ขอนแก่น 15 ก.ค. – กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะวัดและศาสนสถานทุกแห่ง ล้างส้วมให้สะอาด รองรับการเดินทางท่องเที่ยวของประชาชนช่วงวันหยุดยาว เน้นย้ำจุดที่มีการสัมผัสบ่อย ลดเสี่ยงโควิด-19
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย พร้อมด้วยนายแพทย์ชาตรี เมธาธราธิป ผู้อำนวยการศูนย์อนามัยที่ 7 ขอนแก่น และคณะเจ้าหน้าที่ของศูนย์อนามัยที่ 7 ขอนแก่น ลงพื้นที่เยี่ยมเสริมพลัง การดำเนินงานของพระคิลานุปัฏฐาก และตรวจเยี่ยมส้วมของวัดที่ผ่านมาตรฐาน HAS และมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อโรคโควิค-19 ของศาสนสถาน ณ วัดป่าพุทธญาณรังษี บ้านพระคือ จังหวัดขอนแก่น
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ช่วงวันหยุดยาว ประชาชนนิยมท่องเที่ยวและไปทำบุญที่วัดและศาสนสถานต่างๆ ขอความร่วมมือให้เจ้าหน้าที่ของวัดและศาสนสถานทุกแห่งร่วมกันล้างส้วมสาธารณะให้สะอาด เพื่อรองรับจำนวนผู้ใช้บริการ โดยเน้นการทำความสะอาดบริเวณผิวสัมผัสร่วม 7 จุดเสี่ยง ได้แก่ สายฉีดชำระที่กดโถส้วม โถปัสสาวะ ลูกบิดหรือกลอนประตู ที่รองนั่งโถส้วม พื้นห้องส้วม และที่เปิดก๊อก เพื่อเป็นการสร้างสุขอนามัยที่ดี และลดความเสี่ยงโรคโควิด-19 ส่วนผู้ใช้บริการต้องช่วยกันรักษาความสะอาด และมีพฤติกรรมในการใช้ส้วมอย่างถูกต้อง โดยปิดฝาโถส้วมก่อนกดชักโครกทุกครั้ง เพื่อป้องกันการฟุ้งกระจายของเชื้อโรค เว้นระยะห่างขณะรอใช้ส้วม 1-2 เมตร ไม่ขึ้นไปเหยียบบนโถส้วมแบบนั่งราบ เช็ดฆ่าเชื้อก่อนนั่งลงบนโถส้วม ไม่ทิ้งวัสดุใดๆ ลงในโถส้วม และล้างมือด้วยสบู่และน้ำให้สะอาดอย่างน้อย 20 วินาที ทุกครั้งหลังใช้ส้วม เป็นการสร้างสุขอนามัยที่ดีให้กับตนเอง ป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรคไปยังส่วนรวมด้วย นอกจากนี้ขอให้ประชาชนเฝ้าระวังและป้องกันตนเอง ตามหลัก UP–DMHTA โดยเน้นย้ำการสวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง และล้างมือ เพื่อป้องกันโรค
“สำหรับพนักงานทำความสะอาด ขณะปฏิบัติงานต้องสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยทุกครั้ง สวมถุงมือยาง และผ้ายางกันเปื้อน สวมรองเท้าพื้นยางหุ้มแข้ง หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสใบหน้าโดยไม่จำเป็น และหลังจากปฏิบัติงานเสร็จต้องล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำทันที ทั้งนี้ ที่ผ่านมา กรมอนามัยได้สนับสนุนให้สถานประกอบการ วัด และศาสนสถานทุกแห่ง ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาส้วมสาธารณะให้ได้มาตรฐาน
ส้วมสาธารณะระดับประเทศ (HAS) คือ 1) สะอาด (Health) : ห้องส้วมดำเนินการตามหลักสุขาภิบาล สุขภัณฑ์ต้องสะอาด ไม่มีกลิ่นเหม็น 2) เพียงพอ (Accessibility) : มีส้วมเพียงพอต่อความต้องการของผู้ใช้ รวมถึงผู้พิการ ผู้สูงอายุ หญิงมีครรภ์ และพร้อมใช้งานตลอดเวลาที่เปิดให้บริการ และ 3) ปลอดภัย (Safety) : ผู้ใช้บริการจะต้องปลอดภัยขณะใช้ส้วม เช่น สถานที่ตั้งไม่เปลี่ยว ห้องส้วมแยกเพศชาย-หญิง มีแสงสว่างเพียงพอ” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว .-สำนักข่าวไทย