กรุงเทพฯ 14 เม.ย. – เขื่อนแม่กวงฯ ปรับรอบเวรการส่งน้ำช่วยชาวสวนลำไยในจังหวัดลำพูน-เชียงใหม่ ปัจจุบันเหลือน้ำในอ่างเก็บน้ำเพียงร้อยละ 23 เท่านั้น วอนทุกภาคส่วนใช้น้าตามแผนที่กรมชลประทานวางไว้เพื่อให้น้ำมีเพียงพอตลอดฤดูแล้ง
นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ปัจจุบันเขื่อนแม่กวงอุดมธารา จังหวัดเชียงใหม่มีน้ำเก็บกักประมาณ 61 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 23 ของความจุอ่างฯ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษา-เขื่อนแม่กวงอุดมธาราร่วมหารือกับคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำชลประทานเขื่อนแม่กวง (JMC) เพื่อกำหนดแนวทางการบริหารจัดการน้ำเพื่อให้ทุกภาคส่วนมีน้ำใช้อย่างเพียงพอตลอดฤดูแล้ง ก่อนหน้านี้เกษตรกรที่อยู่ปลายคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งซ้าย ตำบลมะเขือแจ้ ตำบลบ้านธิ อำเภอบ้านธิและตำบลศรีบัวบาน อำเภอเมืองลำพูนได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ภัยแล้ง ต้นลำไยบางส่วนใกล้ยืนต้นตายเนื่องจากขาดน้ำ กรมชลประทานจึงส่งน้ำรอบพิเศษให้แก่พื้นที่ดังกล่าวตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคมซึ่งสามารถแก้ไขปัญหาได้ในระดับหนึ่ง แต่น้ำในเขื่อนแม่กวงฯ มีจำกัด ประกอบกับระยะทางของพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอยู่ไกลจึงจำเป็นจะต้องกำหนดแผนการบริหารจัดการน้ำให้รัดกุมขึ้น โดยปรับเปลี่ยนการส่งน้ำในรอบเวรที่ 4 ช่วงเดือนเมษายน
นายทองเปลว กล่าวต่อว่า ได้รับรายงานจากผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเขื่อนแม่กวงอุดมธาราว่า การบริหารจัดการน้ำระหว่างเดือนมกราคม-เมษายน 2563 มีความต้องการใช้น้ำรวม 17 ล้าน ลบ.ม. แบ่งเป็น น้ำอุปโภคบริโภค 4 ล้าน ลบ.ม. น้ำเพื่อการเกษตรและรักษาระบบนิเวศน์ 13 ล้าน ลบ.ม. โดยได้ส่งน้ำเข้าไปเก็บไว้ในสระชลประทานทั้ง 20 แห่ง ความจุ 586,400 ลบ.ม. โดยให้เกษตรกรในจังหวัดลำพูนและบางพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่สูบน้ำไปเลี้ยงลำไยและพืชสวนต่างๆ พื้นที่กว่า 25,000 ไร่ ทั้งนี้การใช้น้ำในเขื่อนแม่กวงฯ มากกว่าแผนที่วางไว้ แต่จะยังคงเหลือปริมาณน้ำเพื่ออุปโภคบริโภคและรักษาระบบนิเวศน์ต่อไปได้อีก 2 เดือนซึ่งถึงต้นฤดูฝน
“ขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนใช้น้ำอย่างประหยัดที่สุดเพื่อให้มีน้ำเพียงพอใช้ไปจนถึงต้นฤดูฝน และขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ในการใช้น้ำอย่างเครงครัดเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายแก่ผลผลิตทางการเกษตรหรือเกิดปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคในอนาคต” นายทองเปลวกล่าว . – สำนักข่าวไทย