ถกด่วนผู้นำศาสนา รับมือโควิด-19 ช่วงถือศีลอด

ปัตตานี 12 เม.ย.-ผู้ว่าฯ ปัตตานี ประชุมร่วมคณะกรรมการอิสลามจังหวัด หาแนวทางปฏิบัติของชาวไทยมุสลิมในพื้นที่ในเดือนถือศีลอดที่จะถึงนี้ เพื่อป้องกันการระบาดของโควิด-19 


หลังสำนักจุฬาราชมนตรี ประกาศให้พี่น้องชาวไทยมุสลิมทั่วประเทศดูดวงจันทร์ วันพฤหัสบดีที่ 23 เมษายน ถ้าหากมีผู้พบเห็นดวงจันทร์ วันที่ 1 ของเดือนรอมฎอน ก็จะตรงกับวันที่ 24 เมษายน และจะเป็นวันแรกของการถือศีลอดในเดือนรอมฎอนของชาวไทยมุสลิมทั่วประเทศ



แต่สถานการณ์การถือศีลอดในปีนี้ไม่เหมือนกับทุกปีที่ผ่านมา เพราะมีการระบาดของเชื้อโควิด-19 กระทบต่อการประกอบศาสนกิจชาวไทยมุสลิม โดยเฉพาะการละหมาดตะรอเวียะห์ ซึ่งตลอดทั้งเดือนของการถือศีลอด ชาวไทยมุสลิมจะเดินทางมาละหมาดตะรอเวียะห์ที่มัสยิดเป็นจำนวนมากในทุกค่ำคืน โดยเฉพาะที่มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี มีผู้เดินทางมาละหมาดร่วม 5,000 คน/คืน และในห้วงการถือศีลอดจะมีบรรยากาศผู้คนที่เดินทางมาจับจ่ายอาหารกันเป็นจำนวนมาก  ทำให้หลายฝ่ายมีวิตกกังวลว่า ถ้าหากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ยังไม่ดีขึ้น การรวมตัวของผู้คนจำนวนมาก จะส่งผลกระทบต่อแพร่ระบาดดังกล่าว

วันนี้ ที่ห้องประชุมสำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี อ.หนองจิก จ.ปัตตานี นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์   ผู้ว่าราชการจังหวัด ประชุมเพื่อหาแนวทางและแนวปฏิบัติของชาวไทยมุสลิมในพื้นที่ในเดือนถือศีลอดที่จะถึงนี้ โดยมี คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานีเข้าร่วมประชุม โดยในมติในที่ประชุม ทางคณะกรรมการอิสลามฯ และผู้นำศาสนา พร้อมที่จะทำตามนโยบายและมาตรการของทางจังหวัด ในการที่จะป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 โดยเฉพาะในเรื่องของการประกอบศาสนกิจในช่วงเดือนรอมฏอน ซึ่งในที่ประชุมจะฟังแนวทางการปฏิบัติจากทางจุฬาราชมนตรี เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติ และจะมีการเรียกอิหม่ามในมัสยิดกว่า 700 แห่ง มารับทราบแนวทางในการปฏิบัติอีกครั้งหนึ่ง

ด้านนายไกรศร กล่าวว่า หลังการประชุมร่วมกับคณะกรรมการอิสลามจังหวัดปัตตานี เตรียมความพร้อมกิจกรรมการรับมอบอำนาจให้อิหม่ามประจำมัสยิด 700 แห่ง ในช่วงก่อนเดือนรอมฎอน เพื่อการรับซะกาตของแต่ละมัสยิดนำไปแจกจ่ายให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ ซึ่งต้องมีมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม Social Distancing เพื่อการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งต้องมีการกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่เดินทางมาเป็นช่วงๆ เพื่อลดความหนาแน่นของอิม่ามจากอำเภอต่างๆ มีการตรวจคัดกรอง และจุดทำพิธีให้ใช้เวลาสั้นที่สุด ซึ่งที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือด้วยดีจากอิหม่ามประจำมัสยิดต่างๆ ในการประกอบศาสนกิจตามประกาศของจุฬาราชมนตรี รวมถึงในช่วงของเดือนรอมฎอน ก็จะมีการแจ้งแนวทางการปฏิบัติให้รับทราบในเร็วๆ นี้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ตร.ทางหลวงไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าไทย

ระทึก! ตำรวจทางหลวงขับรถไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าว 2 คัน สุดท้ายไม่รอด จนมุมบริเวณ ต.หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท ตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก จึงนำตัวทั้งหมด พร้อมกับคนขับรถทั้ง 2 คัน ส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองชัยนาท

คุมพ่อชาวรัสเซียฝากขัง จับลูกชายวัย 13 โยนลงทะเลเสียชีวิต

ตำรวจคุมตัว “หนุ่มรัสเซีย” ฝากขัง หลังก่อเหตุโยนลูกวัย 13 ปี ออกจากเรือ บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา จนถูกใบพัดเรือบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา อ้างเสียความทรงจำ ไม่รู้ทำอะไรลงไป

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล