โฆษก ศบค.ย้ำสงกรานต์งดเล่นน้ำทุกกรณี พบผู้ป่วยรายใหม่ 33 ราย

ทำเนียบฯ 12 เม.ย.-นายแพทย์ทวีศิลป์ แถลงข่าว ศบค. แนะช่วงเทศกาลสงกรานต์ งดเล่นน้ำทุกกรณีเพราะเป็นแหล่งแพร่เชื้อ และงดขอพรพ่อแม่ ญาติผู้ใหญ่ ขอสร้างระยะห่าง 1-2 เมตร แนะใช้วิธีสรงน้ำพระแทน  ระบุพบมีผู้ป่วยใหม่ 33 ราย  รวมติดเชื้อสะสม 2,551 กระจายอยู่ใน 68 จังหวัด รักษาหาย 83 ราย หายสะสม 1,218 มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 3 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 38 ราย และยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 1,295 คน


นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดในวันอาทิตย์ที่ 12เมษายน 2563  ว่าในช่วงนี้เป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ ก็ขอให้ทุกคนอยู่ที่บ้าน ขณะที่สถานการณ์การติดเชื้อประเทศไทยอยู่ในอันดับที่  47 ของโลก  วันนี้พบมีผู้ป่วยใหม่ 33 ราย  รวมติดเชื้อสะสม 2,551 กระจายอยู่ใน 68 จังหวัด รักษาหาย 83 ราย หายสะสม 1,218 มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 3 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 38 ราย และยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 1,295 คน

โฆษก ศบค. กล่าวว่า จากตัวเลขผู้ป่วยใหม่ 33 รายนี้มีความรู้สึกดีใจที่ตัวเลขลดลง และพอใจที่มีตัวเลขที่ดีในช่วงปีใหม่ไทยนี้ด้วย แต่สถานการณ์ทั่วโลกยังคงไม่น่าสบายใจ เพราะมีตัวเลขที่สูงขึ้นอยู่ อย่างต่อเนื่อง โดยความเสี่ยงปัจจัยเสี่ยงของผู้ติดเชื้อจำนวน 33 คน วิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ติดเชื้อ พบว่า กลุ่มแรก15 คนเกี่ยวข้องกับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในสถานบันเทิง และ 7 รายเชื่อมโยงกับการรักษาผู้ป่วย กลุ่มของบุคลากรทางการแพทย์ และการใช้ชีวิตส่วนตัวในแต่ละวัน ที่มีการสัมผัสกัน จึงต้องหาวิธีการในการป้องกันคนที่เป็นกลุ่มของบุคลากรทางการแพทย์ในอนาคต และที่น่ากังวลคือผู้ที่มีอาการในสถานที่กักตัวที่มีตัวเลขเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ ที่ไปประกอบศาสนกิจมา ที่ยังมีการกระจายกันอยู่ในแต่ละจังหวัดที่เป็นการสะสม 


“สำหรับผู้เสียชีวิต 3 ราย รายแรกเป็นผู้ป่วยชายไทย อายุ 74 ปี ไปสถานที่ชุมชนตลาดนัดและมีการรวมกลุ่มกันของบุคคลในบ้าน  ซึ่งได้มีอาการป่วย ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. ส่วนรายที่ 2  เป็นหญิงไทยอายุ  65 ปี เป็นโรคอ้วน ไปเยี่ยมญาติที่ชุมพร และมีอาการไข้จากนั้น 5 วัน โดย 11-31 มี.ค. มีอาการไข้ เพลียเหนื่อยหอบตามมาก่อนจะไปตรวจมีอาการหนักขึ้นพบว่าติดโควิด-19 และอาการแย่ลงจนเสียชีวิต ซึ่งถือว่ามาช้าไป จึงทำให้รักษาไม่ทัน ส่วนรายที่ 3 เป็นชายไทยอายุ 44 ปี รับส่งต่อจากโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม แต่แรกได้ทำการรักษาโดยใช้ยาหลายชนิดและก็พยายามที่จะดูแลทั้งระบบของร่างกาย และพบอวัยวะภายในล้มเหลว ต้องล้างไตหลายครั้ง แต่อาการไม่ดีขึ้น และเสียชีวิตวันนี้ (วันที่ 12 เม.ย. ) เมื่อ 7 โมงเช้าที่ผ่านมา จึงขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวที่เสียชีวิตทั้ง 3 ราย” นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าว

นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับ 9 จังหวัด ที่ยังไม่มีรายงานการรับรักษาผู้ป่วยโควิด-19 คือ จังหวัดกำแพงเพชร ,ชัยนาท ,ตราด,น่าน ,บึงกาฬ ,พิจิตร ,ระนอง ,สิงห์บุรี ,อ่างทอง โดยจังหวัดที่เป็นสถานที่กักกันตัว หรือ state quarantine จะมีตัวเลขที่สูงขึ้น ซึ่งไม่ได้อยู่ที่การดูแลดีหรือไม่ดีจังหวัดนั้น ๆ  แต่เป็นหน้าที่ที่ต้องดูแลคนไทยอย่างดีที่สุด ส่วนการเปิดประเทศหรือเปิดน่านฟ้าไทยเมื่อใดนั้น  จะต้องประเมินจากสถานการณ์ของประเทศเพื่อนบ้านและสถานการณ์โลกด้วย 

โฆษก ศบค. กล่าวว่า เมื่อดูสถิติผู้ติดเชื้อเป็นรายสัปดาห์จะพบว่าในสัปดาห์ที่ 15 มีผู้ติดเชื้อเพิ่มรวม 383 ราย ซึ่งลดลงจากเมื่อสัปดาห์ที่14 ที่มียอดผู้ป่วยใหม่ 724 ราย  เกือบครึ่งหนึ่ง ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่น่าพอใจ แต่อย่าประมาทเพราะในประเทศเพื่อนบ้านอย่างประเทศ มาเลเซียมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นสูง 184 ราย ฟิลิปปินส์ 233 ราย ขณะที่สิงคโปร์ 191 ราย ส่วนอินโดนีเซียที่มีคนไทยไปร่วมกิจกรรมและกลับมา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ถึง 330 ราย ดังนั้นคนไทยที่เดินทางกลับมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงจะต้องเข้าสู่ระบบประกันตัวและติดตามอาการอย่างใกล้ชิด 


นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับตัวเลขผู้ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ออกนอกเคหสถาน และฝ่าฝืนเคอร์ฟิวมี 926 ราย ซึ่งส่วนใหญ่มีสาเหตุจากการดื่มสุราจนกลับบ้านไม่ทัน ถูกดำเนินคดี 752 ราย ตักเตือน 174 คน ขณะที่ผู้ที่ฝ่าฝืน มีการชุมนุม มั่วสุม ลดน้อยลง มีการจับกุมมั่วสุม 58 รายและถูกดำเนินคดีทุกคน  ทั้งนี้เมื่อคืนที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีได้ไปตรวจด่านความมั่นคง ในช่วงเวลาเคอร์ฟิว เพื่อติดตามการทำงานและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ ซึ่งการรายงานให้ทราบนี้เป็นหน้าที่ของตน เพราะทุกคนล้วนมีหน้าที่ของตัวเอง 

เมื่อถามว่าตัวเลขผู้ป่วยที่สนามมวยลดน้อยลง หรือมาจากการทำงานของเจ้าหน้าที่ นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวว่า หลังจากที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินมาแล้ว 9 วัน ตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน  เป็นเพราะมาตรการที่เข้มงวดและการให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องโรคนี้มากขึ้น ใน 9 วันที่ผ่านมา มีมาตรการที่ดีเข้มข้นและมีโครงสร้างสาธารณสุข การอนามัย ความมั่นคง สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เกิดขึ้นอย่างเป็นกระบวนการและประชาชนให้ความร่วมมือ

เมื่อถามถึงการงดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ เหตุใดไม่ประกาศพร้อมกันทั่วประเทศ โฆษก ศบค. กล่าวว่า ล่าสุดตอนนี้ประกาศ 73 จังหวัดแล้ว ที่ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ ซึ่งจังหวัดที่เหลือตอนนี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ศบค.และ มท. ที่จะหามาตรการรองรับด้วย ทั้งนี้ขอความร่วมมือประชาชน งดดื่มแอลกอฮอล์ให้ลดน้อยลง เพื่อลดปัญหาอุบัติเหตุให้ลดน้อยลงด้วย 

เมื่อถามถึงมาตรการห่างผู้สูงอายุ 1-2 เมตร และการรดน้ำดำหัว รวมถึงการสาดน้ำในบ้านทำได้หรือไม่ นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวว่า ห้ามทำ เพราะการฉีดน้ำ สาดน้ำ เป็นแหล่งพาหะของเชื้อโรค จะฟุ้งกระจายออกไป เจ้าหน้าที่ไม่สามารถจับได้ทั้งหมด แต่ต้องขอความร่วมมือทุกคนให้ปฎิบัติอย่างเคร่งครัด รวมทั้งหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอลล์ด้วย 

“ในช่วง 7 วันอันตราย เทศกาลสงกรานต์ 2563 นี้ หากจะต้องเดินทางกลับภูมิลำเนา กลุ่มอายุ 20-29 ปี , 30-39 ปี , 40-49 ปี จะต้องห่างกับผู้สูงอายุอย่างน้อย 2 เมตรทุกวัน และงดการรดน้ำอวยพรโดยเด็ดขาดเพราะหากเป็นพาหะนำเชื้อไปส่งต่อให้กับญาติผู้ใหญ่ได้ รวมถึงห้ามกิจกรรมรดน้ำ-เล่นน้ำทุกกรณี แม้จะอยู่ภายในบ้าน เพราะจะนำพาเชื้อโรคไปสู่อีกคนก็ได้ ซึ่งในกรณีนี้อาจนำพาเชื้อโรคไปไกลกว่าระยะ 2 เมตร ทั้งนี้ในช่วงเทศกาลนี้จึงขอให้ใช้วิธีสรงน้ำพระแทน” นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าว

นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวทิ้งท้ายว่า นี่คือการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เสียชีวิตเป็นหมื่น ป่วยเป็นแสน หลายประเทศให้ความร่วมมือ มีความสามัคคี อยาางประเทศจีนที่ก้าวข้ามและไปช่วยประเทศอื่นต่อไป ซึ่งเป็นมิตรภาพที่ดี ตอนนี้ทั่วโลกรวมพลังกัน โดยเฉพาะประเทศไทยที่มีความร่วมมือและเห็นความเข้มแข็มของแต่ละจังหวัด และฝากในมิติของครอบครัวที่จะต้องมีความเข้มแข็งมากกว่านี้ในการรักษาระยะห่างทางสังคม แต่ความผูกพันที่ดีทางสังคม หรือทางจิตใจที่ดี ก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ทุกคนสู้กับโควิด-19 และก้าวผ่านสถานการณ์นี้ไปได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 12.30 น. คาดว่าติดตามและสั่งการให้หน่วยงานที่รับผิดชอบติดตามรับมือต่อสถานการณ์โควิด-19 และชมการแถลงข่าวของ ศบค.เสร็จสิ้นแล้ว จึงเดินทางกลับ.-สำนักข่าวไทย       

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

โฆษก ทบ.ลั่น หยุดยิงไม่ได้ “กัมพูชา” เปิดฉากยิงทหารไทยแต่เช้าตรู่

กทม. 27 ก.ค.-โฆษก ทบ.ลั่น หยุดยิงไม่ได้ กัมพูชาโจมตีทหารไทยแต่เช้าตรู่ หลัง “ทรัมป์” ขอให้หยุดยิง พบบ้านเรือนประชาชนเสียหายจากจรวดBM-21 เมื่อวันที่ 27 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณี โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ หารือ นายกฯ กัมพูชา และนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกฯ หากไม่หยุดยิงจะไม่เจรจาเรื่องภาษีสหรัฐนั้น ว่า กัมพูชายังไม่หยุดยิง และยังตอบโต้มาอยู่ตั้งแต่เช้าตรู่ของวันนี้ มีจรวดตกนอกเขตปฏิบัติการทางทหารในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ เมื่อเวลา 04.30 น. ทหารกัมพูชาได้เปิดฉากยิงทหารไทย ด้วยเครื่องยิงจรวดบีเอ็ม-21 แต่ด้วยเป้าหมายของทางกัมพูชาไม่ใช่พื้นที่ทางทหาร แต่เป็นบ้านเรือนประชาชน รวมถึงสถานพยาบาล และชุมชน โดยเมื่อ เวลา 06.30 น. กระสุนปืนใหญ่ (ไม่ทราบชนิด) ตกบริเวณพื้นที่ บ้านตาโสร์ ม.10 ต.บ้านพลวง อ.ปราสาท จ.สรินทร์ […]

“ภูมิธรรม” เผยเห็นชอบข้อเสนอ “ทรัมป์” แต่กัมพูชาต้องจริงใจหยุดยิง

กรุงเทพฯ 27 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เผยคุย “ทรัมป์” เห็นชอบข้อเสนอหยุดยิง แต่ต้องการเห็นความตั้งใจจริงของกัมพูชาและเร่งหารือทวิภาคี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านfacebook Phumtham Wechayachai เมื่อคืนวานนี้ (27 ก.ค.) ว่า ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้เสนอให้ประเทศไทยและกัมพูชาดำเนินการหยุดยิงโดยทันที เพื่อยุติความขัดแย้งที่กำลังเกิดขึ้นบริเวณชายแดน ฝ่ายไทยได้แสดงความขอบคุณต่อความห่วงใยและความปรารถนาดีจากสหรัฐฯ พร้อมยืนยันว่า “ในหลักการ ฝ่ายไทยเห็นชอบต่อการหยุดยิง” อย่างไรก็ดี ไทยยังต้องการเห็น “ความตั้งใจจริงของฝ่ายกัมพูชาในเรื่องดังกล่าว” ไทยจึงได้ขอให้สหรัฐฯ ช่วยถ่ายทอดจุดยืนนี้ไปยังกัมพูชา โดยเสนอให้มีการหารือแบบทวิภาคีโดยเร็วที่สุด และให้กัมพูชาแสดงความจริงจังและจริงใจ เพื่อกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนในการหยุดยิง ซึ่งจะนำไปสู่การยุติข้อพิพาทอย่างสันติและยั่งยืนในระยะยาว การเจรจาดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางความพยายามของนานาชาติในการไกล่เกลี่ยความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนทั้งสองประเทศอย่างรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา สำหรับข้อความที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Phumtham Wechayachai ระบุว่า “เมื่อครู่ที่ผ่านมา ผมได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้เสนอให้ประเทศไทยและกัมพูชาดำเนินการหยุดยิงโดยทันที ผมได้กล่าวขอบคุณต่อความห่วงใยและความปรารถนาดีของฝ่ายสหรัฐฯ และยืนยันว่า […]

ไทยตอนบน ยังมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ-อีสาน

กทม. 27 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบน ยังมีฝนตกหนักบางแห่ง และฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือและอีสาน ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร และนครพนม ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน และอ่าวตังเกี๋ย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. […]

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย