“สุชาติ” เชื่อมั่น พ.ร.ก.กู้เงิน-ร่าง พ.ร.บ.โอนงบฯ เข้าสภาฯ สมัยสามัญ

กทม. 16 เม.ย. – “สุชาติ” เชื่อมั่น พ.ร.ก.กู้เงิน และร่าง พ.ร.บ.โอนงบฯ เข้าสภาฯ สมัยสามัญ แนะพรรคก้าวไกล ศึกษาขั้นตอนเสนอกฎหมายก่อนเสนอเปิดสมัยวิสามัญ


นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 กล่าวชม พรรคก้าวไกล กรณีที่เสนอให้เปิดสภาฯ สมัยวิสามัญ เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.โอนงบฯ เพื่อนำมาแก้ไขปัญหาวิกฤตแก้โควิด-19 เพราะถือเรื่องที่ดีที่ผู้แทนราษฎรมีความห่วงใยความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน และนำเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาผ่านสภาผู้แทนราษฎร ส่วนการขอเปิดประชุมสมัยวิสามัญนั้นไม่ใช่อำนาจของประธาน หรือรองประธานสภาฯ เป็นเรื่องของสมาชิกรัฐสภาที่ต้องเข้าชื่อกัน 1 ใน 3 ของจำนวนสมาชิกที่มีอยู่ของ 2 สภา หรือรัฐบาลเล็งเห็นว่ามีความจำเป็นตามรัฐธรรมนูญ อีกทั้งยังต้องศึกษากระบวนการเสนอร่าง พ.ร.บ.โดยละเอียด เนื่องจากในมาตรา 77 ของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันได้กำหนดไว้ว่า ก่อนการตรากฎหมาย ทุกฉบับ รัฐพึงจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของผู้เกี่ยวข้อง หรือทำประชาพิจารณ์เสียก่อน ซึ่งเท่าที่ติดตามขณะนี้กระบวนการของรัฐบาลยังไม่ถึงขั้นตอนดังกล่าว เพราะขณะนี้คณะรัฐมนตรีก็ยังไม่ได้มีมติอนุมัติ ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวออกมา และคาดว่าจะดำเนินกระบวนการต่างๆ แล้วเสร็จช่วงเดือน พ.ค.ซึ่งใกล้เคียงกับช่วงที่จะมีการเปิดประชุมสมัยสามัญในวันที่ 22 พ.ค.นี้ อยู่แล้ว


นายสุชาติ กล่าวต่อว่า เช่นเดียวกับการเสนอร่างพระกำหนด 3 ฉบับ ของรัฐบาล ในการแก้ไขผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 โดยเฉพาะร่าง พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการเยียวยาและดูแลเศรษฐกิจ วงเงินไม่เกิน 1 ล้านล้านบาท ที่ถือว่ามีความจำเป็นเร่งด่วน และอยู่ในอำนาจของรัฐบาล ซึ่งอยู่ระหว่าการดำเนินการ จากนั้นก็ต้องมาพิจารณาตามมาตรา 172 วรรค 3 ของรัฐธรรมนูญ 2560 ที่กำหนดว่า ในการประชุมรัฐสภาคราวต่อไป ให้ ครม.เสนอ พ.ร.ก.นั้นต่อรัฐสภาเพื่อพิจารณาโดยไม่ชักช้าถ้าอยู่นอกสมัยประชุมและการรอการเปิดสมัยประชุมสามัญ จะเป็นการชักช้า ครม.ต้องดำเนินการให้มีการเรียกประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญเพื่อพิจารณาอนุมัติหรือไม่อนุมัติ พ.ร.ก.โดยเร็ว ในส่วนตรงนี้คงต้องดูว่าภายหลัง พ.ร.ก.มีผลบังคับใช้แล้ว จะถือเป็นการชักช้าหรือไม่ หากจะนำไปพิจารณาในช่วงเปิดประชุมสมัยสามัญวันที่ 22 พ.ค.นี้

 

นายสุชาติ กล่าวยืนยันด้วยว่า หากมีความจำเป็นเร่งด่วนสภาฯ ก็มีความพร้อมจะสนับสนุนรัฐบาลในการเปิดสมัยประชุมวิสามัญ โดยขณะนี้ได้วางมาตรการรักษาความปลอดภัยจากการแพร่กระจายของไวรัสและคัดกรองบุคคลผู้ที่เดินทางเข้าออกอาคารรัฐสภา ทั้งในกรณีที่ไม่มีการประชุมหรือการประชุมคณะกรรมาธิการ ตลอดจนการประชุมสมัยวิสามัญ หรือสมัยสามัญช่วงเดือน พ.ค.ไว้แล้ว เพื่อให้การทำงานของสภาฯ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด หากสถานการณ์แพร่ระบาดยังไม่คลี่คลาย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย