สธ.แนะต้องทำตามมาตรการเว้นระยะห่าง ป้องกันการระบาดใหม่

สธ. 10 พ.ค. 63- รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ยืนยันมีโอกาสที่ไทยจะมีการแพร่ระบาดของโควิด-19
ในระดับวิกฤติได้ หากประชาชนไม่ให้ควาร่วมมือป้องกันตนเอง เว้นระยะห่างในระยะผ่อนปรน
ให้ 4 คำแนะนำป้องกันการระบาดเพิ่มขึ้นอีก



กระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวประจำวันสถานการณ์โควิด-19
ณ กระทรวงสาธารณสุข โดยวันนี้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 5 ราย
เป็นผู้ป่วยที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วย 2 ราย
และเป็นผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศที่กักตัวในสถานที่ของรัฐ 3 ราย ไม่มีตัวเลขของผู้เสียชีวิต
ขณะที่ได้รับการรักษากลับบ้านแล้วเพิ่มอีก 7 ราย ทำให้มียอดสะสมที่ยังรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลรวม
159 ราย


นายแพทย์ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค
กล่าวว่า ภาพรวมสถานการณ์การพบผู้ติดเชื้อของไทยแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่อง
และพบผู้ติดเชื้อในวงจำกัด แต่ทั้งนี้ยังมีโอกาสที่จะมีการระบาดในระยะที่รุนแรงขึ้นได้อีกหากทุกฝ่ายประมาท
ผ่อนปรนในมาตรการจำเป็นจนเกินไป รวมทั้งยังมีกลุ่มผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการ โดยจากนี้กระทรวงสาธารณสุขจะเร่งเดินหน้ามาตรการหาผู้ป่วยเชิงรุกมากขึ้น
ซึ่งหากจะเรียกว่าสถานการณ์คลี่คลายได้แล้วนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยตัวเลขของผู้ป่วยทั่วโลกต้องลดลงในระดับควบคุมได้
หรือมีวัคซีนในการรักษาแล้ว จากนั้นจึงจะเป็นระยะฟื้นฟูตามแผนที่กำหนดไว้แล้ว



ส่วนมาตรการเปิดเมืองนั้นสามารถทำได้ตามเหมาะสม
แต่ต้องระวังไม่เปิดในส่วนที่ไม่จำเป็น โดยมี 4 ข้อแนะนำสำคัญที่ควรปฏิบัติเป็นประจำ
โดยยังต้องมีมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมเสมอทั้งในช่วงการระบาดของโรค
และหลังจากผ่านพ้นการระบาด ซึ่งจะช่วยลดโอกาสติดเชื้อโรคติดต่อได้ทั้งหมด อีกทั้งยังเห็นว่าหน่วยงานใดที่สามารถปรับรูปแบบการทำงานคงรูปแบบการทำงานที่บ้าน
การเลื่อมเวลา หรือ ปรับระยะห่างโต๊ะทำงานควรจะทำให้เป็นปกติ

ในส่วนของการออกแบบด้านวิศวะกรรม
จะมีการเปลี่ยนไปเน้นรูปแบบที่ช่วยในการถ่ายเทอากาศได้มากขึ้น
การติดตั้งแผงกั้นระหว่างโต๊ะระหว่างบุคคล จะช่วยลดโอกาสเสี่ยงติดต่อของโรคได้มากขึ้น
รวมทั้งการปรับระบบการทำงานนำเทคโนโลยี การประชุมทางไกล การเรียนการสอนออนไลน์
และธุรกรรมทางเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ต้องปรับมามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น
เพื่อลดความแออัดในแต่ละสถานที่หรือการเดินทางลงได้อย่างมาก

ขณะที่ในการป้องกันส่วนบุคคลยังต้องเข้มงวด
การสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือให้สะอาด การปรุงอาหารให้สุก และการใช้ช้อนกลาง
จะเป็นอีกส่วนที่ช่วยลดความเสี่ยงของโรคต่างๆได้ ทั้งนี้ขอย้ำว่าทุกคนเป้นส่วนสำคัญที่จะช่วยลดและหยุดการแพร่ระบาดของโควิด-19
ได้มากที่สุด

สำหรับกรณีที่จะมีการผ่อนคลายบ้างสถานที่
รวมถึงห้างสรรพสินค้ามากขึ้นนั้น สามารถทำได้ แต่ห่วงว่าอาจมีประชาชนมาใช้บริการเยอะมากเกิดไป
จนกลายเป็ฯความแออัด จะต้องทำตามมาตรการลดความเสี่ยงการแพร่กระจายของโรคอย่างเคร่งครัด
มีการคัดกรอง การทำความสะอาดสถานที่ การสวมใส่หน้ากากอนามัย
การจัดสถานที่ให้ถ่ายเท รวมทั้งผู้ใช้บริการจะต้องมาแบบรีบไปรีบกลับ
ไม่มาเพื่อพักผ่อน แต่มาเฉพาะจำเป็นในการซื้อของใช้เท่านั้น ซึ่งก็จะลดความเสี่ยงของแต่ละคนได้มากขึ้น


ด้าน ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม
ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า สสส. รวมกับภาคีเครือข่าย
จัดทำคู่มือสู้โควิด-19 2 ชุด คือ ชุดมยุษย์โควิด ตอนเปิดเมืองให้ป(ล)อด ที่เสนอถึงวิธีการป้องกันตัวเองให้ห่างไกลจากโรค
และชุดคำแนะนำ 12 ประเภทกิจการ นำเสนอวิธีการป้อกงันและลดความเสี่ยงการติดเชื้อโรค
ใน 12 ตัวอย่าง ได้แก่ ตลาดสด ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ กิจกรรมสันทนาการ ร้านตัดผม
ร้านบริการตัดแต่งขนสัตว์เลี้ยง สนามกอล์ฟ สนามกีฬา การเดินทางโดย เรือ เครื่องบิน
มอเตอร์ไซต์รับจ้าง และรถไฟฟ้า ซึ่งจะเป็นคู่มือแนะแนวทางในการดำเนินชีวิตใหม่ได้อย่างปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

บุกจับกำนันหญิงแหนบทองคำ ฉ้อโกง 41 ล้าน

ตำรวจพิษณุโลกเปิดปฏิบัติการ “หักขาไก่” นำ 10 หมายจับ รวบตัว “กำนันหญิงแหนบทองคำ” ประธานกองทุนหมู่บ้าน กับคณะกรรมการกองทุนฯ ร่วมฉ้อโกงประชาชน หลังชาวบ้าน 140 ราย แจ้งความ มูลค่าความเสียหาย 41 ล้านบาท

ชาวเมียวดีหวั่นถูกตัดไฟฟ้า เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์

ชาวบ้านเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้ามชายแดนแม่สอด จ.ตาก หวั่นไทยตัดไฟฟ้า กระทบวงกว้าง เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์-เครื่องปั่นไฟ รับมือ ด้าน PEA ชี้ตัดไฟเมียนมาอาจสูญเปล่า หากไม่พิจารณาให้ครบถ้วน

ข่าวแนะนำ

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

นายกฯพบสีจิ้นผิง

นายกฯ เข้าเยี่ยมคารวะ “สี จิ้นผิง”

นายกฯ เข้าเยี่ยมคารวะ “สี จิ้นผิง” ย้ำความสัมพันธ์ทางการทูตและหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ ด้านจีนหนุนไทยมีบทบาทในเวที ระดับโลกและภูมิภาค

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่แม่สอด ชี้ยังสรุปไม่ได้ หลังตัดไฟเมื่อวาน

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่แม่สอด ชี้ยังสรุปไม่ได้ หลังตัดไฟแก้ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ ขอทำไปประเมินไป อย่าทำให้เป็นประเด็น มองเป็นสิทธิฝั่งเมียนมาซื้อไฟฟ้าจากลาว ลั่นเดี๋ยวต้องคุยอีก ย้ำตัดไฟครั้งนี้ไม่ได้ใช้อารมณ์ รู้อยู่กระทบเศรษฐกิจบ้าง แต่แค่ 0.1%

รวบแล้วนักโทษหนีเรือนจำนนทบุรี จนมุมที่ จ.ชลบุรี

จับได้แล้วนักโทษชายหนีเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ระหว่างออกกองงานภายนอก จนมุมที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งย่านบางแสน จ.ชลบุรี ก่อนนำตัวมาสอบสวนและดำเนินคดีที่ สภ.เมืองนนทบุรี