กทม. 8 พ.ค.-ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เชื่อรัฐพยายามอย่างเต็มที่ในการให้เงินเยียวยา 5 พันบาทเข้าถึงประชาชน ชี้ปัญหาการลงทะเบียน 1.7 ล้านคนจะได้รับการแก้ไข
พล.อ.วิทวัส รชตะนันทน์ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ประชุมร่วมกับ นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน เพื่อติดตามการปฏิบัติตามคำวินิจฉัยและข้อเสนอแนะของผู้ตรวจการแผ่นดิน ในเรื่องมาตรการชดเชยรายได้แก่ลูกจ้างของสถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบ หรือผู้ที่ได้รับผลกระทบอื่น ๆ ของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตามโครงการ “เราไม่ทิ้งกัน”จากนั้นพลเอกวิทวัส เดินทางมายังกรมประชาสัมพันธ์ ตรวจเยี่ยมเจ้าหน้าที่และประชาชน บริเวณจุดรับเรื่องร้องเรียนตามมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบตามโครงการ “เราไม่ทิ้งกัน”
พล.อ.วิทวัสให้สัมภาษณ์ว่า มาติดตามผลการดำเนินการในเรื่องเงินเยียวยาจากโครงการเราไม่ทิ้งกันที่เคยประชุมร่วมกับตัวแทนกระทรวงการคลังซึ่งหลังการประชุมก็ได้มีกระบวนการทบทวนสิทธิพบว่า มีผู้ลงทะเบียนขอรับเงินเยียวยาทั้งหมดจำนวน 28 ล้านคน ซึ่งก็พบว่าในจำนวน 1.7 ล้านคน มีปัญหาจากผู้ลงทะเบียนซ้ำ ผู้ลงทะเบียนไม่สำเร็จ เบื้องต้นได้มีการทบทวนสิทธิโดยใช้ระบบออนไลน์ แต่ผู้ที่ไม่มั่นใจในระบบออนไลน์ก็ได้มายื่นที่กระทรวงการคลัง ซึ่งก็พบปัญหาคือ บัญชีเงินฝากไม่ตรงกับผู้มายื่นขอรับเงินเยียวยา บางบัญชีเงินฝากมีผู้สามารถเบิก-ถอนได้มากกว่าหนึ่งคน หรือบัญชีเงินฝากที่ไม่มีการเคลื่อนไหวทางการเงินมาเป็นเวลากว่าหนึ่งปี ซึ่งในกรณีปัญหาเรื่องบัญชีเงินฝาก ทางเจ้าหน้าที่จะขอให้ประชาชนกลับไปที่ธนาคาร เพื่อขอให้เปิดบัญชีใหม่ในระบบพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขบัตรประจำตัวประชาชน
พล.อ.วิทวัส ยังได้ตั้งข้อสังเกตในกรณีผู้ลงทะเบียน 1.7 ล้านคน ที่ระบบระบุว่าไม่สามารถทำรายการต่อได้ ถือว่าลงทะเบียนไม่สำเร็จ กลุ่มคนเหล่านี้มาเข้าสู่กระบวนการใหม่ เพื่อให้สามารถรับเงินเยียวยา 5000 บาทได้ แต่หาก 1.7 ล้านคน ยังไม่เข้าข่ายที่จะได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาท ก็จะต้องนำไปสู่เงินเยียวยาก้อนอื่น เช่น ในส่วนของกระทรวง พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพราะฉะนั้นการช่วยเหลือเยียวยาของรัฐ เท่าที่ดูแล้วก็ได้ทำอย่างเต็มที่
“ทุกคนที่มีคุณสมบัติ เจ้าหน้าที่เขาก็พยายามดู เข้าไปในกรอบของคุณสมบัติ หัวใจสำคัญคือจะต้องมีคุณสมบัติไม่ซ้ำซ้อน กับการที่จะได้รับเงินเยียวยาในโครงการอื่นๆ ส่วนการลงทะเบียนระบบที่ขัดข้องก็มีการแก้ไข เชื่อว่าการทบทวนให้กับประชาชน 1.7 ล้านคนจะสามารถเข้าถึงเงินเยียวยาของภาครัฐลุล่วงไปได้ด้วยดี” พล.อ.วิทวัส กล่าว
พล.อ.วิทวัส ยังกล่าวด้วยว่า ในวันที่ 1 กรกฎาคม ซึ่งจะเป็นช่วงการเปิดภาคเรียน จึงได้ฝากนายลวรณ แสงสนิท ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการเยียวยาระดับชาติ ให้หามาตราการช่วยเหลือในเรื่องค่าเทอม ค่าบำรุงการศึกษา และชุดนักเรียน.-สำนักข่าวไทย
