กรมชลฯ ปรับการส่งน้ำแก้แล้งเชียงใหม่

กรุงเทพฯ 16 เม.ย. – อธิบดีกรมชลประทานระบุอำเภอด้านท้ายแม่น้ำปิง จ. เชียงใหม่ เริ่มได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง สั่งปรับแผนสำรองประปาแก้มลิง 7 แห่ง และอีก 3 อ่างฯ ไว้ใช้ช่วงวิกฤติ ขณะที่เขื่อนแม่กวงฯ ปรับรอบเวรการส่งน้ำช่วยชาวสวนลำไยจังหวัดเชียงใหม่และลำพูน ปัจจุบันเหลือน้ำในอ่างเก็บน้ำเพียงร้อยละ 23 เท่านั้น วอนใช้น้ำอย่างประหยัด 


นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า พื้นที่ท้ายน้ำแม่น้ำปิงจังหวัดเชียงใหม่เริ่มได้รับผลกระทบจากภัยแล้งจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดตั้งแต่เดือนมีนาคม โดยเฉพาะอำเภอจอมทอง ฮอด และดอยเต่า ประกอบกับไม่มีประตูระบายน้ำที่ช่วยเก็บกักน้ำแม่น้ำปิงไปจนถึงประตูระบายน้ำแม่สอย อำเภอจอมทอง สำนักงานชลประทานเชียงใหม่จัดรอบส่งน้ำในเขตจังหวัดเชียงใหม่ ต่อเนื่องถึงจังหวัดลำพูน 25 รอบเวร โดยงดการส่งน้ำให้พื้นที่ที่มีการเพาะปลูกพืชที่ไม่อยู่ในแผนการเพาะปลูกที่กำหนดไว้ ขอความร่วมมือจากกลุ่มผู้ใช้น้ำปฏิบัติตามมาตรการใช้น้ำชลประทานอย่างเคร่งครัด เพื่อสำรองน้ำไว้สำหรับการอุปโภคบริโภคอย่างเพียงพอตลอดฤดูแล้งนี้ไปจนถึงต้นฤดูฝน อีกทั้งยังต้องสำรองน้ำหากเกิดภาวะฝนทิ้งช่วงอีกด้วย นอกจากนี้ ได้จัดส่งรถบรรทุกน้ำนำน้ำสะอาดเข้าไปแจกจ่ายให้ประชาชนบ้านม่อนหิน ตำบลบ้านแปะ อำเภอจอมทอง ซึ่งสามารถบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนได้ในระดับหนึ่ง


สำหรับการผลิตน้ำประปาของจังหวัดเชียงใหม่ ทางสถานีผลิตน้ำอุโมงค์ใช้น้ำจากคลองชลประทานแม่แตงเป็นหลัก ซึ่งขณะนี้เริ่มได้รับผลกระทบจนต้องสูบน้ำจากแม่น้ำปิง ผ่านโรงสูบน้ำบ้านท่อเข้ามาเสริม เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการใช้น้ำของประชาชนทางด้านทิศตะวันตกไปจนถึงทางใต้ของจังหวัดเชียงใหม่ ขณะเดียวกันได้สำรองน้ำไว้ในแก้มลิง 7 แห่ง และอีก 3  อ่างเก็บน้ำทางทิศตะวันตกติดคลองชลประทานแม่แตงไว้กรณีน้ำเพียงพอต่อการผลิตน้ำประปาในอนาคต 

นายทองเปลว กล่าวต่อว่า ปัจจุบันเขื่อนแม่กวงอุดมธารา จังหวัดเชียงใหม่มีน้ำเก็บกักประมาณ 61 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 23 ของความจุอ่างฯ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษา-เขื่อนแม่กวงอุดมธาราร่วมหารือกับคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำชลประทานเขื่อนแม่กวง (JMC) เพื่อกำหนดแนวทางการบริหารจัดการน้ำเพื่อให้ทุกภาคส่วนมีน้ำใช้อย่างเพียงพอตลอดฤดูแล้ง ก่อนหน้านี้เกษตรกรที่อยู่ปลายคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งซ้าย ตำบลมะเขือแจ้ ตำบลบ้านธิ อำเภอบ้านธิและตำบลศรีบัวบาน อำเภอเมืองลำพูนได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ภัยแล้ง ต้นลำไยบางส่วนใกล้ยืนต้นตายเนื่องจากขาดน้ำ กรมชลประทานจึงส่งน้ำรอบพิเศษให้แก่พื้นที่ดังกล่าวตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคมซึ่งสามารถแก้ไขปัญหาได้ในระดับหนึ่ง แต่น้ำในเขื่อนแม่กวงฯ มีจำกัด ประกอบกับระยะทางของพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอยู่ไกลจึงจำเป็นจะต้องกำหนดแผนการบริหารจัดการน้ำให้รัดกุมขึ้น โดยปรับเปลี่ยนการส่งน้ำในรอบเวรที่ 4 ช่วงเดือนเมษายน โดยให้เกษตรกรในจังหวัดลำพูนและบางพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่สูบน้ำไปเลี้ยงลำไยและพืชสวนต่าง ๆ พื้นที่กว่า 25,000 ไร่ ทั้งนี้การใช้น้ำในเขื่อนแม่กวงฯ มากกว่าแผนที่วางไว้ แต่จะยังคงเหลือปริมาณน้ำเพื่ออุปโภคบริโภคและรักษาระบบนิเวศน์ต่อไปได้อีก 2 เดือนซึ่งถึงต้นฤดูฝน 


“เชียงใหม่ยังไม่ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยแล้ง กรมชลประทานบริหารจัดการน้ำในเขตพื้นที่ชลประทานตามแผนที่ได้วางไว้อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะแม่น้ำปิงเพื่อให้น้ำที่มีอยู่อย่างจำกัดเพียงพอใช้สำหรับอุปโภคบริโภคตลอดฤดูแล้ง พร้อมขอความร่วมมือจากเกษตรกรและประชาชนที่อาศัยอยู่ตลอด 2 ฝั่งของแม่น้ำปิงให้ร่วมใจกันใช้น้ำอย่างประหยัด” นายทองเปลว กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อพยพออกจากตึก

ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ ให้เข้าใช้งานในอาคารได้แล้ว

ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ สั่งคนออกจากตึกทันที หลังเกิดเสียงดัง-รอยร้าว-เศษปูนร่วง ล่าสุดแจ้งให้เข้าใช้งานในอาคารได้แล้ว

“เอกนัฏ” ลงเก็บตัวอย่างเหล็กตึกถล่มส่งพิสูจน์ ยอมรับเห็นแล้วอึ้ง

รมว.อุตสาหกรรม ลงพื้นที่เก็บตัวอย่างเหล็ก ส่งพิสูจน์สถาบันเหล็ก เชิญสื่อร่วมติดตามผลตรวจ ยังไม่ปรักปรำใคร-ยอมรับเห็นแล้วอึ้ง

ข่าวแนะนำ

นายกฯ สั่งลดขั้นตอนแจ้งเตือนภัย ลั่นยังไม่ได้ SMS แผ่นดินไหว

นายกฯ ลั่น จนถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้รับ SMS เตือนแผ่นดินไหว สั่งลดขั้นตอนแจ้งเตือน “กรมอุตุฯ ไป ปภ. เข้าเครือข่ายมือถือ” ไม่ต้องผ่าน กสทช. ระหว่าง รอ Cell Broadcast เต็มระบบ ก.ค.นี้

ปภ.ยันไม่มีความรู้สึกสั่นไหว ไม่ใช่ผลจากอาฟเตอร์ช็อก

ปภ.แถลงชี้แจงกรณีสถานการณ์อพยพออกจากอาคาร ยืนยันไม่มีความรู้สึกสั่นไหว ไม่ได้เป็นผลกระทบจากอาฟเตอร์ช็อก ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก

นายกฯ ติดตามภารกิจช่วยเหลือคนติดซาก สตง.ถล่ม

นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุอาคาร สตง.ถล่ม ติดตามภารกิจช่วยเหลือผู้ที่ติดค้างอยู่ใต้ซากอาคาร พร้อมให้กำลังใจทุกหน่วยงานทำงานอย่างเต็มที่

ตึกถล่มแผ่นดินไหว

72 ชั่วโมง ยังมีหวังพบผู้รอดชีวิตตึก สตง. ถล่ม

ใกล้ครบ 72 ชั่วโมงเหตุตึก สตง. ถล่ม แต่ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายยังไม่ละความพยายาม และยังมีความหวังในการค้นหาผู้ที่ติดอยู่ใต้ซาก