กทม. 27 เม.ย.– ที่ประชุม ศบค. เห็นควรขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ทั่วราชอาณาจักรออกไปอีก 1 เดือน (1-31 พ.ค.63) เสนอ ครม. พรุ่งนี้ (28 เม.ย.) โดย คงมาตรการ 4 ข้อเพื่อป้องกันโรคโควิด-19 ทั้งห้ามบุคคลออกนอกเคหสถาน 22.00-04.00 น. คุมการเดินทางเข้าไทย งดหรือชะลอเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัด และงดกิจกรรมคนหมู่มาก
ศูนย์บริการสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) โดย นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงว่า ที่ประชุม ศบค.วันนี้ เห็นควรขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ทั่วราชอาณาจักรออกไปอีก 1 เดือน (1-31 พ.ค.63) เตรียมเสนอ ครม. พรุ่งนี้ (28 เม.ย.) หลังประเมินครบแล้ว
ผลสัมฤทธิ์การประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548
การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ทำให้การดำเนินตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี/ผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 เป็นไปอย่างรวดเร็ว มีเอกภาพ และทันท่วงที เป็นผลให้ผู้ติดเชื้อรายวันภายในประเทศไทยมีจำนวนลดลงอย่างต่อเนื่อง
หน่วยงานด้านการข่าวได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนมากกว่า 40,000 คน พบว่าประชาชนมากกว่าร้อยละ 70 เห็นด้วยกับการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินของรัฐบาล
เห็นควรพิจารณาขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ทั่วราชอาณาจักรออกไปอีก 1 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1-31 พฤษภาคม พ.ศ. 2563
มาตรการตามข้อกำหนดที่ยังต้องคงไว้
1.ควบคุมการเดินทางเข้าราชอาณาจักร
ควบคุมเข้าราชอาณาจักร ทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ (ขยายการห้ามอากาศยานบินเข้าสู่ประเทศไทยเป็นการชั่วคราวออกไปอีก 1 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1-31 พฤษภาคม พ.ศ. 2563)
2.ห้ามบุคคลออกนอกเคหสถาน (Curfew- เคอร์ฟิว)
ห้ามบุคคลใดทั่วราชอาณาจักรออกนอกเคหสถาน (Curfew) ระหว่างเวลา 22.00 น. ถึงเวลา 04.00 น.
3.งดหรือชะลอการเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัด
งดหรือชะลอการเดินทางข้ามเขตจังหวัดโดยไม่มีเหตุจำเป็น
4.งดการดำเนินกิจกรรมคนหมู่มาก
ห้ามประชาชนเข้าไปในพื้นที่หรือสถานที่ซึ่งมีคนจำนวนมากไปทำกิจกรรมร่วมกันหรือเสี่ยงต่อการแพร่โรคติดเชื้อโควิด-19 เป็นการชั่วคราว
สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ
(สำนักงานประสานงานกลาง)