เกษตรฯ เล็งประกันรายได้ยางพาราเฟส 2

กรุงเทพฯ 15 เม.ย. – รมว.เกษตรฯ สั่ง กยท.เร่งผลักดันราคายางพาราทั้งระบบ หลังได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้ไม่มีคำสั่งซื้อจากต่างประเทศ ราคาจึงลดลงเล็กน้อย ขณะนี้กำลังพิจารณาช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยาง โดยอาจทำโครงการประกันรายได้ครั้งที่ 2


นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ได้มอบหมายให้การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหามาตรการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางพาราที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้ส่งออกได้น้อยมาก เนื่องจากประเทศที่เป็นผู้รับซื้อรายใหญ่เกิดการระบาดของโรคนี้อย่างรุนแรงเช่นกัน แม้สถานการณ์ในจีนจะเริ่มคลี่คลายแล้ว แต่คำสั่งซื้อยังไม่กลับมาเท่าเดิม สำหรับราคายางพาราในประเทศตั้งแต่ต้นปีมีสภาพทรงตัวและลดลงเล็กน้อย โดยวานนี้ (14 เม.ย.) ราคายางแผ่นดิบคุณภาพดีอยู่ที่ 36.69  บาท/กิโลกรัม น้ำยางสด 37  บาท/กิโลกรัม  และยางก้อนถ้วย 27.20 บาท/กิโลกรัม 

ทั้งนี้ กยท.รายงานว่าตลาดรับซื้อของเอกชนปิดรับซื้อชั่วคราว เนื่องจากส่งออกทั้งยางวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์แปรรูปไปต่างประเทศลดลงมาก กยท.จึงแก้ปัญหาโดยให้เกษตรกรนำยางพารามาขายที่ตลาดกลางยางพารา 6 แห่ง ประกอบด้วย บุรีรัมย์ หนองคาย สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา และยะลา เครือข่ายตลาดกลาง 111 แห่ง และตลาด กยท.จังหวัด /สาขา 105 แห่ง ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อรองรับการจำหน่ายผลผลิตยางของเกษตรกรได้ทั่วประเทศ โดยสามารถเข้าชื่อจุดดรับซื้อยางทั้ง 222 แห่งทั่วประเทศได้ที่ www.raot.co.th


นายเฉลิมชัย กล่าวต่อว่า กำลังพิจารณาทำโครงการประกันรายได้ยางพาราครั้งที่ 2 โดยอยู่ระหว่างหารือกับนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวพาณิชย์ หากได้ข้อสรุปจะเสนอนายกรัฐมนตรีแล้วเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีต่อไป เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรในกรณีราคายางตกต่ำลงอีก หากวิกฤติโควิด-19 ยืดเยื้อ สำหรับโครงการประกันรายได้ยางพาราระยะที่ 2 ซึ่งจะเสนอ ครม.พิจารณามีระยะเวลา 6 เดือน ตั้งแต่เดือนเมษายน – กันยายน 2563 คาดว่าจะสามารถเพิ่มรายได้ชาวสวนยาง 1,730,000 ราย พื้นที่ 19.4 ล้านไร่ ซึ่งเป็นสวนยางอายุ 7 ปีขึ้นไปที่เปิดกรีดแล้ว รายละไม่เกิน 25 ไร่ ราคายางที่ใช้ประกันรายได้แต่ละชนิด ได้แก่ ยางแผ่นดิบคุณภาพดี 60 บาท/ กิโลกรัม  น้ำยางสด (DRC 100%) 57 บาท/กิโลกรัม ยางก้อนถ้วย (DRC 100%) 46 บาท/กิโลกรัม  ราคาที่คณะกรรมการกำหนดราคากลางอ้างอิงประกาศทุก 2 เดือนนั้น พิจารณาจากราคาตลาดกลางยางพารา ตลาดสิงคโปร์ (SICOM) ตลาดโตเกียว (TOCOM) ตลาดเซี่ยงไฮ้ และปัจจัยอื่น ๆ กำหนดให้แบ่งสัดส่วนรายได้เจ้าของสวนร้อยละ 60 และคนกรีดร้อยละ 40 ของรายได้ทั้งหมด ประมาณการณ์งบประมาณโครงการประกันรายได้ให้เกษตรกรชาวสวนยาง ระยะที่ 2 วงเงิน 34,938,295,360.47 บาท 

นอกจากนี้ ยังจะเสนอโครงการพัฒนาความร่วมมือการผลิตและการตลาดภาคอุตสาหกรรมยางพาราเพื่อเพิ่มปริมาณการใช้ยางพาราภายในประเทศ สร้างรายได้ให้เกษตรกร และสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง กระตุ้นให้มีการแปรรูปผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มมูลค่า เกิดความร่วมมือด้าน การผลิตและการตลาดระหว่างเกษตรกรชาวสวนยาง ภาครัฐ และภาคเอกชนเพื่อเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้แก่สถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง กลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางผู้ผลิต ผลิตภัณฑ์ยางพาราที่ขึ้นทะเบียนกับกยท. และสมัครเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายหมอนยางพารา ซึ่งกยท. สนับสนุนเงินทุนให้แก่สถาบันเกษตรกรและกลุ่มเกษตรกร ผู้ผลิตหมอนยางพาราระหว่างรอการจำหน่าย โดยใช้ผลิตภัณฑ์หมอนยางพาราเป็นหลักประกัน 50,000 ใบ คาดว่า จะมีผู้เข้าร่วมโครงการ 50 สถาบัน วงเงินงบประมาณ 11,312,000.00 บาท

สำหรับโครงการสนับสนุนสินเชื่อผู้ประกอบการผลิตผลิตภัณฑ์ยาง วงเงิน 15,000 ล้านบาท โดยปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินงานในปีนี้ ผู้ประกอบกิจการยางที่เข้าร่วมโครงการต้องเพิ่มปริมาณการใช้ยางไม่น้อยกว่า 2 ตันต่อปี ในทุกวงเงิน 1 ล้านบาทซึ่งคาดว่าจะเพิ่มปริมาณการใช้ยางไม่น้อยกว่า 50,000 ตัน ต่อมาคือ โครงการสนับสนุนสินเชื่อผู้ประกอบกิจการยาง (ยางแห้ง) วงเงิน 20,000 ล้านบาทเพื่อเพิ่มกิจกรรมให้ผู้ประกอบกิจการยางซึ่งต้องซื้อยางในฤดูกาลใหม่มาเป็นวัตถุดิบในการผลิต โดยรัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยในอัตราตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินร้อยละ 2 ต่อปี เพื่อสนับสนุนในช่วงที่ผู้ประกอบกิจการไม่มีกำลังซื้อ ช่วยให้เกิดการหมุนเวียนผลผลิตของชาวสวนยาง และท้ายสุดคือ โครงการสนับสนุนสินเชื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนแก่ผู้ประกอบกิจการไม้ยางและ ผลิตภัณฑ์ วงเงิน 20,000 ล้านบาท โดยรัฐชดเชยดอกเบี้ยร้อยละ 3 ต่อปี รวมถึงการสนับสนุนให้ปลูกพืชอื่นทดแทนยางพาราเพื่อลดพื้นที่ปลูกลง กำหนดให้ลดพื้นที่ปลูกทั่วประเทศรวม 400,000 ไร่ คาดว่า จะดูดซับปริมาณยางที่จะออกสู่ตลาดได้ 12 ล้านตัน


“การกำหนดมาตรการดังกล่าวเป็นการแก้ไขปัญหาราคายางตกต่ำครอบคลุมทั้งระบบ ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น ส่วนผลการดำเนินโครงการประกันรายได้ระยะที่ 1 สามารถช่วยเหลือเกษตรกรให้ขายยางให้มีรายได้เพิ่มขึ้น ราคายางเริ่มปรับตัวสูงขึ้น จนเมื่อเกิดโรคโควิด-19 ระบาดในหลายประเทศจึงส่งผลกระทบต่อการจำหน่ายยางซึ่งไทยส่งออกมากเป็นอันดับ 1 ของโลก ทำให้ทั้งเกษตรกรและผู้ประกอบการขาดสภาพคล่อง มั่นใจว่า มาตรการทั้งหมดนี้จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของผู้อยู่ในอุตสาหกรรมผลิตยางพาราได้” นายเฉลิมชัย กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” คดี “แบงค์ เลสเตอร์”

ผบช.ภ.2 เผยคดี “แบงค์ เลสเตอร์” แจ้งข้อหา “เอ็ม” กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย มอบตัวรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา คุมฝากขังค้านประกันตัว

หยุดยาววันแรก การจราจรขาออก กทม. มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่น

เริ่มหยุดยาววันแรก การจราจรบนท้องถนนขาออกกรุงเทพฯ มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่นตั้งแต่เมื่อคืน เช้านี้ ถนนมิตรภาพ ช่วง ต.กลางดง อ.ปากช่อง ชะลอเคลื่อนตัวไปได้เรื่อยๆ ส่วนถนนพหลโยธิน ขาเข้าหนองแค รถเริ่มแน่น

วันแรก ตาย 52 อุบัติเหตุ 322 ครั้ง บาดเจ็บ 318 คน

สถิติวันแรก 10 วันอันตราย ตาย 52 อุบัติเหตุ 322 ครั้ง บาดเจ็บ 318 คน​ “เพิ่มพูน” เน้นทุกฝ่ายช่วยกันดูแลความปลอดภัย อำนวยความสะดวก เข้มเรื่องกฎหมาย