คนยากไร้ที่ยังเข้าไม่ถึงการเยียวยาโควิด-19

สำนักข่าวไทย 23 เม.ย. 63 – “บิณฑ์” ตั้งใจสละเงินส่วนตัว 5 ล้านตระเวนมอบชุมชนยากไร้ลำบากขั้นสาหัส-ตกงานฉับพลัน ช่วงการระบาดโควิด-19 พบกว่า 90% เข้าไม่ถึงเงินเยียวยา 5,000 บาท ปลื้มยอดสมทบทุนทะลุ 10 ล้านบาทมากกว่ายอดที่ตั้งใจ ด้านผู้ว่างงานถึง 91% โอดอยู่ได้ไม่เกิน 3 เดือน หนี้สินและค่าใช้จ่ายรออยู่

เฟซบุ๊กแฟนเพจ “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” ที่มีคนติดตามกว่า 8.2 ล้านคน  ตลอดเดือนเมษายนนี้ มีคนเข้าชมคลิปภารกิจประจำวันของเขาที่มียอดการดูหลักหลายหมื่นจนถึงหลักแสน ทั้งชมสดและย้อนหลัง พร้อมแสดงความคิดเห็นมากมาย หลายคนได้ “คอมเมนต์” ให้ฉายาแก่ บิณฑ์ ว่า “เทวดาเดินดิน” “พ่อพระของคนจน” “คนดีของคนยากไร้” ในระหว่างการเห็นภาพ บิณฑ์ และคู่แฝดของเขา เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ เดิน หรือ มุด เข้าไปตามตรอกซอกซอย ในชุมชนต่างๆ ของกรุงเทพฯ  เพื่อไปมอบเงินช่วยเหลือ


“บิณฑ์” เล่าผ่านเฟซบุ๊กของเขา ถึงที่มาของการใช้เงินส่วนตัวไปแจกให้คนยากไร้ตามชุมชนต่างๆ ใน กทม.ว่า  มีจุดเริ่มเมื่อราวต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ได้เห็นคนแก่ ผู้หญิงและเด็กตามแยกไฟแดง ไม่ได้ขายพวงมาลัยเหมือนเดิม แต่กลับมาเคาะกระจกรถเพื่อขอเงิน จากนั้นวันที่ 4 เมษายน เขาได้ไปลงพื้นที่ชุมชนโรงหมู ย่านคลองเตย พบคนจำนวนมากที่เดือดร้อนไม่มีงานทำ เนื่องจากการปิดสถานที่ต่างๆ จึงนำเงินส่วนตัวที่ได้จากการเป็นพรีเซนเตอร์สินค้าต่างๆ ประมาณ 5 ล้านบาทไปแจกครอบครัวละ 2,000 บาทกับ 500 บาทได้ประมาณ 300 ครอบครัว  และตั้งใจจะไปแจกตามชุมชนอื่นๆ ต่อไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายน 

