ทำเนียบฯ 27 เม.ย.- โฆษก ศบค.เผยยังไม่มีข้อสรุปให้เปิดห้างสรรพสินค้า ร้านตัดผม ร้านอาหาร วันที่ 4 พฤษภาคม ตามที่มีการเผยแพร่ในสื่อออนไลน์ ระบุต้องรอ ครม.ชี้ เพราะจะมีผลบังคับใช้พร้อมกันทั่วประเทศ
น.พ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด19) หรือ ศบค. กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวจะเลื่อนวันหยุดนักขัตฤกษ์ในเดือนพฤษภาคม ว่า กระทรวงวัฒนธรรมได้เสนอที่ประชุม และได้หารือโดยใช้หลักการเรื่องสาธารณสุข ที่เห็นว่าหากมีวันหยุดหลายวันติดกัน อาจมีความสุ่มเสี่ยง เรื่องการเคลื่อนย้ายคน หรือการเดินทางของประชาชนจำนวนมากขึ้น อย่างไรก็ตามเรื่องนี้เป็นอำนาจของคณะรัฐมนตรี ที่จะมีการประชุมวันพรุ่งนี้ ดังนั้นวันนี้ยังไม่มีข้อสรุป
ต่อข้อถามว่า ในโซเชียลมีเดียมีการส่งต่อข้อความการผ่อนคลายมาตรการ อาทิ การเปิดห้างสรรพสินค้า ร้านตัดผม ร้านอาหาร ให้เปิดได้ในวันที่ 4 พฤษภาคม ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร โฆษก ศบค. กล่าวว่า ที่ประชุมมีการพุดคุย แต่ไม่ได้ลงรายละเอียด ประเด็นดังกล่าวเป็นการเสนอ โดยเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ยังไม่ได้เจาะจงไปในกิจการใดกิจการหนึ่ง ซึ่งนายกรัฐมนตรี ให้หารือทบทวน ให้คิดอย่างรอบคอบ ดูผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น โดยในช่วงบ่ายวันนี้ (27 เม.ย.) จะมีการพูดคุย และจะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันพรุ่งนี้ หากพิจารณาไม่ทันก็จะมีการแจ้งรายละเอียดในโอกาสต่อไป ส่วนการเริ่มปฏิบัติ จะต้องมีความพร้อมจริง ๆ จึงจะประกาศ เพราะจะมีผลบังคับใช้พร้อมกันทั่วประเทศ
เมื่อถามว่าการหารือของเลขาฯ สภาพัฒน์ฯ ในช่วงบ่าย จะมีการพูดคุยกับผู้ประกอบการรายใหญ่ รายเล็ก หรือผู้ที่เกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า การพุดคุยในเรื่องดังกล่าว มีหลายภาคส่วนเข้าร่วม ทั้งกรมควบคุมโรค เครือข่ายNGO ภาควิชาการ เช่น ทีดีอาร์ไอ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย หอการค้าจังหวัด เครือข่ายต่าง ๆ รวมถึงธนาคารแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย ดังนั้นยืนยันได้ว่า มีการหารือกันหลายมิติ กว่าจะออกมาเป็นข้อเสนอชุดนี้ และหากประชาชนมีข้อเสนอสามารถเสนอมาทางภาครัฐได้เช่นกัน
เมื่อถามว่าจะมีการอนุญาตให้ขายเครื่องดื่มแอลกอออล์ ตั้งแต่เวลา 14.00 -17.00 น. โดยขายออนไลน์ หรือ แบบซื้อกลับบ้านได้หรือไม่ โฆษก ศบค. กล่าวว่า ไม่มีการหารือประเด็นดังกล่าว คณะที่ปรึกษาคงจะไปหารือกันอีกครั้ง
“นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญต่อการสื่อสารต่อประชาชน หลังจากนี้จะแถลงให้กระชับมากขึ้น และจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ใช้พื้นที่นี้นำเสนอและนำชุดข้อมูลที่มีปัญหาเพื่อนำไปสู่การแก้ไข หรือปัญหาที่สามารถแก้ไขได้ มาแจ้งให้ประชาชนทราบ หลังจากนี้จะมีโฉมใหม่ในการปรับปรุงพัฒนา การแถลงข่าวของศูนย์ ศบค.เพื่อทำให้ประชาชนอยู่อย่างมีความสุขในช่วงวิกฤตินี้” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย
