ราชบุรี 8 พ.ค.- หัวหน้ากลุ่มงานอารักขาพืช สำนักงานเกษตรจังหวัดราชบุรี ลงพื้นที่ตรวจสอบแปลงไร่มันสำปะหลัง ถูกแมงจินูนแดงกัดกินทำลายใบจนเหลือแต่ก้าน เสียหายราว 28 ไร่
นายละออ เสร็จกิจ หัวหน้ากลุ่มงานอารักขาพืช สำนักงานเกษตรจังหวัดราชบุรี ได้นำเจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอำเภอ และเกษตรตำบลลงพื้นที่ตรวจสอบแปลงไร่มันสำปะหลังของนางนรภัทร โอภาสรัตนาพร อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 174/4 หมู่ 3 ต.แก้มอ้น อ.จอมบึง หลังได้รับรายงานว่าไร่มันสำปะหลัง ถูกแมงจินูนแดงกัดกินทำลายใบเสียหาย 2 แปลงประมาณ 28 ไร่ ส่งผลทำให้ต้นมันสำปะหลังที่เกษตรกรปลูกไว้ และต้องใช้ระยะเวลาเก็บเกี่ยวผลผลิต 12 เดือน ต้องหยุดชะงักการเจริญเติบโตไประยะหนึ่ง จากการตรวจสอบไร่มันสำปะหลังดังกล่าวพบว่าบริเวณใบถูกแมงจินูนกัดกินจนเหลือแต่ก้านกระจายเป็นวงกว้าง สร้างความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรเป็นอย่างมาก เพราะต้องออกฉีดพ่นยาฆ่าแมลงในช่วงกลางคืน แมงจินูนแดงนอกจากจะกินใบมันสำปะหลังแล้วยังชอบกินใบมะขาม ใบสะเดาด้วย เมื่อแมงจินูนแดงกัดกินใบ ส่งผลให้มันสำปะหลัง หยุดชะงักการเจริญเติบโต อย่างแปลงนี้ใช้เวลาปลูกมา 8 เดือนแล้ว เหลืออีกไม่กี่เดือนก็จะเก็บเกี่ยวผลผลิตขายได้ แต่ถูกกินจนเหลือแต่ก้าน ล่าสุด มีพื้นที่ไร่มันสำปะหลัง ถูกแมงกินูนแดงทำลายประมาณ 80 ไร่ มีเกษตรกรได้รับผลกระทบประมาณ 5 ราย ในพื้นที่ อ.จอมบึง ซึ่งเป็นพื้นที่แห่งแรก และครั้งแรกของราชบุรีที่พบการระบาด
วิธีแก้ไขแนะนำเกษตรกร คือ เก็บตัวแก่ไปทำอาหาร เพราะแมงนูนแดงจะมีคุณค่าทางอาหารสูง ทั้งแคลเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม ทางภาคอีสานนิยมนำไปคั่วแปรรูปทำอาหารหลายอย่าง ช่วงนี้เป็นช่วงที่แมลงจินูนแดง ขึ้นมาผสมพันธุ์และวางไข่ ในท้องจะมีไข่จำนวนมากอร่อยกินได้ แต่ถ้าเยอะเกินปริมาณที่เก็บได้ก็จะแนะนำให้ใช้สารเคมี.-สำนักข่าวไทย