ยอดจับหน้ากากอนามัย-เจลแอลกอฮอล์พุ่งเกือบ 400 ราย

นนทบุรี 24 เม.ย. – พาณิชย์เผยสถิติผู้กระทำความผิด ขายหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ และแอลกอฮอล์แพงเกินจริง สูงถึง 394 ราย จับเพิ่ม 12 ราย



นายสุพพัต  อ่องแสงคุณ โฆษกกระทรวงพาณิชย์และศูนย์ปฏิบัติการด้านการควบคุมสินค้า (ศปส) ฝ่ายสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า วันที่ 23 เมษายน กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจับกุมผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 กรณีหน้ากากอนามัย เจลล้างมือและแอลกอฮอล์ เพิ่ม 12 ราย แบ่งเป็น กรุงเทพฯ 2 ราย โดยเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบคลังสินค้า 1 ราย พบของกลางเป็นหน้ากากอนามัยแบบธรรมดา แบบN95 เจลแอลกอฮอล์ สเปรย์แอลกอฮอล์ล้างมือ กล่องบรรจุภัณฑ์ และสลากสินค้าหลายยี่ห้อ เป็นสินค้านำเข้าจากประเทศจีน มีปริมาณ 2 คันรถคอนเทรนเนอร์ กระทำความผิดข้อหาเป็นผู้ผลิตไม่แจ้งต้นทุน และไม่แจ้งชื่อ ราคาซื้อ ราคาจำหน่าย ปริมาณการผลิต ปริมาณคงเหลือรายวัน ต่อ กกร. ตามมาตรา 25 (5) และมาตรา 26 อีก 1 ราย เจ้าหน้าที่ทำการล่อซื้อและจับกุมผู้ค้าจำหน่ายหน้ากากอนามัยผ่านทางเฟซบุ๊ก พบจำหน่ายหน้ากากอนามัยแบบธรรมดา บรรจุกล่องละ 50 ชิ้น ในราคากล่อง 450 บาท (เฉลี่ยชิ้นละ 9 บาท) รวม 1,000 ชิ้น จึงแจ้งข้อหากระทำความผิดจำหน่ายหน้ากากอนามัยในราคาสูงเกินสมควร ตามมาตรา 29


ส่วนต่างจังหวัด 10 ราย แบ่งเป็นกระทำความผิดตามมาตรา 28 ข้อหาจำหน่ายหน้ากากอนามัยโดยไม่ปิดป้ายแสดง ราคาขาย เป็นร้านค้าทั่วไป จำนวน 4 ราย ได้แก่ จังหวัดเพชรบูรณ์ 3 ราย พบของกลางเป็นหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ จำนวน 21 กล่อง รวม 1,050 ชิ้น และ จังหวัดอุดรธานี 1 ราย กระทำความผิดตามมาตรา 25  ข้อหาจำหน่ายหน้ากากอนามัยสูงเกินราคาที่กำหนด  โดยการล่อซื้อและจับกุมผู้จำหน่ายหน้ากากอนามัยนำเข้าผ่านทางเฟซบุ๊ก 1 ราย ในจังหวัดอุดรธานี กระทำความผิดตามมาตรา 25 และมาตรา 29 ข้อหาจำหน่ายหน้ากากอนามัยเกินราคาควบคุมและจำหน่ายในราคาสูงเกินสมควร ในจังหวัดมหาสารคาม 3 ราย เป็นร้านค้าทั่วไปพบจำหน่ายหน้ากากอนามัยแบบธรรมดา ขายปลีกในราคาเฉลี่ยชิ้นละ 12 – 18 บาท จำนวนรวม 5,711 ชิ้น กระทำความผิดตามมาตรา 29 ข้อหาจำหน่ายหน้ากากอนามัยสูงเกินสมควร 


โดยการล่อซื้อและจับกุมร้านค้าจำหน่ายหน้ากากอนามัยผ่านทางเฟซบุ๊ก  2 ราย ได้แก่ จังหวัดกาญจนบุรี 1 รายพบจำหน่ายหน้ากากอนามัย แบบขายปลีกในราคาชิ้นละ 18 บาท จำนวน 10 ชิ้น และแบบบรรจุกล่องละ    50 ชิ้น ในราคากล่อง 800 บาท (เฉลี่ยชิ้นละ16 บาท) นอกจากนี้ยังทำการล่อซื้อและจับกุมร้านจำหน่ายหน้ากากอนามัยผ่านทางเฟซบุ๊ก ในจังหวัดนครพนม 1 ราย พบจำหน่ายหน้ากากอนามัยนำเข้าจากประเทศเวียดนามบรรจุกล่อง 50 ชิ้น ในราคากล่องละ 680 บาท (เฉลี่ยชิ้นละ 13.60 บาท) ทำให้สถิติการจับกุมผู้กระทำความผิดกรณีหน้ากากอนามัย เจลล้างมือและแอลกอฮอล์ มียอดรวมสูงขึ้นถึง  394 ราย แยกเป็นกรุงเทพฯ 174 ราย และต่างจังหวัด 220 ราย โดยโทษที่ผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ข้อหาขายเกินราคาควบคุม มาตรา 25 (1) มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ข้อหาไม่แจ้งต้นทุนราคาซื้อ ราคาจำหน่าย ปริมาณการผลิต ปริมาณคงเหลือ ตามมาตรา 25 (5) มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือ    ปรับ ไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับไม่เกินวันละ 2,000 บาท ตลอดเวลาที่ฝ่าฝืนหรือ     จนกว่าจะแจ้ง  มาตรา 26 ข้อหาเป็นผู้ผลิตไม่แจ้งชื่อ ราคาซื้อ ราคาจำหน่าย มาตรา 28 ข้อหาไม่ปิดป้ายแสดงราคาขาย มีอัตราโทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท และมาตรา 29 ข้อหาขายแพงเกินสมควรมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง