว่าเป็นใคร พร้อมปฏิเสธว่าไม่ได้ร่วมกระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหา
ตามหา “ครูยุทธนา” พบบ้านปิดเงียบ
ส่วนที่บึงกาฬ ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้าน “ครูยุทธนา” อายุ 36 ปี หนึ่งในผู้ต้องหา ที่ ต.เซกา อ.เซกา ปรากฏว่าบ้านถูกปิดเงียบ จึงได้สอบถามนายธนพล แก้วนาง อายุ 52 ปี ผู้ใหญ่บ้าน และเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ส่วนตัวไม่ได้สนิทกับ “ครูยุทธนา” เจอล่าสุดเมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว โดยไม่แน่ใจว่ามางานแต่งงานหรืองานบวช แต่ยอมรับว่ารู้จักกับพ่อแม่ของผู้ต้องหา
“ครูหยุย” ให้อนุกรรมาธิการฯ ติดตามคดี-ความปลอดภัยเด็ก
นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการสังคม เด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการและผู้ด้อยโอกาส วุฒิสภา กล่าวว่า คดีลักษณะนี้ปรากฏเป็นข่าวอยู่เป็นระยะ ส่วนหนึ่งกระทรวงฯ ใช้วิธีย้ายไปประจำที่เขตพื้นที่ ส่วนหนึ่งถูกพักงาน แต่มีน้อยมากที่ถูกไล่ออกจากราชการ ซึ่งข่าวมักเงียบหายไป แต่ในกรณีนี้เห็นว่าเป็นเรื่องใหญ่มาก และหนักหนาเหมือนหลายคดีที่ผ่านมา ซึ่งจะติดตามอย่างใกล้ชิด ทั้งคดีความและการสอบสวนของกระทรวงฯ รวมถึงการปกป้องคุ้มครองเด็ก หลังจากนี้จะมอบหมายให้อนุกรรมาธิการเด็กและเยาวชนในคณะกรรมาธิการฯ ติดตามและรวบรวมความเคลื่อนไหวรายงานต่อคณะกรรมาธิการฯ อย่างต่อเนื่อง พร้อมยืนยันว่าต้องจัดการให้เด็ดขาดต่อกรณีที่แย่แบบนี้
“ทิชา ณ นคร” เรียกร้องหยุดความอัปยศคดีครูรุมโทรม
ขณะที่ Facebook “อ.ทิชา ณ นคร” นักสิทธิเด็กเยาวชนและสตรีผู้ที่ทำงานด้านเด็ก โพสต์ข้อความวิพากษ์วิจารณ์กรณีที่มีพี่ชายของครูคนหนึ่งที่เป็นผู้ต้องหาให้สัมภาษณ์ว่า ผู้ต้องหาเป็นคนรักครอบครัว รักลูก รักเมีย และไม่ได้ก่อเหตุ แต่นักเรียนมาให้ XXX แถมให้เงินด้วย
โดยมองว่าเป็นทัศนคติที่มุ่งแสวงหาประโยชน์ทางเพศของเด็ก และใช้จุดอ่อนของเด็กสร้างความชอบธรรมให้ตนเอง ทั้งๆ ที่ครูควรจะมีบทบาทในการชี้แนะทางที่ถูก อีกทั้งมองว่าการเกิดขึ้นลักษณะนี้ เป็นเพียงบางส่วนของครูที่อุดมด้วยด้านมืด คือการส่งสัญญาณที่แสนชัดว่า กระทรวงศึกษาธิการเสียศูนย์จริงๆ และต้อง “ตั้งแกนใหม่” อย่างด่วนที่สุด ปรากฏการณ์มุกดาหาร คือ ความอัปยศที่ต้องการการเปลี่ยนแปลงอย่างจริงจัง และไม่ต้องใช้เหตุผลซ้ำซากว่า “ก็แค่ครูบางคน” . – สำนักข่าวไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
►เร่งรวบรวมหลักฐานเอาผิดเพิ่มเติม ครู-ศิษย์เก่ากระทำชำเราเด็ก ม.4