fbpx

ชายต่างชาติติดโควิด-19 เสียชีวิตรายที่ 3 ของภูเก็ต

ภูเก็ต 6 พ.ค.- โควิด-19 ภูเก็ต ไม่พบติดเชื้อรายใหม่เป็นวันที่ 4 ขณะที่ชายออสเตรเลียป่วยเสียชีวิตแล้ว และยังมีโรคประจำตัวหลายโรค พร้อมเร่งเก็บข้อมูลหาทางฟื้นฟูเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ หลังสถานการณ์ของโรคดีขึ้น


วันนี้ (6 พ.ค.) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นพ.ธเนศ เสริมแก้ว นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต และ นพ.เฉลิมพงษ์ สุคนธนผล ผู้อำนวยโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ร่วมแถลงสถานการณ์เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) จังหวัดภูเก็ต ตั้งแต่วันที่ 5 มี.ค.-5 พ.ค.2563 ไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่มา 4 วันติดต่อกัน ยอดป่วยสะสม  220 ราย รักษาหายกลับบ้านแล้ว 180 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย รวมเป็น 3 ราย รอผลตรวจยืนยันทางห้องปฏิบัติการ 57 ราย


นายภัคพงศ์  กล่าวว่า บริบทของ จ.ภูเก็ต มีความแตกต่างกับจังหวัดอื่น เนื่องจากภูเก็ต นอกจากประชาชนตามสำเนาทะเบียนบ้านประมาณ 416,000 คน ยังมีประชากรแฝงที่เข้ามาทำงานในพื้นที่จำนวนมาก และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มาพำนักอยู่ในจังหวัด เพราะฉะนั้นตัวเลขข้อมูลผู้ติดเชื้อที่รายงานอยู่ทุกวันว่าภูเก็ตมีผู้ติดเชื้อเป็นอันดับ 2 รองจากกรุงเทพฯ เมื่อเทียบกับจำนวนแฝงประชากร น่าจะไม่เป็นธรรมกับภูเก็ตนัก 

“ผมขอยกตัวอย่าง จำนวนผู้ติดเชื้อที่ จ.ภูเก็ต ขณะนี้มีจำนวน 220 คน ในจำนวนนี้เป็นชาวภูเก็ต 85 คน เป็นผู้ติดเชื้อที่มีทะเบียนบ้านนอก จ.ภูเก็ต 95 คน และเป็นผู้ที่ติดเชื้อชาวต่างชาติ 42 คน 18 สัญชาติ”


นพ.เฉลิมพงษ์ สุคนธผล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตรายที่ 3 เป็นชาย อายุ 69 ปี สัญชาติออสเตรเลีย เป็นผู้จัดการโรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่เขาหลัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา มีโรคประจำตัวหลายโรค ประกอบด้วย โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคหอบหืด โรคความดันโลหิตสูง และโรคอ้วน มีภรรยาเป็นคนไทย มีบุตรด้วยกัน 2 คน และหลาน 1 คน อาศัยอยู่บ้านเดียวกันในพื้นที่ ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต 

ประวัติเสี่ยงก่อนเจ็บป่วย  ได้ไปสัมผัสพูดคุยกับลูกค้าชาวต่างชาติ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวเยอรมัน ออสเตรเลีย รัสเซีย โดยก่อนตรวจพบว่าป่วยติดเชื้อโควิด-19 ผู้ป่วยได้เข้ารักษาที่คลินิกแห่งหนึ่งในภูเก็ต ด้วยมีอาการไข้ หอบเหนื่อย เมื่อวันที่ 21,24 และ 27 มี.ค.63  กระทั่งวันที่ 27 มี.ค. มีอาการหอบมากขึ้น และมีไข้สูง แพทย์ประจำตัวจึงส่งตัวผู้ป่วยรายนี้เข้ารักษาต่อที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ตวันที่ 28 มี.ค. เนื่องจากสงสัยว่าจะติดเชื้อโควิด-19 จากนั้นโรงพยาบาลได้เข้าตรวจคัดกรองที่คลินิกระบบทางเดินหายใจ พบว่าหัวใจมีภาวะหยุดเต้นจึงให้ออกซิเจน และจากผลเอกซเรย์พบปอดติดเชื้อทั้ง 2 ข้าง พร้อมนำสารคัดหลั่งหลังโพรงจมูกไปตรวจหาเชื้อ ปรากฏว่าผลเป็นบวก 

ต่อมาวันที่ 29 มี.ค.ผู้ป่วยมีอาการเหนื่อยมากขึ้น แพทย์จึงตัดสินใจใส่ท่อช่วยหายใจทันที และเริ่มให้ยาต้านไวรัสและยาแบคทีเรีย วันที่ 1 เม.ย. พบว่าอาการติดเชื้อที่ปอดมีภาวะแทรกซ้อนปอดอักเสบ 7 เม.ย.ไข้เริ่มสูงขึ้น ติดเชื้อในกระแสเลือด แพทย์ได้วินิจฉัยการติดเชื้อพบปอดเริ่มแฟบทั้ง 2 ข้าง ไข้สูงตลอด ค่าไตเริ่มสูงขึ้น ไตเสื่อม 

วันที่ 21 เม.ย. ปอดเริ่มติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น 

วันที่ 22-30 เม.ย.ผู้ป่วยไตล้มเหลว ความดันต่ำลงเรื่อยๆ ตามลำดับ วิกฤติทรุดลงตามลำดับ กระทั่งวันที่ 5 พ.ค. เวลา 17.35 น.ผู้ป่วยเสียชีวิต รวมระยะเวลาการรักษา 38 วัน 

สรุปสาเหตุของการเสียชีวิต คือมีภาวะปอดติดเชื้อ และล้มเหลวจากไวรัสโควิด-19 โดยมีภาวะแทรกซ้อนคือปอดติดเชื้อแบคทีเรีย ไตวาย และติดเชื้อในกระแสเลือด ส่วนโรคร่วม คือโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคหอบหืด โรคความดันโลหิตสูง และโรคอ้วน

นายภัคพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การฟื้นฟูเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ขณะนี้ได้ตั้งคณะทำงาน ซึ่งเป็นทีมวิจัยบมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตภูเก็ต เป็นเจ้าภาพในการรวบรวมปัญหาของประชาชนในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นภาคบริการ ภาคการท่องเที่ยว อสังหาริมทรัพย์ รวมถึงประชาชนที่ประสบปัญหาเรื่องของการมีงานทำ ในส่วนนี้ทางจังหวัดมีการประชุมพิจารณากันเกือบทุกวัน เนื่องจากช่วงนี้สามารถควบคุมสถานการณ์ของโรคได้ ส่วนการเยียวยาจะเป็นลำดับต่อไปที่จะต้องดำเนินการ ช่วงนี้จะเป็นการรวบรวมข้อมูล ข้อเท็จจริงในแง่ความเสียหายที่เกิดขึ้น

ผู้ว่าฯ ภูเก็ต กล่าวว่า ส่วนการผ่อนคลายมาตรการอื่นๆ เพิ่มเติม ล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดมีมติที่จะให้มีการก่อสร้างในพื้นที่และอนุญาตให้รถบรรทุกวัสดุก่อสร้างและรถบรรทุกแรงงานก่อสร้างผ่านด่านท่าฉัตรไชยได้ เพื่อให้ธุรกิจก่อสร้างสามารถเดินต่อไปได้ ซึ่งจะส่งผลดีทั้งในส่วนของเศรษฐกิจจังหวัด แรงงานมีงานทำ มีรายได้ ลดปัญหาความเดือดร้อน ทั้งหมดนี้ได้หารือไปยังส่วนกลางแล้ว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ผลสอบ “ครูเบญ” เบื้องต้นไม่ผ่านเกณฑ์ ส่ง พฐ.ร่วมตรวจพิสูจน์

สพฐ. เผยผลสอบ “ครูเบญ” เบื้องต้นคะแนนไม่ผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 60 ทั้งภาค ก. ภาค ข. และไม่ติด 1 ใน 10 ส่งข้อสอบให้ พฐ. ตรวจพิสูจน์เพื่อความโปร่งใส

นายกฯ ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบภัย

“นายกฯ แพทองธาร” ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบอุทกภัย หวัง ศปช.รับมือ-ช่วยเหลือรวดเร็วทันท่วงที รวมถึงการเยียวยาหลังจากนี้

ฟื้นฟูชายแดนแม่สาย-เร่งกู้ตลาดสายลมจอย

เจ้าหน้าที่เร่งฟื้นฟูชุมชนชายแดนแม่สายที่ถูกน้ำท่วมและจมโคลนมานาน 10 วัน รวมทั้งเร่งกู้ตลาดสายลมจอยแหล่งจำหน่ายสินค้าชายแดนที่เสียหายอย่างหนัก

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553