ที่ต้องลงไปให้เงินตามบ้านนั้น เนื่องจากเห็นปัญหาของคนกลุ่มที่ไม่สามารถออกไปจากบ้านได้เพราะเป็นคนแก่หรือมีเด็กเล็ก ทำให้คนส่วนนี้ไม่ได้รับความช่วยเหลือใดๆ เลย ส่วนพื้นที่จะเน้นชุมชนมีความเป็นอยู่ลำบากยากจนชนิดสาหัส หรือยังไม่ได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆ  คนที่ไม่มีทะเบียนราษฎร แรงงานต่างด้าวกลับบ้านไม่ได้ ต่อมามีผู้สมทบทุนบริจาคถุงยังชีพ หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ และเงินเข้ามาจน ทะลุยอดที่ตั้งใจไว้ 10 ล้านบาทแล้ว
อัญวุฒิ  โพธิ์อำไพ หนึ่งในทีมงานของมูลนิธิร่วมกตัญญูที่ลงพื้นที่ร่วมกับบิณฑ์ มาเป็นเวลา 2 สัปดาห์แล้ว เล่าว่าข้อมูลพื้นที่ชุมชนต่างๆ ที่ทีมงานเข้าไปช่วยเหลือแบบเคาะประตูบ้าน มาจากการประสานติดต่อจากประธานชุมชนนั้นๆ ซึ่งบิณฑ์จะเน้นคนที่อยู่แบบลำบากมากๆ แบบเพิงพัก สิ่งที่พบคือ กว่าร้อยละ 90 เป็นคนที่ไม่ได้รับการเยียวยาจำนวน 5,000 บาทของรัฐบาล โดยมีทั้งอาชีพขับรถจยย.ส่งเอกสาร ลูกจ้างรายวัน ที่ตกงานหลังจากมีการประกาศปิดสถานที่ประกอบการต่างๆ มาตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
ภาพสถานที่ที่ปรากฏในคลิปรายวัน ที่ทีมงานของมูลนิธิร่วมกตัญญูถ่ายทำ ระหว่างการลงพื้นที่ของบิณฑ์ และเอกพันธ์  แทบไม่เชื่อสายตาว่าจะเป็นที่อยู่อาศัยของคนทั่วไปได้ บางแห่งเป็นมุมอับใต้สะพาน ซอยคับแคบชนิดต้องตะแคงตัวเดินได้ทีละคน หลายครอบครัวมีคนแก่ คนป่วยนอนติดพื้น และจำนวนไม่น้อยเป็นครอบครัวที่มีเด็กเล็ก  คนเหล่านี้ในแต่ละชุมชนมีจำนวนหลายร้อยหลังคาเรือน นับเป็นคนเรือนพัน  ก่อนมีการแพร่ระบาดของโควิด 19 พวกเขายังพอดิ้นรนยังชีพด้วยการทำงานต่างๆ แต่จากคำสั่งของรัฐบาลที่ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ มีผลตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม – 30 เมษายน ทำให้พวกเขาต้องกลายเป็นคนตกงานแบบฉับพลัน  แม้ภาครัฐได้เปิดการลงทะเบียนออนไลน์รับเงินช่วยเหลือเดือนละ 5,000 บาท  แต่ด้วยสภาพอัตคัดขัดสนไม่สามารถเข้าถึงระบบดังกล่าว  ทำให้คนเกือบทั้งหมดตกหล่นจากระบบการเยียวยาของรัฐไปอย่างน่าเศร้า  ดังนั้นเงินช่วยเหลือครอบครัวละ 500 บาท หรือมากกว่าคือ 1,000 บาท หากมีสมาชิกในครอบครัวจำนวนมากหรือมีคนป่วย เป็นเด็กได้อีกคนละ 100 บาท ที่พวกเขาได้รับมอบให้ถึงมือจากบิณฑ์  จึงมีความหมายอย่างยิ่งต่อการบรรเทาความทุกข์  อย่างน้อยก็เพียงพอสำหรับการซื้อข้าวสาร อาหารประทังชีวิตไปได้หลายวัน
จากข้อมูลการสำรวจของสภาพัฒน์หรือสำนักงานพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับมาตรการบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจ ปัญหาและความต้องการของภาคธุรกิจ รวมทั้งพนักงาน ลูกจ้าง แรงงาน ระหว่างวันที่ 9-14 เมษายน 63 จากกลุ่มเป้าหมายเกือบ 9,000 คนทั่วประเทศระบุว่า คนส่วนใหญ่ถึง ร้อยละ 88 ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือ มีเพียงร้อยละ 12 ที่ยืนยันว่าได้รับความช่วยเหลือของภาครัฐ  ส่วนผู้ว่างงานถึงร้อยละ 91 บอกว่ามีแนวโน้มจะอยู่ได้ไม่เกิน 3 เดือน เนื่องจากมีภาระหนี้สินและค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
คำถามคือผู้คนที่ตกหล่นจากระบบความช่วยเหลือเหล่านี้จะมีเรี่ยวแรงเหลือพอที่จะรอคอยวันที่ประเทศผ่านวิกฤตโควิด 19 ได้นานเพียงใด
เรียบเรียง : อรวรรณ  กริ่มวิรัตน์กุล  สำนักข่าวไทย

ขอบคุณภาพจาก เฟซบุ๊ก “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” และ เฟซบุ๊ก “NAKON45 อัญวุฒิ โพธิ์อำไพ “




ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“มาริษ” เผยสวีเดนกังวลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ยกหารือเวที UN พรุ่งนี้

