โฆษก ศบค.ย้ำสงกรานต์งดเล่นน้ำทุกกรณี พบผู้ป่วยรายใหม่ 33 ราย

ทำเนียบฯ 12 เม.ย.-นายแพทย์ทวีศิลป์ แถลงข่าว ศบค. แนะช่วงเทศกาลสงกรานต์ งดเล่นน้ำทุกกรณีเพราะเป็นแหล่งแพร่เชื้อ และงดขอพรพ่อแม่ ญาติผู้ใหญ่ ขอสร้างระยะห่าง 1-2 เมตร แนะใช้วิธีสรงน้ำพระแทน  ระบุพบมีผู้ป่วยใหม่ 33 ราย  รวมติดเชื้อสะสม 2,551 กระจายอยู่ใน 68 จังหวัด รักษาหาย 83 ราย หายสะสม 1,218 มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 3 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 38 ราย และยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 1,295 คน


นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดในวันอาทิตย์ที่ 12เมษายน 2563  ว่าในช่วงนี้เป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ ก็ขอให้ทุกคนอยู่ที่บ้าน ขณะที่สถานการณ์การติดเชื้อประเทศไทยอยู่ในอันดับที่  47 ของโลก  วันนี้พบมีผู้ป่วยใหม่ 33 ราย  รวมติดเชื้อสะสม 2,551 กระจายอยู่ใน 68 จังหวัด รักษาหาย 83 ราย หายสะสม 1,218 มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 3 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 38 ราย และยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 1,295 คน

โฆษก ศบค. กล่าวว่า จากตัวเลขผู้ป่วยใหม่ 33 รายนี้มีความรู้สึกดีใจที่ตัวเลขลดลง และพอใจที่มีตัวเลขที่ดีในช่วงปีใหม่ไทยนี้ด้วย แต่สถานการณ์ทั่วโลกยังคงไม่น่าสบายใจ เพราะมีตัวเลขที่สูงขึ้นอยู่ อย่างต่อเนื่อง โดยความเสี่ยงปัจจัยเสี่ยงของผู้ติดเชื้อจำนวน 33 คน วิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ติดเชื้อ พบว่า กลุ่มแรก15 คนเกี่ยวข้องกับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในสถานบันเทิง และ 7 รายเชื่อมโยงกับการรักษาผู้ป่วย กลุ่มของบุคลากรทางการแพทย์ และการใช้ชีวิตส่วนตัวในแต่ละวัน ที่มีการสัมผัสกัน จึงต้องหาวิธีการในการป้องกันคนที่เป็นกลุ่มของบุคลากรทางการแพทย์ในอนาคต และที่น่ากังวลคือผู้ที่มีอาการในสถานที่กักตัวที่มีตัวเลขเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ ที่ไปประกอบศาสนกิจมา ที่ยังมีการกระจายกันอยู่ในแต่ละจังหวัดที่เป็นการสะสม 


“สำหรับผู้เสียชีวิต 3 ราย รายแรกเป็นผู้ป่วยชายไทย อายุ 74 ปี ไปสถานที่ชุมชนตลาดนัดและมีการรวมกลุ่มกันของบุคคลในบ้าน  ซึ่งได้มีอาการป่วย ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. ส่วนรายที่ 2  เป็นหญิงไทยอายุ  65 ปี เป็นโรคอ้วน ไปเยี่ยมญาติที่ชุมพร และมีอาการไข้จากนั้น 5 วัน โดย 11-31 มี.ค. มีอาการไข้ เพลียเหนื่อยหอบตามมาก่อนจะไปตรวจมีอาการหนักขึ้นพบว่าติดโควิด-19 และอาการแย่ลงจนเสียชีวิต ซึ่งถือว่ามาช้าไป จึงทำให้รักษาไม่ทัน ส่วนรายที่ 3 เป็นชายไทยอายุ 44 ปี รับส่งต่อจากโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม แต่แรกได้ทำการรักษาโดยใช้ยาหลายชนิดและก็พยายามที่จะดูแลทั้งระบบของร่างกาย และพบอวัยวะภายในล้มเหลว ต้องล้างไตหลายครั้ง แต่อาการไม่ดีขึ้น และเสียชีวิตวันนี้ (วันที่ 12 เม.ย. ) เมื่อ 7 โมงเช้าที่ผ่านมา จึงขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวที่เสียชีวิตทั้ง 3 ราย” นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าว

นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับ 9 จังหวัด ที่ยังไม่มีรายงานการรับรักษาผู้ป่วยโควิด-19 คือ จังหวัดกำแพงเพชร ,ชัยนาท ,ตราด,น่าน ,บึงกาฬ ,พิจิตร ,ระนอง ,สิงห์บุรี ,อ่างทอง โดยจังหวัดที่เป็นสถานที่กักกันตัว หรือ state quarantine จะมีตัวเลขที่สูงขึ้น ซึ่งไม่ได้อยู่ที่การดูแลดีหรือไม่ดีจังหวัดนั้น ๆ  แต่เป็นหน้าที่ที่ต้องดูแลคนไทยอย่างดีที่สุด ส่วนการเปิดประเทศหรือเปิดน่านฟ้าไทยเมื่อใดนั้น  จะต้องประเมินจากสถานการณ์ของประเทศเพื่อนบ้านและสถานการณ์โลกด้วย 

โฆษก ศบค. กล่าวว่า เมื่อดูสถิติผู้ติดเชื้อเป็นรายสัปดาห์จะพบว่าในสัปดาห์ที่ 15 มีผู้ติดเชื้อเพิ่มรวม 383 ราย ซึ่งลดลงจากเมื่อสัปดาห์ที่14 ที่มียอดผู้ป่วยใหม่ 724 ราย  เกือบครึ่งหนึ่ง ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่น่าพอใจ แต่อย่าประมาทเพราะในประเทศเพื่อนบ้านอย่างประเทศ มาเลเซียมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นสูง 184 ราย ฟิลิปปินส์ 233 ราย ขณะที่สิงคโปร์ 191 ราย ส่วนอินโดนีเซียที่มีคนไทยไปร่วมกิจกรรมและกลับมา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ถึง 330 ราย ดังนั้นคนไทยที่เดินทางกลับมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงจะต้องเข้าสู่ระบบประกันตัวและติดตามอาการอย่างใกล้ชิด 


นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับตัวเลขผู้ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ออกนอกเคหสถาน และฝ่าฝืนเคอร์ฟิวมี 926 ราย ซึ่งส่วนใหญ่มีสาเหตุจากการดื่มสุราจนกลับบ้านไม่ทัน ถูกดำเนินคดี 752 ราย ตักเตือน 174 คน ขณะที่ผู้ที่ฝ่าฝืน มีการชุมนุม มั่วสุม ลดน้อยลง มีการจับกุมมั่วสุม 58 รายและถูกดำเนินคดีทุกคน  ทั้งนี้เมื่อคืนที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีได้ไปตรวจด่านความมั่นคง ในช่วงเวลาเคอร์ฟิว เพื่อติดตามการทำงานและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ ซึ่งการรายงานให้ทราบนี้เป็นหน้าที่ของตน เพราะทุกคนล้วนมีหน้าที่ของตัวเอง 

เมื่อถามว่าตัวเลขผู้ป่วยที่สนามมวยลดน้อยลง หรือมาจากการทำงานของเจ้าหน้าที่ นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวว่า หลังจากที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินมาแล้ว 9 วัน ตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน  เป็นเพราะมาตรการที่เข้มงวดและการให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องโรคนี้มากขึ้น ใน 9 วันที่ผ่านมา มีมาตรการที่ดีเข้มข้นและมีโครงสร้างสาธารณสุข การอนามัย ความมั่นคง สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เกิดขึ้นอย่างเป็นกระบวนการและประชาชนให้ความร่วมมือ

เมื่อถามถึงการงดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ เหตุใดไม่ประกาศพร้อมกันทั่วประเทศ โฆษก ศบค. กล่าวว่า ล่าสุดตอนนี้ประกาศ 73 จังหวัดแล้ว ที่ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ ซึ่งจังหวัดที่เหลือตอนนี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ศบค.และ มท. ที่จะหามาตรการรองรับด้วย ทั้งนี้ขอความร่วมมือประชาชน งดดื่มแอลกอฮอล์ให้ลดน้อยลง เพื่อลดปัญหาอุบัติเหตุให้ลดน้อยลงด้วย 

เมื่อถามถึงมาตรการห่างผู้สูงอายุ 1-2 เมตร และการรดน้ำดำหัว รวมถึงการสาดน้ำในบ้านทำได้หรือไม่ นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวว่า ห้ามทำ เพราะการฉีดน้ำ สาดน้ำ เป็นแหล่งพาหะของเชื้อโรค จะฟุ้งกระจายออกไป เจ้าหน้าที่ไม่สามารถจับได้ทั้งหมด แต่ต้องขอความร่วมมือทุกคนให้ปฎิบัติอย่างเคร่งครัด รวมทั้งหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอลล์ด้วย 

“ในช่วง 7 วันอันตราย เทศกาลสงกรานต์ 2563 นี้ หากจะต้องเดินทางกลับภูมิลำเนา กลุ่มอายุ 20-29 ปี , 30-39 ปี , 40-49 ปี จะต้องห่างกับผู้สูงอายุอย่างน้อย 2 เมตรทุกวัน และงดการรดน้ำอวยพรโดยเด็ดขาดเพราะหากเป็นพาหะนำเชื้อไปส่งต่อให้กับญาติผู้ใหญ่ได้ รวมถึงห้ามกิจกรรมรดน้ำ-เล่นน้ำทุกกรณี แม้จะอยู่ภายในบ้าน เพราะจะนำพาเชื้อโรคไปสู่อีกคนก็ได้ ซึ่งในกรณีนี้อาจนำพาเชื้อโรคไปไกลกว่าระยะ 2 เมตร ทั้งนี้ในช่วงเทศกาลนี้จึงขอให้ใช้วิธีสรงน้ำพระแทน” นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าว

นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวทิ้งท้ายว่า นี่คือการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เสียชีวิตเป็นหมื่น ป่วยเป็นแสน หลายประเทศให้ความร่วมมือ มีความสามัคคี อยาางประเทศจีนที่ก้าวข้ามและไปช่วยประเทศอื่นต่อไป ซึ่งเป็นมิตรภาพที่ดี ตอนนี้ทั่วโลกรวมพลังกัน โดยเฉพาะประเทศไทยที่มีความร่วมมือและเห็นความเข้มแข็มของแต่ละจังหวัด และฝากในมิติของครอบครัวที่จะต้องมีความเข้มแข็งมากกว่านี้ในการรักษาระยะห่างทางสังคม แต่ความผูกพันที่ดีทางสังคม หรือทางจิตใจที่ดี ก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ทุกคนสู้กับโควิด-19 และก้าวผ่านสถานการณ์นี้ไปได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 12.30 น. คาดว่าติดตามและสั่งการให้หน่วยงานที่รับผิดชอบติดตามรับมือต่อสถานการณ์โควิด-19 และชมการแถลงข่าวของ ศบค.เสร็จสิ้นแล้ว จึงเดินทางกลับ.-สำนักข่าวไทย       

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เก๋งซิ่งแหกโค้งชนเสาเหล็ก ไฟลุกไหม้คลอกคนขับดับสลด

ลพบุรี 6 มิ.ย. – เก๋งหรูซิ่งเสียงดังลั่น หมุนโชว์กลางสี่แยก ก่อนแหกโค้งชนเสาเหล็กป้ายข้างทางไฟลุกไหม้เสียหายทั้งคัน คลอกคนขับดับสลด เมื่อเวลา 03.30 น.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ชาตรี ทรัพย์นิยมพงศ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี รับแจ้งรถเก๋งชนเสาข้างถนน ไฟลุกไหม้ทั้งคัน บนถนนทางเข้าบ้านหนองน้ำทิพย์ หมู่ 7 ต.เขาพระงาม อ.เมืองลพบุรี พร้อมแจ้งรถน้ำดับเพลิงป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลเขาพระงาม รุดไปดับไฟ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบ จุดเกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้โหมทั่วไปทั้งคันรถ สังเกตดูเบื้องต้นคนขับติดอยู่ที่เบาะนั่งสภาพหมดสติ เจ้าหน้าที่เร่งระดมฉีดน้ำใช้เวลาประมาณ 15 นาที เพลิงสงบ จากการตรวจสอบด้านซ้ายรถชนอัดอยู่กับเสาเหล็กป้ายบอกทาง สภาพเหลือแต่ซาก เบื้องต้นพบเป็นรถเก๋งยี่ห้อยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ไม่ทราบสี-ทะเบียน ถูกไฟไหม้ เหลืออยู่ครึ่งป้าย ภายในรถพบร่างชายถูกไฟไหม้เกรียม ยังไม่ทราบชื่อว่าเป็นใครมาจากไหน สอบถามนางเล็ก ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองนั่งเฝ้าเครื่องสูบน้ำใกล้จุดเกิดเหตุ ได้ยินเสียงรถเก๋งคันดังกล่าวขับซิ่งมาจากแยกเขาพระงาม มุ่งหน้าไปทางโคกสำโรง เสียงท่ออย่างดังลั่น พอมาถึงสามแยกบ้านหนองน้ำทิพย์ ได้หมุนโชว์กลางแยก 1 รอบ จากนั้นขับไปยูเทิร์นกลับมาอีกรอบ เลี้ยวเข้าทางแยกหนองน้ำทิพย์ได้ประมาณ 300 เมตร […]

ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงิน 12 ล้าน วางทิ้งข้างถังขยะ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงินสด 12 ล้าน ในกล่องพลาสติก วางทิ้งข้างถังขยะคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จากกรณีพลเมืองดีพบธนบัตรไทยจำนวนมาก ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติก บริเวณคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเอกสารเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายและซองจดหมาย ปรากฏชื่อบุคคลและหน่วยงานรัฐในเอกสาร จึงได้ยึดธนบัตรดังกล่าวมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเงินอะไร ได้มาถูกต้องหรือไม่ และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เบื้องต้นพบเป็นเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท และเมื่อเจ้าหน้าที่นำสายรัดของธนบัตรดังกล่าวไปตรวจสอบ พบว่ามีการจ่ายเงินออกมาจำนวนดังกล่าวตั้งแต่ปี 2563    พลเมืองดีเล่าว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ของเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ตนและเพื่อนเดินไปลิฟต์ที่ชั้น 4 ซึ่งข้างลิฟต์เป็นที่ทิ้งขยะ เห็นกล่องสภาพดีวางอยู่ ก็จะเก็บไปใช้ ซึ่งกล่องถูกเปิดแง้มเอาไว้และมีเสื้อผ้าวางทับด้านบน จึงเปิดดูพบเงินสดฉบับละ 1,000 บาท เป็นมัดๆ จำนวนมาก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ความคืบหน้าในการติดตามหาตัวคนที่นำกล่องเงินมาทิ้ง ตำรวจสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดที่พบเพื่อหาเบาะแสคนที่นำกล่องพลาสติกมาทิ้ง เบื้องต้นยังไม่พบผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้ยังได้พยายามติดต่อกับ นายทวีวัฒน์ […]

น้ำมันรั่วลงทะเล

สั่งเจ้าท่าระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar

ชลบุรี 6 มิ.ย.- “มนพร” สั่งการกรมเจ้าท่าตั้งศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาและควบคุมสถานการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar บริเวณท่าเรือบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ศรีราชา จังหวัดชลบุรี นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการให้ นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน เพื่อ ระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันดิบสัญชาติสิงคโปร์ หมายเลข IMO 9828962 โดยเหตุเกิดบริเวณทุ่นรับน้ำมันกลางทะเล (SBM2) ของบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ในเขตพื้นที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.54 น. โดยมีสาเหตุมาจากท่อส่งน้ำมันที่ชำรุด ส่งผลให้น้ำมันดิบรั่วไหลลงสู่ทะเลในปริมาณประมาณ 20 คิว หรือราว 20 ตัน กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการประเมินสถานการณ์โดยเร่งดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานฯ ณ โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทไทยออยล์ จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นศูนย์กลางในการควบคุมเหตุการณ์ ทั้งนี้กรมเจ้าท่าในฐานะเลขานุการศูนย์ประสานงาน ได้ประสานกองทัพเรือจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ในการขจัดคราบน้ำมัน จากการสำรวจพื้นที่ พบว่าลักษณะของคราบน้ำมันเป็นคราบสีดำหรือน้ำตาลบาง ๆ […]

นักศึกษาเจอคอลเซ็นเตอร์ปั่นหัวถือมีดบุกโรงพัก

เชียงใหม่ 5 มิ.ย. – แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักศึกษาเชียงใหม่ สูญกว่า 2 ล้านบาท พ่อแม่เครียดหมดเนื้อหมดตัว บางรายถูกปั่นหัวให้ถือมีดบุกโรงพักเย้ยตำรวจ พบเฉพาะ สภ.ภูพิงค์ฯ มีเหยื่อโดนหลอกลักษณะนี้แล้วกว่า 300 ราย กล้องวงจรปิดบันทึกภาพนักศึกษาสาว ชั้นปีที่ 4 ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดภายใน สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นเดินไปเข็นวีลแชร์ที่อยู่ตรงหัวมุมอาคาร แล้วก็เข็นไปเข็นมาอยู่อย่างนั้น ก่อนจะถือมีดไปที่บริเวณห้องรับแจ้งความ และอ้างว่า จะมาขอพบตำรวจนายหนึ่ง แต่ไม่มีชื่อนี้อยู่ที่โรงพัก จึงขอพบ พันตำรวจเอก มนัสชัย อินทร์เถื่อน ผู้กำกับ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ เพราะไปฆ่าคนตายมา ขณะนั้น ตำรวจสืบสวนสังเกตเห็นว่า นักศึกษาสาวมีท่าทางหวาดระแวงใส่หูฟังเหมือนกับทำตามคำสั่งใครสักคนที่สั่งการจากปลายสาย ด้านตำรวจจึงชวนพูดคุยสอบถามสักพัก จนยอมวางมีดลง จากนั้น ตำรวจจึงขอให้ดึงหูฟังออก ปรากฏว่า นักศึกษาสาวกลับได้สติขึ้นมาว่า ชายที่สั่งการทางโทรศัพท์ไม่ใช่ตำรวจจริง เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สั่งให้มาป่วนตำรวจ เนื่องจากไม่มีเงินโอนให้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจจึงตรวจสอบพบว่า ในวันเดียวกัน […]

ข่าวแนะนำ

ลอบวางระเบิด 2 จุด กลางตลาดโต้รุ่งเมืองปัตตานี

ปัตตานี 8 มิ.ย. – คนร้ายลอบวางระเบิดกลางตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี รถจักรยานยนต์เสียหาย 2 คัน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต วันที่ 8 มิ.ย.68 เวลา 20.00 น. เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มจำนวน ลอบวางระเบิดแสวงเครื่อง จำนวน 2 ลูก โดยจุดแรก วางระเบิดในถังขยะ หน้าร้านทอง บริเวณตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต รถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหาย จำนวน 2 คัน และจุดที่ 2 วางระเบิดในถังขยะ บริเวณในซอยข้างโรงแรม หลังตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต การก่อเหตุครั้งนี้ คาดว่าเป็นการก่อเหตุเพื่อสร้างสถานการณ์ให้เกิดขึ้นในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ตามข้อมูลข่าวสารที่หน่วย ส.จว.ปัตตานี ได้ออกข่าวแจ้งเตือนไปแล้ว เมื่อวันที่ 26 พ.ค.68 เวลา 15.00 น. ปรากฏข่าวสารว่า นายมะกอเซ็ง หม้าแอ สมาชิก ผกร.ระดับปฏิบัติการ และสมาชิกจำนวน […]

นายกฯ เผยหารือกัมพูชา ตกลงปรับกำลังทหารทั้ง 2 ฝ่าย ลดเผชิญหน้า

ทำเนียบรัฐบาล 8 มิ.ย. – นายกฯ เผยหารือกับรัฐบาลกัมพูชา ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดการเผชิญหน้า เดินหน้าใช้กลไก JBC 14 มิ.ย.นี้ นำพาความสัมพันธ์เข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ความพยายามคลี่คลายสถานการณ์ความขัดแย้งตามแนวชายแดน โดยการปฏิบัติงานของทั้งระดับนโยบาย โดยรัฐบาล ฝ่ายความมั่นคง กองทัพ กระทรวงการต่างประเทศ และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีพัฒนาการในทางที่ดีขึ้นเป็นลำดับค่ะ ดิฉันได้หารือกับรัฐบาลกัมพูชา มีข้อสรุปที่ส่งผลดีต่อสถานการณ์ โดยทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร ณ จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดบรรยากาศการเผชิญหน้า และจะพัฒนาความร่วมมือโดยใช้กลไก JBC ในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ และจะมีการพูดคุยกันในทุกระดับ เพื่อนำพาความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วค่ะ ขอให้พี่น้องประชาชนติดตามสถานการณ์และข้อเท็จจริงจากรัฐบาล พร้อมทั้งเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานจนประสบผลสำเร็จต่อไป สุดท้ายนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนได้โปรดคลายความกังวล และมีความมั่นใจในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลว่า จะไม่มีเหตุกระทบกระทั่งที่รุนแรงเกิดขึ้นแน่นอนค่ะ.-316-สำนักข่าวไทย

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งกองกำลังสุรนารี ปรับเวลาเปิด-ปิด จุดผ่านแดนกัมพูชา 

8 มิ.ย.- เกาะติดสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา แม่ทัพภาค 2 ลงนามคำสั่งให้อำนาจผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี พิจารณาปรับเวลาเปิด-ปิด ด่านถาวรและจุดผ่อนปรนการค้า 4 ด่าน มีผลทันทีเมื่อคืนนี้ กองทัพภาคที่ 2 ออกหนังสือคำสั่ง การควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ตามคำสั่งกองทัพบก เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ให้กองทัพภาคที่ 2 โดยกองกำลังกำลังสุรนารีมีอำนาจการควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี วิธีการและเงื่อนไขหรือเงื่อนเวลา ที่จำเป็นเหมาะสม ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ดังนี้