กรมคุมประพฤติ เผยตัวเลข ฝ่าฝืนเคอร์ฟิวล่าสุด 619 คดี

ยธ. 16 เม.ย.- กรมคุมประพฤติ เผย ฝ่าฝืนเคอร์ฟิว ถูกจับคุมประพฤติแล้ว 619 คดี 


นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ เปิดเผยว่า จากการประกาศข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 2) ข้อ 1 ห้ามบุคคลใดทั่วราชอาณาจักรออกนอกเคหสถานหรือเคอร์ฟิว ระหว่างเวลา 22.00 นาฬิกา ถึง 04.00 นาฬิกาของวันรุ่งขึ้น เพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ซึ่งเริ่มมีผลบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2563 ว่า มีรายงานตัวเลขการจับกุมผู้ที่ฝ่าฝืนมาตรการเคอร์ฟิว นับตั้งแต่วันที่ 4-15 เมษายน 2563 ซึ่งมีคดีที่ศาลพิพากษาจำคุก โทษจำคุกให้รอการลงโทษ แบ่งเป็น คดีที่ศาลกำหนดเงื่อนไขให้คุมความประพฤติ จำนวน 341 คดี  คดีที่ศาลสั่งทำงานบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์แทนค่าปรับ จำนวน 278 คดี รวมทั้งสิ้น 619 คดี  ในส่วนของเงื่อนไขคุมความประพฤติ กรณีที่ศาลสั่งทำงานบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์ ส่วนใหญ่ศาลกำหนดให้ทำงานบริการสังคม 24 ชั่วโมง และบางรายกำหนดเงื่อนไขห้ามออกนอกบ้านเป็นเวลา 7 วัน หรือ 15 วัน ร่วมด้วย


ทั้งนี้ กรมคุมประพฤติได้กำหนดมาตรการเกี่ยวกับผู้ถูกคุมความประพฤติที่กระทำผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 โดยให้สำนักงานคุมประพฤติชี้แจงเงื่อนไขการคุมความประพฤติ และประเมินความเสี่ยงและสภาพปัญหาความต้องการ หากพบว่ามีปัญหา เช่น การติดสุรา ติดยาเสพติด ปัญหาทางจิต หรือมีพฤติกรรมต่อต้านสังคม จะต้องส่งบำบัดรักษาและให้คำปรึกษา และให้ครอบครัวหรือขอความร่วมมือฝ่ายปกครองเฝ้าระวังไม่ให้กระทำผิดในลักษณะเดียวกันอีก ในกรณีไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ศาลกำหนดให้พนักงานคุมประพฤติตรวจสอบถึงเหตุการณ์และให้รีบทำรายงานและความเห็นเสนอต่อศาล  ในกรณีผู้ถูกคุมความประพฤติเป็นกลุ่มเสี่ยงและต้องกักตัวหรือเข้ารับการบำบัดรักษา ให้พนักงานคุมประพฤติประสานสถานพยาบาลหรือโรงพยาบาลตามสิทธิการรักษาพยาบาลของผู้ถูกคุมความประพฤติ หรือแจ้งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ เพื่อให้ไปตรวจหาเชื้อไวรัสหรือรับการบำบัดรักษา 


กรณีที่ศาลสั่งให้ผู้ถูกคุมความประพฤติทำงานบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์ หรือทำงานบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์แทนค่าปรับ หรือศาลไม่มีคำสั่งแต่พนักงานคุมประพฤติพิจารณาแล้วเห็นว่าผู้ถูกคุมความประพฤติรายดังกล่าวควรทำงานบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์ ที่เป็นการสร้างจิตสำนึกในการรับผิดชอบต่อสังคมและตระหนักถึงความเสียสละและอุทิศตนในการปฏิบัติงานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและเจ้าหน้าที่อื่นๆ ในการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาด 

อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวอีกว่า กรมคุมประพฤติคำนึงถึงความปลอดภัยในการปฏิบัติงานของพนักงานคุมประพฤติและเจ้าหน้าที่ รวมถึงประชาชนที่มารับบริการทุกคน โดยขอให้ตรวจคัดกรองผู้มาติดต่อราชการตามแนวทางที่กรมคุมประพฤติกำหนด และในการให้บริการหรือสอบปากคำควรนั่งเว้นระยะห่างกันประมาณ 1 – 2 เมตร และให้ผู้ถูกคุมความประพฤติรวมทั้งพนักงานคุมประพฤติสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า และใช้เจลหรือแอลกอฮอล์ในการล้างมือ และให้สำนักงานคุมประพฤติทำความสะอาดสถานที่สม่ำเสมอเพื่อลดความเสี่ยงการแพร่เชื้อ และป้องกันตนเองจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ถังแก๊สระเบิด

ถังแก๊สระเบิดในโรงงานเหล็ก อ.บ้านค่าย จ.ระยอง เจ็บหลายราย

ถังแก๊สระเบิดในโรงงานเหล็กแห่งหนึ่ง อ.บ้านค่าย จ.ระยอง เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างควบคุมเพลิงไหม้ เบื้องต้นมีรายงานผู้บาดเจ็บหลายราย และมีผู้ติดค้างอยู่ในโรงงานจำนวนมาก ล่าสุดคุมเพลิงและช่วยผู้ติดค้างภายในออกมาแล้ว

ปูนบำเหน็จ 5 ชั้นยศ “หมู่อาร์ม” ถูกรถขนต่างด้าวชนดับ

สุดสะเทือนใจ นำร่าง “หมู่อาร์ม” ผบ.หมู่ สภ.เมืองกำแพงเพชร ถูกรถกระบะขนแรงงานต่างด้าวแหกด่านพุ่งชนเสียชีวิต กลับมาบำเพ็ญกุศล ขณะที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปูนบำเหน็จ 5 ชั้นยศ

“อัจฉริยะ” ยื่นรื้อคดี “แตงโม” เชื่อโดนฆาตกรรม

“อัจฉริยะ” ยื่นหนังสือถึงอธิบดีอัยการภาค 1 ขอให้รื้อคดีการเสียชีวิตของ “แตงโม ภัทรธิดา” เผยผลชันสูตรไม่ตรงกับข้อมูลที่ตำรวจแถลงข่าว

ข่าวแนะนำ

น้ำท่วมสุราษฎร์

น้ำท่วมสุราษฎร์ฯ ยังกระทบ หยุดเรียนต่ออีก 2 วัน

สุราษฎร์ธานี ระดับน้ำท่วมขังยังส่งผลกระทบ บางจุดสูง 80-100 ซม. รถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านได้ ขณะที่โรงเรียนแจ้งหยุดต่ออีก 2 วัน

เสือดาวแก่งกระจาน

ตื่นตา! เสือดาวโผล่โชว์ตัวกลางถนนแก่งกระจาน

ประทับใจ! เสือดาวโผล่โชว์ตัวกลางถนนแก่งกระจาน ไม่มีอาการกลัวคน นั่งนิ่งคล้ายกับโพสท่าให้นักท่องเที่ยวบันทึกภาพเก็บภาพความประทับใจ และสะท้อนให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าแก่งกระจาน

อุตุฯ เผยไทยตอนบน อุณหภูมิลดลง 1-3 องศาฯ ลมแรง

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบน อุณหภูมิลดลง 1-3 องศาฯ กับมีลมแรง โดยภาคอีสานและภาคเหนือ อากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน อากาศเย็นในตอนเช้า กทม.-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลง 1-2 องศาฯ