สวีเดน 26 ส.ค.-“มาริษ” เผยสวีเดนกังวลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา หลังกัมพูชาใช้โล่มนุษย์ยั่วยุในพื้นที่ต่อเนื่อง เตรียมยกเรื่องนี้หารือเวที UN ที่เจนีวา พรุ่งนี้ ยันยังไม่ส่งทูตกลับ จนกว่าเขมรแสดงให้เห็นว่าจริงใจ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวภายหลังการหารือทวิภาคีกับนางมารีอา มัลเมอร์ สเตเนอร์การ์ด (Maria Malmer Stenergard) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสวีเดน ถึงสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ที่มีการยั่วยุโดยใช้พลเรือนเป็นเครื่องมืออย่างต่อเนื่อง ว่า เรื่องนี้เป็นประเด็นที่หน่วยงานในพื้นที่ต้องช่วยกันระมัดระวังไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน เพราะเมื่อมีพลเรือนเข้ามาเกี่ยวข้อง ในการทำงานของทางทหารก็จะยากลำบาก อาจจะนำไปสู่การสร้างความตึงเครียดมากยิ่งขึ้น ดังนั้นหน่วยงานที่เป็นพลเรือนในพื้นที่ก็จำเป็นจะต้องเข้ามาดูแลและแก้ไขสถานการณ์ตรงนี้ นายมาริษ กล่าวว่า ในการพบหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสวีเดน ตนได้อธิบายให้เข้าใจว่า เรื่องนี้เป็นสิ่งที่กัมพูชาพยายามใช้ ซึ่งขัดต่อความตกลงในกฎบัตรสหประชาชาติเป็นอย่างมาก เหมือนกับใช้ประชาชนและพลเรือนเป็นโล่มนุษย์ เพื่อที่จะทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก ถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง ซึ่งประเทศสวีเดนก็เข้าใจ และพรุ่งนี้ (27 ส.ค.) ตนจะมีโอกาสได้ชี้แจงกับที่ประชุม UN ที่นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ตนจะยกประเด็นนี้ขึ้นแสดงความห่วงกังวลว่า การใช้วิธีเอาพลเรือนมาเป็นตัวกดดัน หรือมาสร้างความตึงเครียด หรือขยายความตึงเครียดบริเวณชายแดนมากยิ่งขึ้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ […]

พายุคาจิกิเริ่มแผลงฤทธิ์ถล่มหลายจังหวัดภาคเหนือ น่านยกระดับรับมือ

26 ส.ค. – พายุคาจิกิเริ่มแผลงฤทธิ์แล้ว หลายจังหวัดทางภาคเหนือมีฝนตกกระหน่ำลงมาอย่างหนัก จนมีน้ำท่วมหลายพื้นที่ และต้องจับตาไปที่จังหวัดน่าน ซึ่งพายุคาจิกิเคลื่อนตัวเข้าสู่พื้นที่และเริ่มส่งผลกระทบตั้งแต่ช่วงค่ำวันนี้ ทำให้จังหวัดน่านยกรระดับมาตรการป้องกันและเตรียมรับมือกับน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม.-สำนักข่าวไทย

Gripen ที่จัดซื้อใหม่ประสิทธิภาพดีกว่าลำเดิมที่มีอยู่

สวีเดน 26 ส.ค. – แม้รัฐบาลไทยและสวีเดนได้ลงนามความร่วมมือซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตีกริพเพน E และ F ไปแล้ว แต่กว่าจะได้รับเครื่อง จะต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 4 ปี ระหว่างนี้จะมีการวางกรอบพัฒนาร่วมกัน แน่นอนว่ารุ่นใหม่สเปกใหม่ดีกว่ารุ่นเก่าที่เรามี แตกต่างอย่างไร ติดตามจากรายงาน.-สำนักข่าวไทย

คนไทยรวมพลังร้องเพลงชาติกึกก้องบ้านหนองจาน

26 ส.ค. – ชาวไทยกว่า 500 คน รวมตัวร้องเพลงชาติ ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ บริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว แสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (26 ส.ค.68) ประชาชนไทยกว่า 500 คน มารวมตัวกันบริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ และร่วมกันร้องเพลงชาติไทย จนเสียงดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เพื่อแสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย และพร้อมยืนหยัดเคียงข้างกองทัพในการปกป้องอธิปไตย ชาวบ้านยังจัดเตรียมอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของจำเป็น ไปมอบให้ทหาร เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ ด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เข้าควบคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และขอความร่วมมือประชาชนที่มาร่วมชุมนุมให้อยู่ในแนวพื้นที่ที่กำหนดไว้เพื่อป้องกันการเผชิญหน้า “เจ๊เอ๋” ณัฐฐารินทร์ เกษมสารพิพัฒน์ เจ้าหนี้คนดัง บอกว่า วันนี้ประชาชนคนไทยต้องมาเผชิญหน้ากับชาวกัมพูชาด้วยตัวเอง เพราะผู้มีหน้าที่โดยตรงนิ่งเฉย ส่วนที่บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย และพลโทวันชนะ สวัสดี นำคณะลงพื้นที่ พบมีชาวกัมพูชาสร้างบ้านเรือนรุกล้ำเขตไทย 18 หลัง […]