สภาผู้ส่งออกฯ เห็นพ้องเอ็กซิมแบงก์ส่งออกปีนี้อาจติดลบ 8%

กรุงเทพฯ 5 พ.ค. – สภาผู้ส่งออกฯ ฟันธงส่งออกปีนี้อาจหดตัว 8% สอดคล้องกับเอ็กซิมแบงก์คาดส่งออกปีนี้หดตัว  5-8% พร้อมวิงวอน ธปท.ดูแลเงินบาทอ่อนค่าได้ที่ระดับ 34 บาทต่อดอลลาร์


นางสาวกัณญภัค ตัณติพิพัฒน์พงศ์ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สภาผู้ส่งออกฯ) กล่าวในการแถลงสถานการณ์ส่งออกเดือนมีนาคม ประจำเดือน เมษายน 2563 ว่า การส่งออกเดือนมีนาคม 2563 มีมูลค่า 22,405 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 4.17% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ส่วนภาพรวมการส่งออกไตรมาสแรกปีนี้ (ม.ค.-มี.ค.) การส่งออกขยายตัว 0.91% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จะเห็นได้ว่า การส่งออกปรับตัวดีขึ้น อย่างไรก็ตาม สภาผู้ส่งออกฯ ยังคงคาดการณ์การส่งออกภาพรวมปี 2563 อาจหดตัว 8% บนสมมติฐานค่าเงินบาทปี 2563 อยู่ที่ 30.5 (± 0.5) บาทต่อดอลลาร์  สอดคล้องกับทิศทางการประเมินของนายสิทธิกร ดิเรกสุนทร์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย(เอ็กซิมแบงก์) ที่ประเมินว่าการส่งออกมีโอกาสที่จะเป็นติดลบ 5-8%

สำหรับสาเหตุการส่งออกปี 2563 อาจหดตัว 8% เพราะการแพร่ระบาดของโควิด-19  ส่งผลกระทบเศรษฐกิจไตรมาสแรกของประเทศคู่ค้าสำคัญ ได้แก่ สหรัฐ จีน และสหภาพยุโรป (อียู) ติดลบค่อนข้างมาก  ซึ่งแต่ละประเทศมีสัดส่วนการส่งออกประมาณ 12.5% ของการส่งออกภาพรวม แม้เดือนนี้ประเทศจีนจะกลับมาเปิดปกติ แต่มีการควบคุมค่อนข้างเข้มงวด ขณะที่อียูและสหรัฐตัวเลขจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยังคงเพิ่มขึ้นสูง ฉุดการส่งออกของไทยในช่วง 9 เดือนที่เหลือปีนี้อย่างเลี่ยงไม่ได้ อย่างไรก็ตาม หากไทยสามารถเปิดการค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้านได้ สถานการณ์การส่งออกจะกลับมาดีขึ้นได้บ้าง ส่วนสงครามการค้าระลอก 2 มองว่ามีโอกาสที่จะเกิดขึ้น เพราะสหรัฐจะมีการเลือกตั้งเดือนพฤศจิกายนปีนี้ หรืออีก 6 เดือนข้างหน้า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีคนปัจจุบันต้องการที่จะกลับมาดำรงตำแหน่งอีกครั้ง  จึงต้องดำเนินการที่มองได้ว่าเป็นการรักษาผลประโยชน์ของสหรัฐ ขณะที่วันนี้ประเทศจีนฟื้นตัวเร็วกว่าสหรัฐจะต้องหาทางลดการขาดดุลการค้า  


นางสาวกัณญภัค กล่าวว่า สภาผู้ส่งออกฯ ต้องการเห็นเงินบาทอยู่ในระดับ  34 บาท ขณะนี้กังวลความผันผวนการแข็งค่าของเงินบาท จากที่ผ่านมาดีใจที่เงินบาทเคลื่อนไหว 33 บาทต่อดอลลาร์ แต่สัปดาห์นี้เงินบาทเคลื่อนไหว 32 บาทต่อดอลลาร์ จึงขอให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ช่วยดูให้เงินบาทอยู่ในระดับที่ผู้ส่งออกสามารถส่งออกสินค้าได้สะดวกขึ้น ด้านราคาน้ำมันลดลงช่วยลดต้นทุนภาคอุตสาหกรรม ขณะเดียวกันไม่เกิดประโยชน์สินค้าบางรายการอิงราคาตามภาวะน้ำมันโลก แต่เป็นปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้เป็นปัจจัยจากต่างประเทศที่ส่งผลกระทบความไม่แน่นอนต่อการส่งออกได้ 

สภาผู้ส่งออกฯ มองว่าการส่งออกของไทยในช่วง 9 เดือนที่เหลือปีนี้ระดับการฟื้นตัวของการส่งออกแบ่งได้ 3 กลุ่ม คือ กลุ่มฟื้นตัวรวดเร็วหรือลักษณะทรุดตัวลงเร็วและฟื้นตัวรวดเร็วแบบกราฟตัว “V”  ฟื้นตัวได้ในช่วงไตรมาสที่ 2-3 เพราะยังมีความต้องการสินค้าต้องการ ขณะที่สินค้าบางรายการฟื้นตัวช้าเป็นกลุ่มลักษณะรูปกราฟ ตัว “U” จะฟื้นตัวในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ถึงปีหน้า ท่ามกลางการผลิตในไทยต้องเผชิญกับปัญหาภัยแล้ง ขณะที่บางกลุ่มตัวฟื้นตัวช้า ลักษณะกราฟแบบตัว ” L” การฟื้นตัวจะเกิดขึ้นต้องข้ามไปในช่วงไตรมาส 2 ปีหน้า จึงต้องการเห็นมาตรการจากภาครัฐเข้ามาดูแลช่วยภาคอุตสาหกรรมและอุตสาหกรรมส่งออก และควรทำต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้สหรัฐ อียู อังกฤษและญี่ปุ่นมีการหารือกันให้เศรษฐกิจธุรกิจอยู่ได้ผ่านการเยียวยา 

สำหรับข้อเสนอแนะ EXIT Strategies: Post COVID-19 ของสภาผู้ส่งออกฯ  ประกอบด้วย  ด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศ เช่น  มาตรการฟื้นฟูด้านการเงินผ่านเงินกู้เพื่อเอสเอ็มอีและผู้ส่งออกขนาดกลางและขนาดใหญ่ พร้อมทั้งรักษาระดับอัตราแลกเปลี่ยนให้อยู่ระหว่าง 32.50-34.00 บาทต่อดอลลาร์ ,มุ่งยกระดับสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตรและอาหาร เพื่อให้ประเทศไทยก้าวไปสู่การเป็นครัวโลก (Kitchen of the world) เป็นต้น ช่วยปรับปรุงแก้ไขช่วยเหลือด้านต่าง ๆ เช่น ด้านโลจิสติกส์และการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ทั้งการขนส่งทางเรือ การขนส่งสินค้าทางอากาศ  การขนส่งสินค้าทางถนน  การขนส่งสินค้าทางราง  


สถานการณ์การส่งออกเดือนมีนาคม  2563 มีมูลค่า 22,405 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 4.17% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน  การส่งออกในรูปเงินบาทเท่ากับ 693,353 ล้านบาท ขยายตัว 4.21% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อน ขณะที่การนำเข้าเดือนมีนาคม 2563 มีมูลค่า 20,813 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 7.25% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน และการนำเข้าในรูปของเงินบาท มีมูลค่า 653,096 ล้านบาท ขยายตัว 7.32% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน  ส่งผลให้เดือนมีนาคม 2563 ประเทศไทยเกินดุลการค้า 1,592  ล้านดอลลาร์ และ 40,257 ล้านบาทเมื่อหักทองคำ น้ำมันและอาวุธยุทธปัจจัย เดือนมีนาคม 2563 การส่งออกขยายตัวร้อยละ 2.12 

ขณะที่ภาพรวมการส่งออกช่วงไตรมาสแรกปี 2563  ไทยส่งออกรวมมูลค่า 62,672 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 0.91% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน  คิดเป็นมูลค่าการส่งออกในรูปเงินบาทที่ 1,903,157  ล้านบาท หดตัว 2.98% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ช่วงเดือนม.ค.- มี.ค. 2563 ประเทศไทยเกินดุลการค้า 3,934  ล้านดอลลาร์สหรัฐ และ 94,466 ล้านบาทเมื่อหักทองคำและน้ำมันน้ำมันและอาวุธยุทธปัจจัย เดือนมกราคม – มีนาคม การส่งออกขยายตัว 1.06% .-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชนแล้วหนี! 2 หนุ่มกลัวถูกจับดึงสลักระเบิดดับ

2 หนุ่มชนแล้วหนี โบกรถมาขึ้นสามล้อเครื่อง ตำรวจตามกระชั้นชิด ตัดสินใจดึงสลักระเบิด แต่สะดุดล้มระเบิดตูมสนั่นดับ 1 ส่วนอีกคน ถูกจับโดยละม่อม

“ไบเดน” เปิดทำเนียบขาวต้อนรับ “ทรัมป์” ถกถ่ายโอนอำนาจ

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐเปิดห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาวหารือนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดี ซึ่งต่างให้คำมั่นการถ่ายโอนอำนาจจะเป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด

“อี้ แทนคุณ” เผยคดีใหม่ “ฟิล์ม” ชวนลงทุนคล้าย forex เสียหายกว่า 60 ล้าน

“อี้ แทนคุณ” เผยคดีใหม่ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ชักชวนลงทุนในดูไบ คล้าย forex ความเสียหายกว่า 60 ล้านบาท ขณะที่อีกฝ่ายอ้างนำเงินไปลงทุนจริงแต่ขาดทุน

ข่าวแนะนำ

สีฐานเฟสติวัล สุดยอดเทศกาลลอยกระทง จ.ขอนแก่น

บรรยากาศงานลอยกระทง จ.ขอนแก่น โดยเฉพาะภายในบึงสีฐาน มหาวิทยาลัยขอนแก่น คึกคัก มีประชาชนเดินทางมาร่วมสืบสานประเพณีลอยกระทง

“ยี่เป็งเชียงใหม่” คึกคัก นักท่องเที่ยวแน่น

บรรยากาศริมฝั่งลำน้ำปิง บริเวณหน้าเทศบาลนครเชียงใหม่ คึกคักไปด้วยชาวเชียงใหม่ รวมทั้งนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ ที่มาลอยกระทงกันอย่างคึกคัก ส่วนใหญ่มาเป็นครอบครัว คู่รัก หรือบางคนฉายเดี่ยว และยังเน้นกระทงที่ทำจากวัสดุธรรมชาติเป็นหลัก

คึกคัก ลอยกระทงวิถีไทย ปลอดภัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ที่วัดอรุณฯ

เริ่มแล้ว งานลอยกระทงวิถีไทย ปลอดภัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ที่วัดอรุณราชวราราม ประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าร่วมคึกคัก มีการแสดงและกิจกรรมต่างๆ มากมาย

“จิราพร” มอบทนายนำคลิปเข้าแจ้งจับนักร้องเรียนหญิงอ้างชื่อรีดทรัพย์

ทนายความ “รมต.” นำคลิปเข้าแจ้งจับนักร้องเรียนหญิง อ้างชื่อเรียกรับเงินกลุ่ม “ดิไอคอน” ยืนยันไม่เคยรู้จักกัน