ทำเนียบรัฐบาล 19 เม.ย.-โฆษกศบค.แถลงผู้ป่วยโควิดใหม่ 32 ไม่มีเสียชีวิตเพิ่ม ภูเก็ตยังติดอันดับ 1 ป่วยเยอะสุด ยันรัฐส่งของจำเป็นให้บุคลากรทางการแพทย์เต็มที่ทั้ง N95 ชุด PPE
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์โควิด-19 ว่า วันนี้ (19 เม.ย.) มีรายงานผู้ป่วยใหม่ 32 ราย รวมผู้ป่วยสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 2,765 ราย รักษาหาย 1,928 ราย รักษาตัวอยู่ 790 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม จึงทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตคงเดิมรวม 47 ราย
“จากจำนวนตัวเลขผู้ป่วยใหม่ 32 ราย พบว่ามาจากการสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ 18 ราย ไปสถานที่ชุมนุมชน 2 ราย อาชีพเสี่ยง 3 ราย ไม่มีบุคลากรทางการแพทย์ อยู่ระหว่างสอบสวนโรค 5 ราย และเป็นผู้ป่วยที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 4 ราย ได้แก่จากอินโดนีเซีย 1 ราย สหรัฐฯ 1 รายและอังกฤษ 2 ราย” โฆษกศบค. กล่าว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ส่วนผู้ป่วยสะสม 2,765 ราย พบใน 5 จังหวัดที่สูงที่สุดได้แก่ กรุงเทพมหานคร 1,425 ราย ภูเก็ต 192 ราย นนทบุรี 150 ราย สมุทรปราการ 108 ราย ยะลา 99 ราย และเมื่อจำแนกอัตราป่วยต่อประชากรหนึ่งแสนคน พบว่า จังหวัดภูเก็ต มีผู้ป่วยมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 46.44 กรุงเทพมหานคร ร้อยละ 25.13 ยะลา ร้อยละ 18.53 ปัตตานี ร้อยละ 12.47 และนนทบุรี ร้อยละ 11.94 และขณะที่ 9 จังหวัด ยังไม่มีรายงานการรักษาผู้ป่วย ได้แก่ กำแพงเพชร ชัยนาท ตราด น่าน บึงกาฬ พิจิตร ระนอง สิงห์บุรี และอ่างทอง
“33 จังหวัดที่ไม่มีรายงานผู้ป่วยใหม่ ในช่วง 14 วันที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 5-18 เมษายน ได้แก่ เชียงราย เพชรบุรี เพชรบูรณ์ แพร่ แม่ฮ่องสอน กาญจนบุรี จันทบุรี นครนายก บุรีรัมย์ มหาสารคาม มุกดาหาร ยโสธร ร้อยเอ็ด ราชบุรี ลพบุรี ลำพูน ศรีสะเกษ สมุทรสงคราม สระบุรี สุโขทัย หนองบัวลำภู อำนาจเจริญ อุดรธานี อุตรดิตถ์ อุทัยธานี หนองคาย กาฬสินธุ์ ระยอง ตาก ประจวบคีรีขันธ์ อยุธยา สกลนครและสุรินทร์” โฆษกศบค. กล่าว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ผู้ป่วยที่พบมากที่สุดอยู่ในช่วงอายุ 20-39 ปี โดยช่วงมกราคม-18 เมษายน พบ 1,334 ราย คิดเป็นร้อยละ 49 ของผู้ป่วยทั้งหมด โดย 3 อันดับแรก ได้แก่ที่กรุงเทพมหานคร 732 ราย ภูเก็ต 108 ราย นนทบุรี 68 ราย มาจากกลุ่มอาชีพเสี่ยง ร้อยละ 19 รับจ้างทั่วไป ร้อยละ 18 พนักงานบริษัทและโรงงาน ร้อยละ 14 ปัจจัยเสี่ยงที่พบช่วงมกราคม-14 มีนาคม มาจากต่างประเทศ ร้อยละ 36 เกี่ยวข้องกับสถานบันเทิง ร้อยละ 20 อาชีพเสี่ยง ร้อยละ 16 และสัมผัสกับผู้ป่วยรายก่อนหน้า ร้อยละ 16 และปัจจัยเสี่ยงช่วง 15 มีนาคม -18 เมษายน พบว่าสัมผัสกับผู้ป่วยก่อนหน้า ร้อยละ 36 เดินทางจากต่างประเทศ ร้อยละ 14 เกี่ยวข้องกับสถานบันเทิง ร้อยละ 11
“ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ระหว่างวันที่ 4-18 เมษายน พบผู้ป่วยกลุ่มอายุ 20-39 ปี จำนวน 351 ราย คิดเป็นร้อยละ 53 ของผู้ป่วยทั้งหมด โดยปัจจัยเสี่ยงมาจากสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้า ร้อยละ 42 คนไทยกลับจากต่างประเทศ ร้อยละ 17 อาชีพเสี่ยง ร้อยละ 14 โดยอาชีพเสี่ยงของผู้ป่วยในกรุงเทพมหานคร พบว่าส่วนใหญ่เป็นบุคลากรทางการแพทย์ ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ นักเรียน นักศึกษา ส่งนที่จังหวัดภูเก็ต ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็น พนักงานบริการ ส่วน นนทบุรี สมุทรปราการและชลบุรี เป็นกลุ่มพนักงานบริษัทและโรงงาน” โฆษกศบค. กล่าว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงการจัดส่งหน้ากากอนามัย N95 ว่า จัดส่งแล้วทั่วประเทศรวม 119,100 ชิ้น ส่วนชุดป้องกัน หรือ PPE SET จัดส่งแล้วทั่วประเทศ 8,640 ชุด และอยู่ระหว่างจัดส่ง 10,650 ชุด ยืนยันว่าทางภาครัฐพยายามจัดส่งของที่จำเป็นให้กับบุคลากรทางการแพทย์อย่างเต็มที่
“วันนี้จะมีเที่ยวบินคนไทยที่ตกค้างกลับมาจากเนเธอแลนด์ 27 คน บาห์เรน 74 คน โดยจะลงที่สนามบินสุวรรณภูมิ จากสหรัฐฯ 162 คน ลงที่สนามบินอู่ตะเภา ส่วนผู้ฝ่าฝืนการประกาศเคอร์ฟิว พบประชาชนออกนอกเคหสถาน 674 ราย รวมกลุ่มชุมนุมและมั่วสุมจำนวน 68 ราย จังหวัดที่ฝ่าฝืนกฎหมายมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ชลบุรี ปทุมธานี นนทบุรี นครราชสีมา.-สำนักข่าวไทย