นายกฯ กำชับ “สมศักดิ์” เข้มคดีต้ม 4 คูณ100 พุ่ง หลังประกาศห้ามขายเหล้า

ยธ.15 เม.ย.-นายกรัฐมนตรี เป็นห่วงหลังการประกาศห้ามข้ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พบคดีต้ม 4 คูณ 100 เพิ่มขึ้น ด้าน รมว.ยุติธรรม สั่ง ป.ป.ส.ตามจับทั้งเสพและที่ผลิตขายในโซเชียล พร้อมอธิบายประชาชนถึงกฎหมายกระท่อมให้ชัดเจน


นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม(รมว.ยธ.)กล่าวถึงการจับกุมกลุ่มบุคคลมั่วสุม โดยนำใบกระท่อมมาปรุงแต่งกับยาแก้ไอ หรือ “4 คูณ100”  ว่า ตามรายงานที่ได้รับมีหลายเหตุการณ์ เช่น รวมตัวมั่วสุมขัด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อีกทั้งยังพบว่าเสพยาบ้า เสพกัญชา แล้วต้ม 4 คูณ 100 ดื่มใน จ.ปทุมธานี และศรีสะเกษ  ขณะที่ จ.ภูเก็ต พนักงานส่งอาหารมีการลักลอบขนใบกระท่อม และน้ำ 4 คูณ 100 พร้อมกันนี้ ยังพบว่าในโซเชียล มีเดีย โปรแกรมทวิตเตอร์  ยังมีการทวีตข้อความขายน้ำกระท่อมอีกด้วย


นายสมศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า เบื้องต้นได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องคือสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ทำความเข้าใจด้านการประชาสัมพันธ์ ว่ากระท่อมเวลานี้ยังไม่ถูกกฎหมาย และสิ่งที่กระทรวงยุติธรรมจะผลักดันไม่ใช่ในแนวทางที่ต้องการให้เป็นยาเสพติด กระทรวงยุติธรรมต้องการให้นำมาเป็นอาชีพเพาะปลูก เพื่อขายและส่งออกให้ต่างประเทศไปทำยา แต่การจะผลิตยาหรืออาหารภายใน ประเทศ ก็ต้องขออนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ด้วยถึงจะแปรรูปได้ ไม่ใช่ทำได้อย่างเสรี


“ต้องขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีที่แสดงความเป็นห่วง ซึ่งได้สั่งการให้สำนักงาน ป.ป.ส.ลงไปกวดขันมากขึ้น รวมถึงทำความชี้แจงในขั้นตอนต่างๆส่วนที่นำมาขายในโซเชียลก็ต้องไปตามจับกุมเพราะประชาชนเข้าใจผิด ทุกอย่างจะยุ่งเหยิง ขอยืนยันว่าการผลักดันกระท่อม ไม่ได้ต้องการให้เป็นยาเสพติด แต่ต้องการเปลี่ยนเพื่อเพิ่มอาชีพให้กับประชาชน เพราะกระท่อมสามารถแปรรูปให้เป็นรายได้ได้ ส่วนที่จับในเวลานี้มากขึ้น เพราะมาตรการห้ามขายเหล้าของรัฐบาลในช่วงเคอร์ฟิว  จึงทำให้บุคคลพยามเอากระท่อมมาแปรรูปผิดวัตถุประสงค์เพื่อดื่มแทนเหล้า เบียร์ ” รมว.ยุติธรรม กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ รมว.ยุติธรรม ไปดูแลในเรื่องนี้กลางที่ประชุมคณะรัฐมนตรีด้วยระบบคอนเฟอเรนซ์ เพราะตำรวจสามารถดำเนินการจับได้ในหลายคดี ทาง รมว.ยุติธรรม จึงรีบแก้ไขทันทีและสั่งงานไปยังสำนักงานป.ป.ส.ให้เร่งแก้ไข ทั้งจับกุมและประชาสัมพันธ์ อธิบายประชาชนให้เข้าใจในหลักการของการผ่านกฎหมายกระท่อม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

วันที่ 11 ปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. ถล่ม

วันที่ 11 ของปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. พังถล่ม เจ้าหน้าที่เดินหน้าใช้เครื่องจักรหนักเข้า เคลียร์ซากต่อเนื่อง โดยเฉพาะโซนบี และซี ที่คาดว่าเป็นจุดที่มีผู้ติดค้างอยู่จำนวนมาก

ชุดค้นหาลงโพรงโซน B, C ลึก 5-6 เมตร ได้กลิ่นแรง ไม่พบผู้สูญหาย

“กู้ภัย” เผยเจาะโพรงพื้นที่โซน B และ C ได้แล้ว พร้อมส่งชุดค้นหาลงโพรงไปตรวจสอบลึก 5-6 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหายเพิ่ม แต่ได้กลิ่นแรง เร่งเดินหน้าเครื่องจักรหนักเคลียร์ซากต่อเนื่อง ยันจะช่วยเหลือจนกว่านำร่างสุดท้ายออกมาครบ