“พาณิชย์” พบผู้กระทำผิดจำหน่ายหน้ากากอนามัยออนไลน์แพงเพิ่ม

กรุงเทพฯ 6 เม.ย.-รองโฆษกกระทรวงพาณิชย์ สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดจำหน่ายหน้ากากอนามัยและเจลแอลกอฮอล์แพงเกินจริง
ทั้งขายผ่านออนไลน์และร้านค้าทั่วไป เพิ่มอีก
5  ส่วนไข่ไก่ไม่พบการกระทำความผิดเพิ่ม
รวมยอดทั้งประเทศยังคงอยู่ที่
26 ราย


นางลลิดา จิวะนันทประวัติ
รองโฆษกกระทรวงพาณิชย์
เปิดเผยถึงผลการปฏิบัติการกรณีสินค้าอุปโภคบริโภคและเวชภัณฑ์ของกระทรวงพาณิชย์ว่า
เมื่อวันที่
5 เม.ย. 2563
ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.
2542
สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดกรณีหน้ากากอนามัยและเจลแอลกอฮอล์ ได้เพิ่ม อีก
5
ราย แบ่งเป็นกรุงเทพฯ
2 ราย โดยเป็นการจับกุมผู้จำหน่ายสินค้าทางแอปพลิเคชั่นไลน์
1 ราย ในเขตสายไหม จำหน่ายหน้ากากอนามัย กล่องละ
50 ชิ้น ราคากล่องละ 750
บาท (เฉลี่ยชิ้นละ
15 บาท)แจ้งข้อหาขายแพงเกินราคาสมควร และอีก 1
ราย เป็นสถานที่ผลิตเจลแอลกอฮอล์ในเขตแจ้งวัฒนะ ข้อหากระทำความผิดตาม มาตรา
25
(5) ไม่แจ้งราคาต้นทุนการผลิต


ส่วนในต่างจังหวัดจับกุมได้เพิ่ม 3
ราย โดยพบผู้กระทำความผิดจำหน่ายหน้ากากอนามัยแพงเกินราคาสมควร (มาตรา
29) จำนวน
2 ราย จังหวัดนครราชสีมา 1
ราย โดยทำการล่อซื้อจับกุมผู้จำหน่ายหน้ากากอนามัยผ่านทางเฟซบุ๊ก
จำหน่ายในราคากล่องละ
730 บาท (เฉลี่ยชิ้นละ14.60 บาท)
รวม
5,000 ชิ้น และที่จังหวัดปราจีนบุรี 1
ราย นอกจากนี้ยังได้เข้าตรวจค้นหน้ากากอนามัยและจับกุมชาวจีน ในจังหวัดชลบุรี  อีก
1
ราย ในข้อหาไม่แจ้งปริมาณและปฏิเสธการจำหน่ายสินค้าควบคุม มาตรา
25 (5) และมาตรา
30
ทำให้สถิติการจับกุมผู้กระทำความผิดกรณีหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์และแอลกอฮอล์
เพิ่มขึ้นเป็น
265 ราย แยกเป็นกรุงเทพฯ 131
ราย และต่างจังหวัด
134 ราย

ทั้งนี้
โทษที่ผู้กระทำความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.
2542
ข้อหาขายเกินราคาควบคุม มาตรา
25 (1) มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี
ปรับไม่เกิน
1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ข้อหาไม่ปิดป้ายแสดงราคาขาย มาตรา
28 มีอัตราโทษปรับไม่เกิน 1
หมื่นบาท ข้อหาขายแพงเกินสมควร (มาตรา
29) มีอัตราโทษจำคุก ไม่เกิน 7 ปี
ปรับไม่เกิน
1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


นางลลิดา กล่าวว่า
สำหรับการจับกุมผู้กระทำความผิดจำหน่ายไข่ไก่เกินราคาทั่วประเทศ ณ วันที่  
5 เม.ย. 2563
ไม่พบผู้กระทำความผิดเพิ่ม 
ยอดรวมทั่วประเทศอยู่ที่
26 ราย อย่างไรก็ตาม จากการติดตาม
พบว่าสถานการณ์ไข่ไก่ดีขึ้นเรื่อยๆ และกำลังเข้าสู่ภาวะปกติ
ซึ่งขณะนี้การผลิตและการกระจายผลผลิตไข่ไก่  
ดีขึ้น โดยการขอความร่วมมือห้างค้าปลีกค้าส่ง
ให้จำกัดการจำหน่ายไม่เกินคนละ
1-2 แผง เพื่อให้กระจายได้ทั่วถึง
รวมถึงมาตรการที่กระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการ ทั้งการห้ามส่งออกไข่ไก่เป็นระยะเวลา
30
วัน  การกำหนดราคาหน้าฟาร์มไม่ควรเกินฟองละ
2.80
บาท การร่วมมือกับกรมปศุสัตว์ในการชะลอการปลดแม่ไก่ยืนกรงออกไป
รวมถึงการออกมาตรการให้ผู้ครอบครองไข่ไก่ตั้งแต่
1
แสนฟองต่อวัน ต้องแจ้งปริมาณการผลิต การรับซื้อ การจำหน่ายและสต๊อก
รวมทั้งสถานที่เก็บ ให้กับกระทรวงพาณิชย์ทราบทุกวันตั้งแต่วันที่
7
เม.ย.
2563 เป็นต้นไป

หากประชาชนพบเห็นการกักตุนสินค้าหรือค้ากำไรเกินควร
ขอให้ร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน
1569
และในต่างจังหวัดร้องเรียนได้ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัด หรือศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด
จะมีการเข้าไปตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กระทำความผิดทันที
นางลลิดา กล่าว.-สำนักข่าวไทย

 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบนายกฯ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบ “แพทองธาร” นายกฯ ชื่นชมเป็นคนเก่ง-มองโลกบวก เป็นหน้าตาของประเทศ นำเสนอวัฒนธรรม-ซอฟต์พาวเวอร์ ผ่านการประกวด พร้อมชวนร่วมงานรัฐบาล สร้างแรงบันดาลใจเด็กๆ ขณะที่ นายกฯ เขินถูกชมว่าตัวจริงสวย

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่