ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจฯ ม.หอการค้าไทยลดจีพีปี 63 ติดลบ -3.4%

กรุงเทพฯ 16 เม.ย. – ผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ฉุดเศรษฐกิจไทยปีนี้ แย่กว่าวิกฤตต้มยำกุ้ง จะหดตัว -3.4% ส่งออก -8.8% แต่เศรษฐกิจไทย อาจจะเริ่มฟื้นตัวได้ไตรมาสที่ 3 ปีนี้ 


นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แถลงประมาณการภาวะเศรษฐกิจไทยปี 2563 ว่า ผลจากการแพร่ระบาดของเชื่อไวรัสโควิด-19 ที่มีทีท่าที่จะยืดเยื้อออกไปจำนวนนักท่องเที่ยวหายไป รวมถึงสถานการณ์ภัยแล้ง ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจฯ จึงปรับประมาณการภาวะเศรษฐกิจไทยปี 2563  ภายใต้การมีมาตรการเยียวยาระยะที่ 3 วงเงิน 1.9 ล้านบาท โดยปรับใหม่จากเดือนมี.ค.63 ประเมินว่าจะเศรษฐกิจไทยปี 2563 จะโตได้ที่ระดับ 1.1% เป็นเศรษฐกิจไทยย่อตัวลงเป็น  -3.4% และมีโอกาส -4.9% หากการปล่อยเงินเยียวยาออกมาไม่ดี สถานการณ์โควิด-19 ปั่นป่วนลากยาวอีก 3 เดือนข้างหน้ายังไม่ชัดเจน แต่กรณีรัฐบาลไม่มีมาตรการเยียวยา ระยะที่ 3 เศรษฐกิจไทยจะติด -8.8% วิกฤตเศรษฐกิจครั้งนี้รุนแรงมากกว่าวิกฤตต้มยำกุ้ง

ด้านการส่งออกคาดว่าจะลดลงมากในระดับ -8.8% ถึง -12% ส่วนอัตราเงินเฟ้อ -0.5% ถึง -1.0% จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงประมาณ 30 ล้านคน เหลือนักท่องเที่ยวทั้งปีประมาณ 8-12 ล้านคน จากในปีที่ผ่านมามียอดรวมเกือบ 40 ล้านคน รายได้จากการท่องเที่ยวหายไปมาก เหลือประมาณ 700,000-800,0000 ล้านบาท จากที่ปีที่ผ่านมามีรายได้ถึง 3 ล้านล้านบาท 


นายธนวรรธน์ กล่าวว่า มาตรการเยียวยาของรัฐบาลรวม 1.9 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นใช้ในการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ วงเงิน 1 ล้านล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่ 600,000 ล้านบาท จะการดูแลด้านสาธารณสุขของประเทศ แต่ทำให้เกิดการจ้างงาน อีก 400,000 ล้านบาท ใช้ในการกระตุ้นเศรฐกิจ ส่วนเงินจากมาตรการเยียวยาจากธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) อีก 900,000 ล้านบาทนั้น ส่วนหนึ่งใช้ในการักษาเสถียรภาพทางภาคการเงิน เติมสภาพคล่องตราสารหนี้ เพื่อให้สถาบันการเงินไม่ล้ม  

ขณะที่เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำใช้ที่ออกมาก็ใช้เพื่อพยุง ไม่ใช่เพื่อการลงทุนที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ  โดยภาพรวมแล้ว มาตรการเยียวยา จะมีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจประมาณ 1 ล้านล้านบาท จะทำให้เศรษฐกิจดีดตัวจากที่จะ -8.8% ดีดกลับขึ้นมาเป็น -3.4 และมีโอกาสว่า การปล่อยเงินออกมาไม่ดี สถานการณ์โควิด-19 ปั่นป่วนลากยาวอีก 3 เดือนข้างหน้ายังไม่ชัดเจน เศรษฐกิจไทยก็มีโอกาสที่จะ -4.9% 

 


สำหรับสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ประเทศไทยน่าจะเริ่มคลี่คลายเดือนพ.ค.63 และมิ.ย.63 เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านไปสู่ผ่อนคลาย และเศรษฐกิจไทยจะเริ่มเคลื่อนตัวได้ในช่วงไตรมาสที่ 3 ขณะที่สถานการณ์โควิด-19 โลกอาจจะคลายตัวในช่วงประมาณเดือน ส.ค.-ก.ย.63 และเศรษฐกิจโลกจะค่อยๆ ฟื้นตัวในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 63 สิ่งที่จะทำให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวเร็วคือ การเริ่มกลับมาทำธุรกิจใหม่อีกครั้งในกลุ่มจังหวัดพื้นที่สีเขียวและธุรกิจที่มีความเสี่ยงน้อย สามารถปรับตัวเข้ากับเกณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุขได้ ธุรกิจจะเริ่มเดินได้ การจ้างงานจะเริ่มเกิดขึ้น ซึ่งเป็นแนวโน้มของกลุ่มประเทศในเอเชีย ที่สถานการณ์โควิด-19 จะจบลงในช่วงเดือน มิ.ย.ประกอบด้วยประเทศไทย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่นและประเทศกลุ่มอาเซียน โดยรวมเศรษฐกิจจะเริ่มฟื้นไตรมาส 3 แต่มี สัญญาณใหม่ที่ขณะนี้เริ่มมีการติดเชื้อในประเทศอินเดียจากโควิด-19 กลายพันธ์ ที่ต้องเฝ้าระวัง ขณะที่สถานการณ์โควิด-19  ในสหภาพยุโรปคาดว่า จะฟื้นได้ในช่วงไตรมาสที่ 4 ปีนี้

นายวิเชียร แก้วสมบัติ ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจฯ กล่าวว่า ภายใต้สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบทำให้ในช่วงเดือน ม.ค.ถึง มี.ค.63  นักท่องหายไปแล้วในช่วง 3 เดือนนี้ ถึง 6 ล้านคน คาดว่าตลอดทั้งปี 63 จะหายไป 30 ล้านคน เหลือนักท่องเที่ยวประมาณ 10 ล้านคน จากที่ปีก่อนมีจำนวนมากถึงเกือบ 40 ล้านคน อาจมีผลทำให้เพิ่มความเสี่ยงต่อการจ้างงาน เพราะเม็ดเงินรายได้หายไปจากระบบ 1.4 ล้านล้านบาท ไม่รวมการล็อคดาวน์ จึงเสี่ยงต่อการจ้างงานลดลงประมาณ 6 ล้านตำแหน่ง และการจ้างงานยังลดลงจากสาเหตุของการบริโภคที่ลดลง การลงทุนลดลงและจากสาเหตุการส่งออกลดลงจากความต้องการตลาดโลกชะลอและการติดขัดระบบขนส่ง รวมแล้ว มีความเสี่ยงต่อการจ้างงานลดลงมากถึง 10.23 ล้านตำแหน่งงาน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ ถึงอุบลฯ แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้ชาวบ้าน

อุบลราชธานี 20 มิ.ย.-นายกฯ ถึงอุบลราชธานี แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้จากประชาชน ก่อนขึ้น ฮ.ไปฐานมรกต ให้กำลังใจทหารแนวหน้า ขำสื่อรุมถาม “ไมค์เขกหัวนายกฯ” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงกองบิน 21 จ.อุบลราชธานี โดยมี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 รอรับ และเดินทางต่อไปที่สนามกีฬานานาชาติ อบต.โดมประดิษฐ์ มีว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี นายเกรียง กัลป์ตินันท์ อดีต รมว.มหาดไทย และ สส.พรรคเพื่อไทย มารอต้อนรับ น.ส.แพทองธาร ได้มอบสิ่งของให้แก่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และกล่าวทักทายอย่างเป็นกันเอง โดยชาวบ้านหลายคนนำดอกกุหลาบ และผ้าขาวม้า มามอบให้เป็นกำลังใจแก่นายกฯ ในระหว่างที่ประชาชนมอบดอกไม้ให้ นายกฯ ชวนแม่ทัพภาคที่ 2 มารับดอกไม้และถ่ายภาพร่วมกัน ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงการพูดคุยกับแม่ทัพภาคที่ 2 ได้เคลียร์ใจแล้วหรือไม่ […]

พรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน

รัฐสภา 20 มิ.ย.-เลขาธิการสภาฯ แจงพรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน แม้จะมีชื่อในบัญชี ก็ไม่เป็นผล ว่าที่ร้องตรีอาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หากต้องมีการเลือกนายกฯ ใหม่ ว่า บุคคลที่สามารถได้รับการเสนอชื่อจะต้องเป็นบุคคลที่มีรายชื่อในบัญชีที่เสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง โดยพรรคที่สามารถเสนอชื่อบุคคลเป็นนายกฯได้ จะต้องมี สส.จำนวน 5% ของสส. 500 คน คือมี สส. 25 คน ตามมาตรา 159 วรรค 1 ซึ่งในขณะนี้มี สส.ในสภาฯ จำนวน 495 คน 5% คือ 24.75 ซึ่งพรรคพลังประชารัฐขณะนี้มี สส.เหลือไม่ถึง 20 คน จึงไม่สามารถเสนอบุคคลในบัญชีรายชื่อคือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกฯ ได้ ตามมาตรา 159 […]

ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ยิงข้างห้องดับ 1 เจ็บ 1

ชุมพร 20 มิ.ย. – ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ฉุนข้างห้องติดเครื่องรถกระบะจอดแช่นาน เกิดมีปากเสียง คว้าปืนยิงสามีเข้าที่คอบาดเจ็บ ส่วนภรรยาโดนยิงเข้าเบ้าตาเสียชีวิต ตำรวจ สภ.เมืองชุมพร เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุยิงกัน บริเวณห้องเช่า ริมถนนซอยสุขาภิบาล 17 – วัดเขาปุก ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร ที่เกิดเหตุเป็นห้องแถวเช่าติดกัน 4 ห้อง บริเวณหน้าห้องซ้ายสุด มีรถกระบะสีดำจอดอยู่ พร้อมกองเลือด ส่วนผู้บาดเจ็บ ทราบชื่อ น.ส.จิราวรรณ อายุ 54 ปี ถูกยิงเข้าที่ตาข้างขวา อาการสาหัส หน่วยกู้ชีพนำส่งโรงพยาบาล ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนั้นยังมีผู้บาดเจ็บอีก 1 คน คือ นายสุรพจน์ อายุ 53 ปี ถูกยิงเข้าที่ไหปลาร้า ใกล้ลำคอด้านขวา แต่กระสุนถากไป ได้รับบาดเจ็บไม่มาก นายสุรพจน์ ให้ข้อมูลว่า คนก่อเหตุยิงเป็นเพื่อนบ้านห้องเช่าใกล้กัน ชอบตะโกนต่อว่าตนว่าติดเครื่องยนต์จอดแช่ไว้นาน ทำให้รำคาญ ซึ่งตนก็บอกไปว่า รถยนต์ตนต้องติดเครื่องวอร์มแช่ไว้ก่อนทุกครั้ง […]

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]

ข่าวแนะนำ

หาชมยาก เปิดสะพานกรุงเทพให้เรือผ่าน แห่งเดียวในไทย

กรุงเทพฯ 22 มิ.ย. – เป็นอีกครั้งที่สะพานกรุงเทพ ยกขึ้นเพื่อให้เรือผ่าน ปัจจุบันเป็นสะพานแห่งเดียวในไทยที่ยังคงใช้งานเปิด-ปิดได้ โดยเป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่สำคัญตั้งแต่ในอดีต ปัจจุบันมีเรือที่ผ่านน้อยลง ทำให้การยกเปิดแต่ละครั้งได้รับความสนใจ เพราะเป็นภาพที่หาชมได้ไม่บ่อย.-สำนักข่าวไทย

“ฮุน มาเนต” ระงับนําเข้าน้ำมัน-ก๊าซจากไทย

กัมพูชา 22 มิ.ย. – “ฮุน มาเนต” นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ประกาศระงับนําเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง-ก๊าซทุกชนิดจากไทย เริ่มเที่ยงคืนนี้ มั่นใจบริษัทในกัมพูชาหาเชื้อเพลิงจากแหล่งอื่นให้ประชาชนได้เพียงพอ พล.อ.ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โพสต์เฟซบุ๊ก Hun Manet ระบุว่า บริษัทจัดจําหน่ายน้ำมันในประเทศกัมพูชามีความสามารถในการนําเข้าเชื้อเพลิงและก๊าซจากแหล่งอื่น เพียงพอที่จะตอบสนองความต้องการบริโภคภายในประเทศของประชาชน แม้จะเป็นเดือน แม้ตลอดไปก็ไม่ใช่ปัญหา เริ่มตั้งแต่เที่ยงคืนนี้ (22 มิ.ย.68) การนําเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซทั้งหมดจากประเทศไทยจะถูกหยุด.-สำนักข่าวไทย

กองกำลังบูรพาเข้มจุดตรวจ นำสุนัข K9 ร่วมลาดตระเวน

22 มิ.ย. – กองกำลังบูรพาเข้มจุดตรวจตลอดแนวชายแดนช่องทางธรรมชาติ อ.คลองหาด จ.สระแก้ว นำสุนัข K9 ร่วมลาดตระเวน ป้องกันการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวและแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ส่วนด่านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด บรรยากาศเงียบเหงา หลังชาวกัมพูชาปิดร้านขนของกลับประเทศ ที่ จ.สระแก้ว ตลอดแนวชายแดนช่องทางธรรมชาติ บริเวณจุดตรวจ ค.04 อ.คลองหาด มีเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคง กองกำลังบูรพา และกองร้อยทหารพราน พร้อมสุนัข K9 ยังคงเดินหน้าควบคุมพื้นที่อย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวและขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่อาจจะพากันทะลักเข้า-ออก หลังจากที่มีคำสั่งห้ามนักท่องเที่ยวและนักพนันข้ามไปยังประเทศกัมพูชา ซึ่งจุดนี้เป็นหนึ่งในพื้นที่เสี่ยงที่มีการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย โดยเจ้าหน้าที่เดินเท้าลาดตระเวนตลอดแนวชายแดนกว่า 100 กิโลเมตร เพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ บรรยากาศชายแดนหาดเล็กเงียบเหงาด้านบริเวณชายแดนด่านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด บรรยากาศค่อนข้างเงียบเหงา หลังชาวกัมพูชาปิดร้านขนของกลับประเทศ มีเพียงรถบรรทุกสินค้าทั่วไปรอคิวผ่านแดนข้ามฝั่งไปประเทศกัมพูชา เจ้าของร้านค้าในพื้นที่ เล่าว่า บรรยากาศเงียบเหงามาก วันๆ แทบไม่มีคนซื้อของ ถ้าถามความรู้สึกว่าเดือดร้อนไหม บอกเลยว่ายอมเดือดร้อนดีกว่าเสียดินแดนซ้ำอีก ถ้าจะปิดด่านก็ปิดได้เลย เอาดินแดนไว้ก่อนดีกว่า ส่วนบริเวณด่านถาวรช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ นายประสิทธิ์ ดีจงเจริญ นายด่านศุลกากรช่องสะงำ […]

“แพทองธาร” โพสต์พรรคร่วมฯ มีมติหนุนรัฐบาล ร่วมสร้างเสถียรภาพการเมือง

โรงแรมโรสวูด 22 มิ.ย.- นายกฯ โพสต์พรรคร่วมรัฐบาลมีมติหนุนรัฐบาล ร่วมกันสร้างเสถียรภาพทางการเมือง ชี้ ความเป็นหนึ่งเดียว ช่วยก้าวผ่านสถานการณ์อ่อนไหว เดินหน้ารับมือภัยคุกคามและความมั่นคง ภายหลัง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เชิญพรรคร่วมรัฐบาล หารือ ปรับคณะรัฐมนตรี แทนตำแหน่งที่ว่าง 8 ตำแหน่ง หลังภูมิใจไทยถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล โดยใช้เวลาในการหารือประมาณ 1 ชั่วโมง ล่าสุด เมื่อเวลา 15.30 น. รถบรรดาหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลและเลขาธิการพรรคได้เดินทางออกจากโรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ ขณะที่ นายกรัฐมนตรีได้ ยังอยู่ภายในโรงแรม ก่อนที่ นายกรัฐมนตรี จะโพสต์ภาพถ่ายผ่านโซเชียลร่วมกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล พร้อมระบุข้อความว่า “ประเทศชาติต้องเดินไปข้างหน้า สามัคคีประเทศไทย รวมพลังผลักดันนโยบาย แก้ไขปัญหาเพื่อประชาชน ขอขอบคุณคณะกรรมการบริหารและสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลทุกท่าน ที่มีมติและประกาศแนวทางสนับสนุนรัฐบาล ร่วมกันสร้างเสถียรภาพทางการเมือง เพื่อรับมือต่อภัยคุกคามความมั่นคงของชาติจากภายนอก และขับเคลื่อนนโยบายแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน ในช่วงเวลาที่รัฐบาลกับกองทัพมีจุดยืนร่วมกัน ยืนยันหลักการประชาธิปไตย ปฏิบัติหน้าที่ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญและรวมพลังสามัคคี ความเป็นหนึ่งเดียวของพรรคร่วมรัฐบาล จะเป็นหมุดหมายสำคัญในการผนึกกำลังกันของคนไทย ก้าวผ่านสถานการณ์อ่อนไหวนี้ด้วยความมั่นคง และประสบผลสำเร็จในการปกป้องอธิปไตย ธำรงไว้ซึ่งเกียรติยศศักดิ์ศรีของประเทศชาติและประชาชน ดิฉันเชื่อมั่นว่าไม่มีภัยคุกคามใดจะเหนือกว่าพลังสามัคคีของคนไทย […]