แนวโน้มดีขึ้น พบป่วยโควิดเพิ่ม 15 คน ย้ำการ์ดอย่าตก

กทม. 26 เม.ย. – โฆษก ศบค. แถลงสถานการณ์โควิด-19 วันนี้ดีขึ้น พบผู้ป่วยรายใหม่เพียง 15 คน ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม อยู่ระหว่างการรักษา 277 คน ต่ำกว่า 300 คน ครั้งแรก รวมผู้ป่วยสะสม 2,922 คน หายป่วยแล้ว 2,594 คน ยอดผู้เสียชีวิตคงที่ 51 คน ขอประชาชนการ์ดอย่าตก ให้ใช้ช่วงเวลานี้ปรับตัว เชื่อมนุษย์เป็นเผ่าพันธุ์ที่ปรับตัวรอดได้ดี


นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 หรือ โควิด-19 (ศบค.) แถลงสถานการณ์รายวันว่าวันนี้มีรายงานสถานการณ์วันนี้ไทยมีข่าวดี พบผู้ป่วยหายดีเพิ่ม 47 คน รวมผู้ป่วยหายดี 2,594 คน พบผู้ป่วยรายใหม่ 15 คน การติดเชื้อสะสม 2,922 คน ครอบคลุม 68 จังหวัด และยังคงรักษาในโรงพยาบาลต่างๆ 277 คน ขณะที่วันนี้จำนวนผู้เสียชีวิตตัวเลขคงที่ 51 ราย 


กลุ่มอายุที่พบป่วยโควิด-19 มากที่สุดคือ ช่วงอายุ 20-29 ปี เพศชายมากกว่าเพศหญิง 1.1.6 ต่อผู้หญิง 1 คน ซึ่งกลุ่มนี้ต้องดูแลเป็นพิเศษ เพราะเป็นผู้ที่อยู่ในช่วงอายุที่สามารถนำพาหะของโรคไปติดกับผู้อื่นได้

โฆษก ศบค. เปิดเผยถึงผู้ป่วยรายใหม่พบมี 15 คน แบ่งเป็นกรุงเทพฯ 7 คน (State Quarantines 4 ) จ.ภูเก็ต 4 คน จ.ยะลา 2 คน จ.ชลบุรี 1 อยู่ในการ State Quarantines และจ.นครปฐม 1 คน มาจาก 3 กลุ่มหลัก คือกลุ่ม 1 ผู้ป่วยรายใหม่สัมผัสยืนยันรายก่อนหน้านี้ 8 คน และไม่เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยรายก่อนหน้านี้ 4 คน แบ่งเป็นไปสถานที่ชุมนุม เช่น ทางห้างสรรพสินค้า ตลาดนัด สถานที่ท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ 3 คน อาชีพเสี่ยง 1 คน กลุ่ม 2 การค้าพูดติดเชื้อในชุมชนหาเชิงรุก ที่จังหวัดยะลา 2 คน และกลุ่มที่ 3 ผู้ป่วยที่เดินทางมาจากต่างประเทศเข้า State Quarantines 5 คน แบ่งเป็น คนไทยมาจาก UAE อยู่ในกรุงเทพฯ 4 คน และเนเธอร์แลนด์ อยู่ใน จ.ชลบุรี 1 คน


ทั้งนี้ ประเทศไทยยังคงมี 9 จังหวัดที่ยังไม่มีรายงานผู้ป่วยติดเชื้อไวรัส และ 1 จังหวัดมีผู้ป่วยเฉพาะในระบบ State Quarantines ได้แก่ กำแพงเพชร ชัยนาท ตราด น่าน บึงกาฬ พิจิตร ระนอง สิงห์บุรี อ่างทอง และสตูล 

ส่วนอันดับจังหวัดพบผู้ป่วยสูงสุด ไม่รวม State Quarantines ยังเป็นกรุงเทพฯ 1,481 คน (มีผู้ป่วย State Quarantines 7 คน รองลงมา จ.ภูเก็ต 205 คน และนนทบุรี 156 คน ขณะที่อัตราการป่วยต่อประชากรแสนคนไม่รวม State Quarantines จ.ภูเก็ต ยังอยู่อันดับ 1 ร้อยละ 49.59 รองลงมากรุงเทพฯ ร้อยละ 26.11 และยะลา ร้อยละ 20.21 

