มูลนิธิปิดทองหลังพระฯ แนะบรรเทาพิษโควิด-19 ในชนบทอย่างยั่งยืน

กรุงเทพฯ 4 พ.ค.- มูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ ร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรฯ และภาคี นำแนวพระราชดำริมาบรรเทาพิษโควิด-19 ส่งเสริมอาชีพและพัฒนาการเกษตร 34 อำเภอของจังหวัดอุดรธานี ขอนแก่น และกาฬสินธุ์ จำนวน 83 โครงการ ช่วยให้ประชาชน 3,800 ครัวเรือนมีรายได้เพิ่มจากเดิมปีละ 140  ล้านบาท 


ม.ร.ว.ดิศนัดดา ดิศกุล เลขาธิการมูลนิธิปิดทองหลังพระฯ เปิดเผยความคืบหน้าโครงการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากเพื่อบรรเทาทุกข์ผู้ตกงานจากภัยโควิด-19 ว่ามูลนิธิฯ ยึดแนวทางบูรณาการกับภาคีในรูปแบบสี่ประสาน คือ ราชการ เอกชน ประชาชน และมูลนิธิฯ ในฐานะผู้ริเริ่มและประสานแผน จึงทำให้โครงการต่าง ๆ เริ่มได้รวดเร็วและพัฒนาได้อย่างยั่งยืน 

“ในเวลาเดือนเดียวที่มูลนิธิฯ ตัดสินใจจะทำ ก็ได้รับความร่วมมือจากภาคีต่าง ๆ ทั้งกระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรฯ เอกชน และประชาชนในพื้นที่ ช่วยกันสำรวจแหล่งน้ำต้นทุน สำรวจความคิดเห็นของชาวบ้าน และข้อมูลตลาดสินค้า ทำให้ทุกฝ่ายเกิดความเข้าใจ จึงมั่นใจว่าเรากำลังทำอะไร เพื่ออะไร มูลนิธิปิดทองหลังพระฯ มีเป้าหมายเบื้องต้น คือการสร้างงานรองรับผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยนำมาผนวกกับการแก้ปัญหาภัยแล้งเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่การลงทุน” ม.ร.ว.ดิศนัดดา กล่าว


เลขาธิการมูลนิธิปิดทองหลังพระฯ  กล่าวว่า ในระยะที่หนึ่งของโครงการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากนี้ จะส่งเสริมการมีงานทำด้วยการพัฒนาแหล่งน้ำ 116 แห่งในจังหวัดอุดรธานี ขอนแก่น และกาฬสินธุ์ ซึ่งในปัจจุบันมีความก้าวหน้าและเริ่มการพัฒนาแล้ว 83 โครงการ โครงการแหล่งน้ำทั้ง 83 แห่ง ครอบคลุม 34 อำเภอ ซึ่งเมื่อคำนวณแล้วพบว่า ทำให้เกษตรกร 3,844 ครัวเรือน จะมีน้ำเพียงพอเพื่อการเกษตร คือเพิ่มขึ้น 15.2 ล้านลูกบาศก์เมตร กระจายน้ำได้ครอบคลุม 20,249 ไร่ 

“ช่วงที่มีปัญหามาก ๆ อย่างตอนนี้ ประชาชนจะเห็นว่าพระราชดำริช่วยได้จริง ๆ โครงการนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ เกษตร เอกชน มาร่วมมือกับชาวบ้านทั้งที่ตกงานจากโควิด-19 แล้วมาทำงานหารายได้ยังชีพ 350 คน กับชาวบ้านอีกเกือบ 4,000 คนที่อาสามาทำงาน เพราะเขารู้ว่าเมื่อมีน้ำแล้ว เขาเองจะได้ประโยชน์อย่างเต็มที่ ดังนั้นจึงมีเอกภาพและทุกฝ่ายจะได้ประโยชน์ทั้งระดับชุมชน ท้องถิ่นและระดับประเทศ” เลขาธิการมูลนิธิปิดทองหลังพระฯ  กล่าว

ม.ร.ว.ดิศนัดดา กล่าวว่า เคยทำโครงการแบบนี้มาก่อนที่จังหวัดอุดรธานี ซึ่งวิจัยแล้วว่าเมื่อมีน้ำเพียงพอ รายได้ของชาวบ้านจะเพิ่มขึ้นไร่ละ 7,000 บาท คือ จากข้าวประมาณ 2 พันบาทและจากพืชหลังนาอีก 5 พันบาท ฉะนั้นแหล่งน้ำ 83 แห่งนี้ ก็จะทำให้รายได้เพิ่มขึ้นอีกปีละประมาณ 141 ล้านบาท ในขณะที่เงินลงทุนรวมเพียง 53 ล้านบาท หรือเฉลี่ยแห่งละ 650,000 บาท


เลขาธิการมูลนิธิปิดทองหลังพระฯ  กล่าวว่า นอกจากการพัฒนาแหล่งน้ำและระบบกระจายน้ำแล้ว มูลนิธิฯ ยังจะร่วมมือกับกระทรวงเกษตรฯ และภาคเอกชน ในการส่งเสริมการเกษตรที่มีมูลค่าเพิ่ม ตรงความต้องการของตลาดอีกด้วย จึงจะทำให้เกิดคุณประโยชน์หลัก ๆ สามด้าน คือ เกิดระบบกระจายน้ำเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของอาชีพเกษตร เกิดธุรกิจใหม่ในการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพตรงความต้องการของตลาด และเกิดความรู้เพื่อให้ท้องถิ่นและชุมชนพัฒนาตนเองได้อย่างยั่งยืนในอนาคต

“การระบาดของโควิด-19 มาซ้ำเติมความแห้งแล้งรุนแรงที่สุดใน 40 ปี เราต้องยอมเหนื่อยกัน แต่เมื่อรัฐบาลเตรียมกระตุ้นการพัฒนาแหล่งน้ำและการเกษตร ผมก็คิดว่าแนวทางที่เราทำกันอยู่นี้จะทำให้กระตุ้นได้ผลเต็มที่และยั่งยืนด้วย” ม.ร.ว.ดิศนัดดา กล่าว 

นายธวัชชัย เนียมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า โครงการที่มาร่วมกันทำนี้สามารถทำให้เกิดอาชีพที่มั่นคงระยะยาวแก่ชาวบ้านได้ เป็นการทำแบบเล็กไปหาใหญ่ ตนจึงขอให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยเข้ามาร่วม เพื่อเป็นการเรียนรู้รูปแบบของงานเพื่อให้จังหวัดกาฬสินธุ์ขยายงานต่อไปได้เอง

นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ขอนแก่นมีแนวทางชัดเจนที่จะต่อยอดการพัฒนาแหล่งน้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน โดยได้มอบให้หน่วยราชการต่าง ๆ เข้ามามีบทบาท เช่น เกษตรฯ จะเข้ามาสนับสนุนทั้งในเรื่องเมล็ดพันธุ์และนวัตกรรมต่าง ๆ เพื่อพัฒนาอาชีพให้เกษตรกรอย่างยั่งยืนต่อไป

นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า โครงการที่จังหวัดเข้ามาร่วมงานด้วยนี้ไม่เพียงจะบรรเทาทุกข์คนตกงานจากโควิด-19 เท่านั้น แต่เป็นโครงการพัฒนาอาชีพที่จะมีความยั่งยืนตามแนวพระราชดำริได้ต่อไป เพราะสามารถแก้ปัญหาน้ำพร้อมกับเสริมความสามารถทางอาชีพให้แก่ประชาชนไปพร้อม ๆ กัน

ด้านนายพงศ์ภัค สีมี อายุ 26 ปี ชาวอำเภอหนองหาน จ.อุดรธานี กล่าวว่า ตนตกงานจากอาชีพรับจ้างกรีดยางในจังหวัดสงขลา จึงต้องกลับบ้านเกิดอุดรธานี และสมัครเข้าร่วมโครงการนี้ในตำแหน่งอาสาพัฒนาหมู่บ้าน (อสพ.) 

“ตอนแรกผมก็ไม่รู้อะไร แต่พอมาร่วมแล้วก็ดีกว่าที่คิดเพราะมีงานทำชั่วคราว แล้วยังได้เข้าอบรม ทำให้ผมได้เรียนรู้เรื่องพระราชดำริ กับเทคนิคการเกษตร อย่างระบบน้ำหยดพลังแสงอาทิตย์ เทคนิคการปลูกผักที่ตลาดต้องการ เป็นประโยชน์กับผมและชุมชนมาก”นายพงศ์ภัค กล่าว.-สำนักข่าวไทย       

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบเจ้าบ่าวลอบขนยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด

ปราจีนบุรี 17 พ.ค. – ตำรวจสกัดจับพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด อาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก กระสุนปืน 10 นัด รถกระบะ 1 คัน นาทีเจ้าหน้าที่สกัดจับนายธนธรรม หรือ เม่น เจ้าบ่าวซึ่งเพิ่งผ่านพิธีแต่งงานไปไม่นาน และเป็นหนึ่งในแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ โดยจับกุมได้บริเวณถนนบ้านหนองหอย อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด, อาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก, กระสุนปืน 10 นัด และรถกระบะ 1 คัน ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เผยขบวนการนี้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากริมแม่น้ำโขง จ.อำนาจเจริญ มาซุกซ่อนไว้ที่บ้านในปราจีนบุรี เพื่อเตรียมกระจายไปยังพื้นที่ปทุมธานี เจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวจนพบว่าจะมีการเดินทางไปยัง จ.อุบลราชธานี เพื่อรับยาเสพติด กระทั่งกลุ่มผู้ต้องหารู้ตัวว่าถูกสะกดรอย จึงเร่งความเร็วรถหลบหนี ก่อนพุ่งชนรถเจ้าหน้าที่ และถูกสกัดจับไว้ได้ ขณะที่รถยนต์ 2 […]

ไรเดอร์ชกเบ้าตาแตก ฉุนเมาปักหมุดมั่วแถมลวนลาม

พัทยา 17 พ.ค.- ไรเดอร์ฉุน ชกนักท่องเที่ยวชาวอินเดียจนเบ้าตาแตก พยานบอกผู้ก่อเหตุฉุนปักหมุดผิดทำขี่วนหลายรอบ แถมถูกลวนลามจึงทนไม่ไหว นักท่องเที่ยวชาวอินเดีย อายุประมาณ 35-40 ปี นอนบาดเจ็บ คิ้วซ้ายและเบ้าตาซ้ายแตกเลือดอาบหน้าอยู่ในอาการมึนเมา เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงประมาณตี 1 วันนี้ ในซอยเทพประสิทธิ์ 17 เมืองพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ส่วนผู้ก่อเหตุหลบหนีไปก่อนเจ้าหน้าที่จะมาถึง แต่พลเมืองดีบันทึกภาพไว้ได้ จึงมอบให้ตำรวจเป็นหลักฐาน สอบถามพนักงานรักษาความปลอดภัยของคอนโดฯ แห่งหนึ่งใกล้จุดเกิดเหตุ ให้ข้อมูลว่าผู้ก่อเหตุเป็นไรเดอร์ส่งผู้โดยสาร และเล่าให้ตนฟังว่านักท่องเที่ยวคนนี้มึนเมาอย่างหนัก แถมปักหมุดสถานที่ส่งผิดที่ ผู้ก่อเหตุก็พยายามวนหาอยู่หลายครั้ง เท่านั้นยังไม่พอ ผู้บาดเจ็บได้ลวนลามผู้ก่อเหตุ จนผู้ก่อเหตุโมโหและจอดรถชกหน้าทันที ทั้งนี้ ผู้บาดเจ็บจะเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองพัทยา หลังรักษาอาการบาดเจ็บแล้ว .-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” นำค้นวัดไร่ขิง 3 จุด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด

นครปฐม 16 พ.ค.-“บิ๊กเต่า” นำกำลังตำรวจกองปราบบุกค้นวัดไร่ขิง 3 จุด หาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เอี่ยวคดียักยอกเงินวัด 300 ล้าน พร้อมนำหมายค้นบ้านประชาชน 1 จุด ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่วัด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด เวลา 07.00 น. พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ป.ป.ช. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ตรวจค้นภายในวัดไร่ขิงพระอารามหลวง มีทั้งหมด 3 จุด และบริเวณโดยรอบอีก 1 จุด ซึ่งจุดแรกในวัดไร่ขิงคือกุฏิของพระธรรมวชิรานุวัตร หรือเจ้าคุณแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงและเจ้าคณะภาค 14 โดยมีผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงเป็นผู้ที่นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในกุฎิ พร้อมสังเกตการณ์ ทันทีที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการถึงบริเวณหน้ากุฎิเจ้าอาวาส ได้ให้ตำรวจอ่านหมายค้น เพื่อเข้าตรวจสอบและยึดสิ่งของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในการกระทำความผิด ทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปใช้ประกอบหลักฐานการสอบสวนไต่สวนมูลฟ้องในการพิจารณาความผิด ขณะที่พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากการอ่านหมายค้น ว่า วันนี้เป็นการตรวจค้นเกี่ยวกับเส้นเงินที่ไหลไปตามบัญชีต่างๆ มีใครเกี่ยวข้องบ้าง ต้องมีการเรียกสอบรายบุคคลพร้อมกับการตรวจค้น โดยหลักๆ ส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเส้นเงินที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ โดยมุ่งเน้นไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ […]

2 ผู้ต้องหามอบตัว คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์ม

ตรัง 16 พ.ค. – หัวหน้าแก๊ง พร้อมลูกน้องอีก 1 คน ก่อเหตุเผานั่งยาง 3 ศพในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ติดต่อขอมอบตัว หวั่นถูกวิสามัญ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังไล่ล่า เช้านี้ ตำรวจ สภ.โคกนา เจ้าของพื้นที่คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ได้รับการประสานจากอดีตสมาชิกสภาจังหวัด ในพื้นที่อำเภอสิเกาว่า จะนำตัว 2 ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว คือ นายศุภกรณ์ หรือบิน อายุ 37 ปี ชาวตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง และนายจรณชัย หรือแต้ม อายุ 32 ปี ชาวหมู่ 7 ตำบลน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองคน กังวลเรื่องความปลอดภัย หากหลบหนีต่อไป เกรงถูกวิสามัญฆาตกรรม หลังเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ระดมปิดล้อมบ้านเขาหลัก […]

ข่าวแนะนำ

พบศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลังทิ้งกลางไร่อ้อย

กาญจนบุรี 18 พ.ค. – พบแล้วศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลัง นำศพทิ้งกลางไร่อ้อย เมืองกาญจน์ หลังครอบครัวแจ้งช่วยตามหาตัวตั้งแต่คืนวันที่ 14 พ.ค. ตั้งปมสังหารเรื่องชู้สาว ความคืบหน้ากรณี “ดีเจเตเต้” ถูกขับรถตามประกบ ก่อนอุ้มขึ้นรถหายตัวไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.53 น. ของวันที่ 14 พ.ค. ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งริมถนนแสงชูโต ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งหลังเกิดเหตุพ่อของดีเจเตเต้ ได้ออกมาอัดคลิปลงเฟซ บุ๊กเพื่อขอความช่วยเหลือในการตามหาตัวลูกชายที่หายตัวไป ก่อนที่ล่าสุดจะพบว่า กลายเป็นศพอยู่กลางไร่อ้อยเชิงเขาบ้านทุ่งนานางหรอก โดยวันนี้เวลาประมาณ 10.30 น. นายธนพล เสือส่าน กำนันบ้านทุ่งนานางหรอก ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพอยู่บริเวณไร่อ้อย หมู่ 3 บ้านทุ่งนานางหรอก ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี คนที่ไปเจอ เป็นน้าชายของนายกอล์ฟคนในหมู่บ้าน ที่ออกไปหาของป่าแล้วไปเจอศพ ในสภาพนอนตะแคง ถูกมือถูกมัดไขว้หลัง แล้วมาบอกหลานชายคือนายกอล์ฟไปดูด้วยกัน แล้วนายกอล์ฟจึงแจ้งให้กำนันทราบ ทางกำนันก็แจ้งเรื่องต่อไปยังตำรวจ สภ.ลาดหญ้า ซึ่งเบื้องต้นศพสวมเสื้อผ้าตรงกับที่เป็นข่าว […]

Pope Leo XIV with the Fisherman's Ring

ผู้นำโลกร่วมพิธีมิสซาสถาปนาโป๊ปเลโอที่ 14

โป๊ปเลโอที่ 14 เข้าพิธีมิสซารับตำแหน่งพระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกอย่างเป็นทางการแล้วในเช้าวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น โดยมีผู้นำจากทั่วโลกร่วมในพิธี

อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง นอนคุกคืนแรกเครียด ไม่กินมื้อเย็น

กรมราชทัณฑ์ 18 พ.ค. – อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง นอนคุกคืนแรกเครียด ไม่กินมื้อเย็น ส่วน “เปรมชัย” กักโรคอยู่แดนพยาบาลเรือนจำ ภายหลังวานนี้ (17 พ.ค.) พนักงานสอบสวนนำตัว 3 ผู้ต้องหา คดียักยอกเงินวัดไร่ขิง ได้แก่ นายแย้ม อินทร์กรุงเก่า หรือ อดีตพระธรรมวชิรานุวัตร (แย้ม กิตฺตินฺธโร) อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง นายเอกพจน์ ภูฆัง หรือ อดีตพระมหาเอกพจน์ ภูฆัง พระลูกวัดคนสนิทของอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง และ น.ส.อรัญญาวรรณ วังทะพันธ์ โบรกเกอร์เว็บพนันออนไลน์ ฝากขังศาลครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน และส่งตัวไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และทัณฑสถานหญิงกลาง นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 17 พ.ค. ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ได้ออกหมายขังระหว่างสอบสวน ให้ขัง น.ส.อรัญญาวรรณ วังทะพันธ์ ที่ทัณฑสถานหญิงกลางโดยได้ดำเนินการรับตัวและนำตัวกักโรคโควิด-19 ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่อในแดนระหว่างพิจารณาคดี เบื้องต้นตรวจสุขภาพร่างกายปกติ […]

ฝนตกหนักบนดอยสุเทพ น้ำหลากท่วมชุมชนเขตเทศบาลเชียงใหม่

เชียงใหม่ 18 พ.ค.-ฝนตกหนักบนดอยสุเทพ และในตัวเมืองเชียงใหม่ นานนับชั่วโมง ทำให้น้ำป่าไหลหลากลงมาตามลำห้วย และเอ่อล้นท่อระบายน้ำ ท่วมขังชุมชนศรีปิงเมือง ชุมชนกาดก้อม ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ชาวบ้านส่วนใหญ่ยังกังวล กลัวจะเหมือนปีที่ผ่านมา ประชาชนได้รับผลกระทบเป็นบริเวณกว้าง ทำให้รถเล็ก ที่จะผ่านเส้นทางบริเวณดังกล่าว ผ่านลำบาก รถจักรยานยนต์ เครื่องยนต์ดับหลายคัน ระดับน้ำสูง 30 เซนติเมตร ขณะที่ชาวบ้านขอความร่วมมือผู้ที่ขับรถยนต์ผ่านเส้นทางเข้าในชุมชน ขอให้ชะลอความเร็ว เนื่องจากเกิดคลื่นน้ำ ทะลักเข้าไปในบ้าน ทรัพย์สินจะเสียหาย หากเป็นไปได้ ให้หลีกเลี่ยงเส้นทาง ไปใช้เส้นทางอื่นแทน ขณะนี้ระดับน้ำยังคงสูงขึ้น เนื่องจากฝนยังไม่หยุดตก ทำให้การสัญจรบางเส้นทางลำบาก นอกจากนั้นยังมีน้ำท่วมขังถนนอีกหลายสาย รอการระบาย ทำให้มีประชาชนติดค้างตามร้านค้าร้านอาหารข้างทางเพื่อหลบฝน ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาและเร่งระบายน้ำ หลังจากนั้นประมาณ 2-3 ชั่วโมง ระดับน้ำน่าจะลดลง ล่าสุดเช้าวันนี้ ระดับน้ำลดลงเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว บางจุดยังมีน้ำขังบนถนนเล็กน้อย ถนนตามชุมชนมีแต่ขยะและถุงขยะลอยมากับน้ำท่วม ทำให้รถขยะของเทศบาลนครเชียงใหม่ เร่งเก็บเศษขยะและถุงขยะ อย่างไรก็ตามประชาชนส่วนใหญ่ยังกังวลเกี่ยวกับเรื่องน้ำท่วม กลัวจะเหมือนปีที่ผ่านมา ขณะที่ผู้รับเหมาดูดตะกอนดินทรายในแม่น้ำปิง ได้นำเรือดูดทรายลำแรกจากจังหวัดอ่างทอง มาถึง ลงในน้ำปิง ตรงข้ามกับสำนักงานแขวงนครพิงค์ ย่านวังสิงห์คำ ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ […]