เสถียรธรรมสถาน 8พ.ค..กรมอนามัย และเสถียรธรรมสถาน ร่วมหารือแนวทางปฏิบัติด้านสาธารณสุขสำหรับศาสนสถาน เพื่อรองรับมาตรการผ่อนปรนกิจการหรือกิจกรรมประเภทสถานปฏิบัติธรรม เพื่อป้องกัน เชื้อโควิด 19
นายแพทย์อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผย ภายหลังการเยี่ยมเสริมพลังและประชุมปรึกษาหารือการจัดทำแนวทางมาตรการผ่อนปรนกิจการหรือกิจกรรม ประเภทสถานปฏิบัติธรรม เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด19 ณ เสถียรธรรมสถาน กรุงเทพมหานคร ว่า ศาสนสถาน ได้แก่ วัด โบสถ์ มัสยิดและสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา เป็นสถานที่ที่มีศาสนิกชน รวมทั้งมีพระภิกษุสงฆ์ สามเณร แม่ชี และผู้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา อยู่รวมกันจำนวนมาก กรมอนามัย ได้ร่วมกับทางเสถียรธรรมสถาน หารือแนวทางเตรียมความพร้อมรองรับมาตรการผ่อนปรน เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้มาปฏิบัติศาสนพิธี และมีที่พึ่งทางจิตใจเพื่อช่วยในการลดภาวะเครียดของประชาชน โดยกรมอนามัยได้จัดทำแนวทาง คำแนะนำสำหรับการจัดการในพุทธสถาน ดังนี้ 1) จัดให้มีระบบคัดกรอง บริเวณทางเข้าพุทธสถานตามความเหมาะสม พร้อมจัดเตรียมจุดล้างมือด้วยสบู่ และแอลกอฮอล์เจลไว้บริเวณประตูทางเข้า-ออก ให้เพียงพอ 2) แม่ชี หรือผู้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา หากมีอาการเจ็บป่วย เช่น มีไข้ มีอุณหภูมิร่างกายมากกว่าหรือเท่ากับ 37.5 องศาเซลเซียส ไอ จาม มีน้ำมูก หรือเหนื่อยหอบ ให้งดร่วมประกอบพิธีกรรมและแนะนำพบแพทย์ทันที 3) กรณีที่มีการจัดพิธีกรรมทางศาสนา เช่น การนั่งสมาธิ สวดมนต์ หรือระหว่างเข้าร่วมพิธีกรรมทางศาสนา ควรปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เช่น กำหนดจุดระยะห่าง 1-2 เมตร ใส่ หน้ากากอนามัย และจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมให้เหมาะสมกับสถานที่ 4) งดหรือเลื่อนกิจกรรมหรือพิธีกรรมทางศาสนาที่มีความแออัดออกไปก่อน และ 5) การดูแลอาคารสถานที่ในการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา โดยทำความสะอาดก่อนและหลังการประกอบพิธีกรรมด้วยน้ำยาทำความสะอาดทั่วไป เปิดประตู หน้าต่าง เพื่อระบายอากาศ เปิดพัดลม หากมีเครื่องปรับอากาศ ให้ทำความสะอาดระบบระบายอากาศอย่างสม่ำเสมอ หากมีโรงครัว โรงทาน ควรจัดในพื้นที่โล่งที่มีการระบายอากาศได้ดี ผู้สัมผัสอาหาร ต้องดูแลสุขภาพและสุขอนามัยให้ดี ตั้งแต่การปรุง ประกอบและแจกจ่ายอาหาร รวมถึงการดูแลความสะอาดของสถานที่เตรียมปรุงและจุดรับอาหาร การจัดที่นั่งรับประทานอาหาร โดยยึดหลักการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล 1-2 เมตร เพื่อมิให้เป็นแหล่งแพร่กระจายเชื้อโรค” นายแพทย์อรรถพล กล่าว
รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวในตอนท้ายว่า แม่ชี และผู้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำ โดยให้ล้างมือด้วยสบู่ หรือแอลกอฮอลล์เจลทุกครั้ง ก่อนและหลังเข้าร่วมพิธีกรรมทางศาสนา ก่อนรับประทานอาหาร และหลังใช้ห้องน้ำ หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสใบหน้า เลือกรับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ แยกสำรับอาหารและใช้ช้อนกลางส่วนตัว สวมใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย และกำหนดจุดระยะห่าง 1 – 2 เมตร ในขณะเข้าร่วมพิธีกรรมทางศาสนา ส่วนผู้มาเข้าร่วมพิธีกรรมทางศาสนา หากมีอาการเจ็บป่วย เช่น มีไข้ ไอ จาม มีน้ำมูก ให้งดการเข้าร่วมพิธีกรรม และไปพบแพทย์. -สำนักข่าวไทย