ส่วนจังหวัดไม่มีรายงานผู้ป่วยในช่วง 28 วัน มีทั้งหมด 11 จังหวัด ได้แก่ จันทบุรี ราชบุรี ลพบุรีเพชรบูรณ์ แพร่ สุโขทัย อุทัยธานี มหาสารคาม มุกดาหาร ยโสธร ร้อยเอ็ด

ขณะที่ศูนย์กักคนเข้าเมืองด่านสะเดา ไม่มีรายงานผู้ป่วยเพิ่ม กลุ่มระบาดวิทยาที่เข้าไปสอบสวนโรคดูแลผู้ป่วยทั้ง 42 คนที่เป็นคนต่างด้าวอย่างดี แม้เป็นกลุ่มที่ทำผิดกฎหมายคนเข้าเมือง แต่ประเทศไทยได้ปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชนดูแลคนเหล่านี้เป็นอย่างดี และอาการป่วยไม่มีการแสดงอาการ ส่วนใหญ่อาการยังคงที่ หากมีรายละเอียดเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมจะรายงานให้ทราบอีกครั้ง ขณะที่กลุ่มเสี่ยงส่วนใหญ่ยังคงเป็นผู้สัมผัสผู้ที่ติดเชื้อมาก่อน

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ภาพรวมขณะนี้สถานการณ์ในพื้นที่ต่างๆ มีแนวโน้มดีขึ้น แม้ยังมีการระบาดอยู่ แต่ถือว่าเป็นตัวเลขที่น่าพึงพอใจ พร้อมย้ำถึงการลงตรวจเชื้อเชิงรุกในพื้นที่เสี่ยงเพื่อป้องกันการระบาด จึงขอฝากประชาชนให้สังเกตอาการตนเองอย่างใกล้ชิด หากพบสิ่งปกติให้ไปพบแพทย์ทันที 

สำหรับสถานการณ์โลก ขณะนี้ประเทศไทยยังคงเดิมที่อันดับ 57 ส่วนสหรัฐ ยังเป็นอันดับที่ 1 ทั้งการพบผู้เสียชีวิตสูงสุดและพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในวันเดียว พบผู้ติดเชื้อถึง 35,858 ราย ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านสถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจทั้งญี่ปุ่น เกาหลี และสิงคโปร์ อินเดีย รวมถึงซาอุดีอาระเบีย ยังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่และผู้เสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า แม้เราเจอตัวเลขน้อย และต่อให้ตัวเลขของไทยเป็นศูนย์ แต่ก็ยังวางใจไม่ได้ ถ้าสถานการณ์โลกยังไม่เป็นศูนย์หรือประเทศเพื่อนบ้านสถานการณ์ยังรุนแรงอยู่ ประเทศเราก็มีโอกาสกลับมาติดเชื้อได้ใหม่ และสิ่งที่ทำมาทั้งหมดก็จะสูญเปล่า ดังนั้นต้องใช้ระยะเวลาในการควบคุมการแพร่ระบาด ตราบที่ยังไม่พบวัคซีนของการรักษา และในการควบคุมโรคสิ่งสำคัญคือ ควบคุมตนเอง จึงต้องปรับเปลี่ยนชุดพฤติกรรมที่จะต้องดูแลตัวเองไม่ให้เกิดการแพร่เชื้อ หรือรับเชื้อจากบุคคลอื่นอย่างต่อเนื่อง  ดังนั้นการ์ดอย่าตก ตกเมื่อไหร่สิ่งที่ทำมาทั้งหมดจะเป็นศูนย์ทันที 

“ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคมที่รัฐบาลประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ได้ขอความร่วมมือประชาชนควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทุกคนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เพราะเข้าใจสถานการณ์ วันนี้พิสูจน์แล้วว่า 1 เดือน ประชาชนให้ความร่วมมือกับรัฐบาลและบุคลากรทางการแพทย์ทุกหน่วยงานอย่างดีที่สุด ตอนนี้เป็นหน้าที่ของเราทุกคนที่ต้องประคองสถานการณ์แบบนี้ไปอีกเพื่อไม่ให้การ์ดตก ขอให้ใช้เวลานี้ปรับตัวไปเรื่อยๆ เพราะการปรับตัวของมนุษย์นี้ทำให้เผ่าพันธุ์เราอยู่รอดได้เป็นล้านๆ ปี และเชื่อว่าถ้าเราทำได้อย่างดีเราจะผ่านวิกฤติการณ์นี้ไปได้ด้วยกัน” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่าสำหรับผู้ที่ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ช่วงเวลาเคอร์ฟิว​ 22.00-04.00 ​น. ที่มีการมั่วสุมชุมนุมชุมนุมเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรคเป็นกลุ่มอายุ 11-40 ปี ที่มีผู้ชายมากกว่าผู้หญิงชัดเจน และสูงที่สุดคือ อายุ 21-30 ปี เป็นวัยที่ต้องติดต่อประสานงานพบปะพูดคุยกัน มีผู้ชาย 532 ราย เป็นผู้หญิง 178 ราย รวม 710 ราย จึงขอให้พยายามช่วยกันปรับตัว เพราะถือเป็นพาหะนำโรคติดผู้อื่นได้

ส่วนกลุ่มที่ถูกดำเนินคดีมั่วสุมกันพบว่ามีผู้หญิงเป็นผู้จำนวนมาก ที่เป็นลักษณะมั่วสุมเล่นการพนัน ถือเป็นคดีที่มีเยอะที่สุด จึงต้องขอให้ครอบครัวช่วยเตือน เพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อหรือแพร่เชื้อโควิด-19 ได้. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน”

ก.มหาดไทย 25 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน” ชี้รับฟังทุกความไม่พอใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี ให้ทหารมีอิสระในการทำงาน มอง “ก่อแก้ว” ขอศาล รธน. คืนอำนาจให้ “แพทองธาร” เป็นความเห็นเหมือนประชาชนจำนวนมาก แต่ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุถึง อยากให้กองทัพสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซนก่อน ว่า ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นนั้น หลายคนแสดงความเห็นให้ทำแบบนู้นแบบนี้ เราก็รับฟังความห่วงใยความไม่พอใจที่เราถูกกระทำ ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพราะเรื่องอธิปไตยของประเทศ การรุกล้ำเข้ามา กระทบประชาชนเรายอมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายจะเห็นว่าเราประนีประนอม (Compromise) ให้มากที่สุด แต่เมื่อสิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และเป็นปัญหา วันนี้จึงได้สั่งการให้ทหารมีอิสระในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้คุมยุทธการ ปฏิบัติได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้มีการทำความเข้าใจกับ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการโทรคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“มาริษ” แจงย้ำเวทีโลกกัมพูชาเปิดฉากโจมตีก่อน UNSC แนะเจรจาสันติวิธี

กระทรวงการต่างประเทศ 26 ก.ค.- “มาริษ” เผยเวที UNSC ให้ไทยกัมพูชายับยั้งชั่งใจ เจรจา 2 ฝ่ายสันติวิธียุติขัดแย้ง ย้ำแจงเวทีโลกแล้วกัมพูชาละเมิดอธิปไตยไทย-เปิดฉากโจมตีก่อน บอกสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ไม่ได้เป็นการคุกคามสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ สั่งกรมสนธิฯ พิจารณายื่นศาลอาญาโลกฟ้องเขมรฐานอาชญากรสงคราม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลงผลการเดินทางเยือนสหรัฐอเมริกา เพื่อนำคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมเวทีหารือทางการเมืองระดับสูงว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน ประจำปี ค.ศ. 2025 (High-Level Political Forum on Sustainable Development 2025) หรือ HLPF2025 ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์กว่า ในห้วงการประชุมดังกล่าว ตนเองได้ใช้โอกาสนี้ พบหารือกับผู้แทนระดับสูงจากสหประชาชาติ และผู้แทนระดับสูงประเทศต่าง ๆ เพื่อชี้แจงพัฒนาการชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งตนเองได้ยืนยันให้ทุกประเทศ และผู้แทนระดับสูงของสหประชาชาติได้รับทราบมาโดยตลอดการปฏิบัติภารกิจว่า การปะทะกันเมื่อช่วงเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม ฝ่ายกัมพูชา เป็นผู้เริ่มโจมตีก่อน พร้อมแสดงความกังวล ต่อการโจมตีในสถานที่ที่ไม่ใช่เป้าหมายทางทหาร เช่น โรงพยาบาล ปั๊มน้ำมัน และร้านสะดวกซื้อ ซึ่งสะท้อนการโจมตีพื้นที่พลเรือนไทย […]

