สปส.ร่วมธนาคาร ปล่อยสินเชื่อเพื่อการจ้างงาน สู้โควิด-19

สปส.9 พ.ค.-สปส.ร่วมธนาคาร จัดโครงการสินเชื่อเพื่อส่งเสริมการจ้างงานให้สถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เบื้องต้นมี 3 ธนาคารเข้าร่วมโครงการ



นางพิศมัย นิธิไพบูลย์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกรม สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ในฐานะโฆษกสำนักงานฯ เปิดเผยว่า จากที่รัฐบาลและกระทรวงแรงงาน ได้มีมาตรการเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ ที่ได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจจากโรคโควิด-19ให้สามารถรักษาการจ้างงานให้ผู้ประกันตนมีงานทำต่อเนื่องและอยู่ในระบบประกันสังคมนั้น ทางสำนักงานฯได้มีโครงการสินเชื่อเพื่อส่งเสริมการจ้างงาน วงเงินไม่เกิน 3หมื่นล้านบาท เพื่อให้สถานประกอบการกู้เป็นทุนหมุนเวียนในกิจการเสริมสภาพคล่อง ให้มีศักยภาพ มีการจ้างงานอย่างต่อเนื่อง 


โดยเป็นการกู้เพื่อ Refinance ได้ไม่เกินร้อยละ 50 ของวงเงินปล่อยกู้ของแต่ละธนาคารที่เข้าร่วมโครงการฯ ซึ่ง ณ ขณะนี้มีธนาคารเข้าร่วมโครงการสินเชื่อเพื่อส่งเสริมการจ้างงานแล้ว จำนวน 2 ธนาคาร ได้แก่ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) วงเงินสินเชื่อ เพื่อกู้ในโครงการฯ จำนวน 2,000 ล้านบาท และล่าสุดมีธนาคารเข้าร่วมโครงการสินเชื่อฯ เพิ่มเติม ได้แก่ ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) วงเงินสินเชื่อเพิ่มเติมอีก 2,000 ล้านบาท 

ทั้งนี้ มีระยะเวลาการยื่นคำขอกู้ตั้งแต่เริ่มโครงการจนถึง 31ธันวาคม 2563 หรือจนกว่าวงเงินโครงการจะหมด โดยวงเงินสินเชื่อได้มีการจัดสรร ดังนี้

1. วงเงิน 18,000 ล้านบาท สำหรับสถานประกอบการที่มีลูกจ้างไม่เกิน 50 คน วงเงินกู้ไม่เกิน 5 ล้านบาท ต่อราย


2. วงเงิน 9,000 ล้านบาท สำหรับสถานประกอบการที่มีลูกจ้าง 51 – 200 คน วงเงินกู้ไม่เกิน 10 ล้านบาท ต่อราย

3. วงเงิน 3,000 ล้านบาท สำหรับสถานประกอบที่มีลูกจ้างเกิน 200 คน วงเงินกู้ไม่เกิน 15 ล้านบาท ต่อราย

ส่วนอัตราดอกเบี้ยเงินกู้นั้น สถานประกอบการที่สนใจกู้และมีหลักทรัพย์ค้ำประกันอัตราดอกเบี้ย จะอยู่ที่ร้อยละ 3 ต่อปี และคงที่ 3 ปี และในกรณีสถานประกอบการที่สนใจกู้ที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันหรือใช้บุคคลค้ำประกัน อัตราดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ 5 ต่อปี และคงที่ 3 ปี 

สำหรับข้อกำหนดของสถานประกอบการที่จะเข้าร่วมโครงการต้องขึ้นทะเบียนกับสำนักงานประกันสังคมและจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 เดือนและหลังจากที่ได้รับสินเชื่อไปแล้ว ต้องรักษาจำนวนผู้ประกันตนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของจำนวนผู้ประกันตน ณ วันที่ได้รับสินเชื่อตลอดอายุโครงการ 3 ปี เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบให้มีการ เลิกจ้างลูกจ้างในสถานประกอบการ โดยสำนักงานประกันสังคมจะมีการตรวจสอบข้อมูลทุก 1 ปี

ผู้ประกอบการที่สนใจสามารถขอหนังสือรับรองสถานะสถานประกอบการ ได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขาทุกแห่ง เพื่อนำไปติดต่อขอยื่นกู้กับธนาคารที่เข้าร่วมโครงการฯ

ทั้งนี้ โครงการสินเชื่อเพื่อส่งเสริมการจ้างงานเป็นโครงการฯ ที่ดำเนินงานตามระเบียบคณะกรรมการประกันสังคมว่าด้วยการจัดหาผลประโยชน์ของกองทุนประกันสังคม พ.ศ.2559 ที่สามารถนำเม็ดเงิน ไม่เกินร้อยละ 10 ของเงินกองทุนประกันสังคมมาลงทุนทางสังคม เพื่อประโยชน์ทางอ้อมแก่นายจ้าง และผู้ประกันตนได้ นอกจากจะช่วยเป็นทุนหมุนเวียนและเสริมสร้างสภาพคล่องในสถานประกอบการรักษาสภาพการจ้างงาน ยังทำให้เกิดทุนหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจภายในประเทศ และพัฒนาเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศอีกด้วย .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

จนท.รุดช่วยอดีตครูจำใจสร้างห้องขังลูกติดยา

หลายหน่วยงานลงพื้นที่ช่วยอดีตครูจำใจสร้างห้องลูกกรง เตรียมขังลูกชายตกเป็นทาสยาเสพติด-พนันออนไลน์ บำบัดนับสิบครั้งไม่หาย พร้อมทำความเข้าใจผิดกฎหมายหน่วงเหนี่ยวกักขัง ขณะที่ รมว.ยุติธรรม เตรียมพิจารณาออกมาตรการบำบัดซ้ำโดยคำสั่งศาล

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” ปรากฏตัวแล้ว บอกไม่สบายใจมี ตร.เฝ้าหน้าบ้าน

ปรากฏตัวแล้ว “ทนายตั้ม” พบตำรวจเหตุมีเจ้าหน้าที่ไปเฝ้าที่บ้าน พร้อมแจงปมเงิน 39 ล้านบาท ค่าศิลปินจีน ที่แท้เป็นมิจฉาชีพหลอก “เจ๊อ้อย” ปฏิเสธพบคู่กรณี บอกยังไม่พร้อมคุย

เกาะกูด

“ภูมิธรรม” ย้ำจะรักษาผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต

“ภูมิธรรม” มอง MOU44 คือกลไกที่ดีที่สุด ก่อนย้อนกลุ่มการเมือง พปชร.ไปถามหัวหน้าพรรคตัวเอง เพราะเป็นคนนำเจรจาในปี 57 ยันไม่เคยยกเลิกในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ย้ำรัฐบาลจะรักษาดินแดน-ผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต