ลำปาง 1 พ.ค.-ชาวบ้านตั้งข้อสงสัย เครื่องตรวจวัดอุณหภูมิแบบอินฟาเรด ที่เทศบาลนครลำปางจัดซื้อจากงบ สปสช. มามอบให้ชุมชนในราคาเครื่อง 3,900 บาท แต่กลับเจอแบบเดียวกันในท้องตลาดขายแค่ราว 600 บาท บางเครื่องที่ได้มาใช้งานไม่ได้แล้ว
สภาพเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิแบบอินฟาเรด ราคาเครื่องละ 3,900 บาท ที่ 43 ชุมชนในเขตเทศบาลนครลำปาง ได้รับมอบจาก นายกเทศมนตรีนครลำปาง พร้อมกับวัสดุและอุปกรณ์อื่นๆ รวม 11 รายการ ในวงเงินชุมชนละ 26,300 บาท จากวงเงินที่ได้รับอนุมัติทั้งหมด 28,000 บาท เพื่อนำไปใช้ในศูนย์เฝ้าระวังและป้องกันโควิด-19 ระดับชุมชน ซึ่งเป็นงบประมาณสนับสนุนจาก สปสช.
จากการตรวจสอบข้อมูลตามโครงการดังกล่าวพบว่า เริ่มแรกมีหนึ่งชุมชนที่ทำโครงการลักษณะโครงการต้นแบบเพื่อขอรับการสนับสนุนเงินงบประมาณจาก กองทุนส่งเสริมสุขภาพเทศบาลนครลำปาง ระบุรายการที่จะต้องจัดซื้อเพื่อตั้งเป็นศูนย์เฝ้าระวังฯ รวมงบประมาณ 28,000 บาท ต่อมาโครงการดังกล่าวถูกส่งให้ทุกชุมชน โดยใช้โมเดลเดียวกันทั้งหมด แต่การจัดซื้อวัสดุไม่ได้ให้ชุมชนเป็นผู้ดำเนินการ กลับให้กองทุนฯ เทศบาลนครลำปาง เป็นผู้จัดซื้อเอง โดยมีรายละเอียดของวัสดุ อุปกรณ์ ชนิดเดียวกัน ทั้ง 43 ชุมชนๆละ 11 รายการ และมอบต่อให้กับชุมชน เซ็นต์รับเงินในใบเสร็จรับเงิน 26,300 บาท
จากการตรวจสอบราคาวัสดุอุปกรณ์ตามรายการที่ปรากฎ เครื่องตรวจวัดอุณหภูมิแบบอินฟาเรด มีราคาสูงถึงเครื่องละ 3,900 บาท เมื่อเปรียบเทียบกับราคาที่มีจำหน่ายในท้องตลาดชนิดเดียวกันราคาถูกสุดไม่ถึง 600 บาท แพงสุดคือ 1,560 บาท ราคาสูงกว่า100%
สำหรับคุณสมบัติเน้นใช้สำหรับวัดไข้ทารก และเมื่อนำมาใช้กับระดับชุมชน ซึ่งมีประชาชนจำนวนมาก พบว่าขณะนี้บางชุมชนไม่สามารถใช้งานได้แล้ว บางชุมชนระบุว่าตั้งแต่ได้รับเครื่องมาก็ไม่สามารถใช้เครื่องได้เพราะเครื่องไม่ทำงาน บางชุมชนระบุว่าหากเครื่องเจออากาศร้อนวัด2คนเครื่องก็เกิดเอ่อเล่อทำงานไม่ได้
ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นวันนี้ เจ้าหน้าที่ สตง.ได้เข้าตรวจสอบพร้อมเชิญ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้ข้อมูลเกี่ยวกับโครงการดังกล่าวแล้ว
นายสมหมาย พงษ์ไพบูลย์ คณะกรรมการส่งเสริมสุขภาพเทศบาลนครลำปาง ชี้แจงว่า โครงการนี้นายกเทศมนจตรีนครลำปาง ให้เจ้าหน้าที่โทรศัพท์ประสานมายังคกก.ทั้งหมดเป็นการด่วนเพื่อขอมติ ซึ่งตนเองได้เข้าร่วมด้วย เมื่อไปถึงก็เห็นเอกสารโครงการซึ่งมีข้อมูลกว้างๆ ไม่มีการระบุรายละเอียดของตัวสินค้า แต่ได้เร่งรัดและขอมติทันทีอ้างเป็นโครงการเร่งด่วน แม้แต่ อสม.ที่เข้าร่วมประชุม ยังไม่ทราบ โครงการนี้เงินโอนเข้าชุมชนจริงแต่ก็ต้องนำเงินมาคืนเทศบาล เพราะเทศบาลเป็ตัวกลางจัดซื้อ และยังพบว่าราคาสินค้าบางตัวสูงกว่าราคาตลาดมาก.-สำนักข่าวไทย