องคมนตรีมอบสิ่งของพระราชทาน ศูนย์อพยพ จ.ศรีสะเกษ

ศรีสะเกษ 26 ก.ค.- สถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดนศรีสะเกษ ดุเดือดกว่าทุกวัน ขณะองคมนตรีมอบสิ่งของพระราชทานแก่ประชาชนที่ศูนย์อพยพ นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรีเดินทางมายังที่พักอาศัยของผู้อพยพ จ.ศรีสะเกษ มอบสิ่งของพระราชทานให้กับประชาชน พร้อมแจ้งให้ทราบถึงกระแสความห่วงใย หลังทราบข่าวประชาชนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ทรงมีความห่วงใยประชาชนและไม่ประสงค์ที่จะเห็นมีการบาดเจ็บล้มตายเพิ่มอีก อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สถานการณ์ยังไม่เรียบร้อย ขอให้ประชาชนอยู่ในพื้นที่อพยพไปอีกสักระยะ ขณะเดียวกัน พยาบาลจากคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเฉลิมกาญจนา ให้บริการตรวจดูแลสุขภาพเบื้องต้นและปฏิบัติการทางจิตรฉรีญาพร้อมมอบสิ่งของให้กับผู้อพยพหลังต้องจากบ้านมาวันนี้เป็นวันที่ 3 แล้ว ซึ่งตามหลักบางรายอาจเกิดความเครียดสะสมขึ้นได้ ปกติแล้วบริเวณศูนย์อพยพแห่งนี้ซึ่งห่างจากชายแดนประมาณ 40 กิโลเมตร จะไม่ได้ยินเสียงปืนใหญ่ แต่วันนี้แม้จะอยู่ที่ศูนย์อพยพก็สามารถได้ยินเสียงปืนใหญ่ดังขึ้น ไม่น้อยกว่า 9 นัดแล้วในขณะนี้ -สำนักข่าวไทย

เชิญธงชาติไทยขึ้นสู่ยอด “ภูมะเขือ” กองทัพยึดคืนพื้นที่เบ็ดเสร็จ

26 ก.ค.- ธงชาติไทยโบกสะบัด! ปักยอด “ภูมะเขือ” หลังทหารไทยเปิดปฏิบัติการเข้าตียึดพื้นที่คืนจากฝ่ายกัมพูชาสำเร็จช่วงเย็นวานนี้ กองทัพบกได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 ว่า เมื่อเวลา 09.20 น. ได้มีการเชิญธงชาติไทยขึ้นสู่ยอดภูมะเขือ หลังจากที่ทหารไทยได้เปิดปฏิบัติการเข้าตียึดพื้นที่ภูมะเขือ ซึ่งเป็นบริเวณที่ฝ่ายทหารกัมพูชาได้วางกำลังไว้อย่างหนาแน่น และสามารถยึดพื้นที่ได้สำเร็จเมื่อช่วงเย็นของเมื่อวานนี้ อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความพยายามจากฝ่ายกัมพูชาในการเข้าตีเพื่อแย่งยึดพื้นที่คืนอย่างต่อเนื่อง โดยได้มีการระดมยิงปืนใหญ่และเตรียมการจัดกำลังเข้าตีตอบโต้ฝ่ายไทย -สำนักข่าวไทย

นาวิกโยธินคุมพื้นที่ได้ทั้งหมด ตอบโต้ทหารกัมพูชาหนีกระเจิง

26 ก.ค.- เหตุปะทะชายแดนตราด ทหารนาวิกโยธิน ตอบโต้ทหารกัมพูชาหนีกระเจิง ถอยร่นออกจากพื้นที่อธิปไตยไทย ส่วนประชาชนอพยพไปที่ปลอดภัย เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 26 ก.ค.69 รายงานข่าวจากหน่วยความมั่นคงจังหวัดตราด เปิดเผยว่าถึงสถานการณ์ บริเวณบ้านชำราก จ.ตราด ทหารกัมพูชา ได้วางกำลังรุกล้ำเขตแดนไทย 3 จุดเปิดฉากยิงทหารไทย เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา โดยกำลังทหารนาวิกโยธิน ได้เปิดยุทธการ “ตราดพิฆาตไพรี1” จนสามารถควบคุมพื้นที่ได้ทั้งหมด ผลักดันกำลังทหารกัมพูชา ออกนอกพื้นที่ ไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ส่วนประชาชนพื้นที่ อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด ได้อพยพไปพื้นที่ปลอดภัย ในอำเภอเมืองตราด ประมาณ 75 เปอร์เซนต์เมื่อวันที่ 24-25 ก.ค.68 -สำนักข่าวไทย