หลายจังหวัดประกาศห้ามขายเหล้า-ห้ามเล่นสงกรานต์

ภูมิภาค 10 เม.ย. -กาฬสินธุ์ ลำปาง ศรีสะเกษ สงขลา อุดรฯ ประกาศห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์-ห้ามเล่นสงกรานต์ ป้องกันโควิด-19 แพร่ระบาด ล่าสุดมี 30 จังหวัด ประกาศห้ามขายเหล้า-เบียร์


นายชัยธวัช เนียมศิริ ผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์ แถลงยกระดับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ประกาศสั่งห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เริ่มพรุ่งนี้ถึง 17 เมษายน พร้อมห้ามเล่นสาดน้ำ และงดจัดงานสงกรานต์ทุกระดับเด็ดขาด ผู้ใดฝ่าฝืนจะได้รับโทษตามกฎหมาย เนื่องจากคาดว่าในช่วงสงกรานต์ 7 วันอันตราย จะมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาอีกจำนวนหนึ่ง มาตรการดังกล่าวจะช่วยป้องกันการรวมกลุ่มญาติเพื่อนฝูงพบปะสังสรรค์นั่งล้อมวงดื่ม นอกจากนี้ น้ำและความชื้นจากน้ำเป็นตัวนำเชื้อไวรัสให้แพร่กระจายได้ง่าย ดังนั้นให้งดเล่นสาดน้ำ งดการจัดงานสงกรานต์ในทุกระดับ งดการรดน้ำขอพรญาติผู้ใหญ่ทุกกรณีอย่างเด็ดขาด เว้นระยะห่างด้วยการงดเข้าร่วมกิจกรรมที่มีการรวมตัวกันของคนหมู่มาก โดยให้ประชาชนสืบสานเทศกาลสงกรานต์ด้วยการสรงน้ำพระพุทธรูปที่บ้าน ขอพรพ่อแม่ญาติผู้ใหญ่ ด้วยการกราบไหว้เว้นระยะห่าง 1-2 เมตร 


สำรวจบรรยากาศในจังหวัดบรรดาผู้สูงอายุ สุดเหงาใจ วิกฤติโควิด-19 ทำให้ลูกหลานที่ไปทำงานต่างถิ่น ไม่ได้กลับมาเยี่ยมบ้านในช่วงสงกรานต์ โดยนายไสว ทับธานี อายุ 76 ปี ชาวบ้านอำเภอยางตลาด กล่าวว่าอยู่บ้านคนเดียว ปกติในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ลูกสาว ลูกชาย จะพาลูกหลานมาเยี่ยม มีเสื้อผ้าตัวใหม่มาฝาก ร่วมทำบุญตามประเพณี แต่ปีนี้ ทางการห้ามเคลื่อนย้ายบุคคล งดการเดินทาง และข้อห้ามต่างๆ ได้แต่ส่งความคิดถึง และโทรศัพท์ติดต่อ ปลอบใจและให้กำลังใจกัน ส่วนนายนิวาส คำฤาเดช อายุ 67 ปี ชาวอำเภอยางตลาด อีกคน บอกว่า ลูกสาวและลูกเขยทำงานที่กรุงเทพ และตกงานขาดรายได้ จึงเดินทางกลับมาเยี่ยมบ้านไม่ได้ ด้วยความรักลูกจึงได้แต่ส่งอาหารแห้ง ข้าวสารไปให้ 

เช่นเดียวกับจังหวัดลำปาง ได้ประกาศขอให้ผู้ที่มีใบอนุญาต งดขายเหล้าเบียร์ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ถึงวันที่ 15 เมษายน รวมทั้งงดการรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุปีใหม่เมือง หรือการร่วมกลุ่มตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ลักษณะรวมตัวสังสรรค์ดื่มเหล้าเบียร์ทุกประเภท และการชุมนุมในสถานที่แออัดต่างๆ ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามจะมีโทษตามกฎหมายตามมาตรา 18 ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน



ศรีสะเกษห้ามขายเหล้า 11–30 เม.ย. และให้ใส่หน้ากากเมื่อออกนอนบ้าน 

นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่าจังหวัดศรีสะเกษยังมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้น และยังคงต้องเฝ้าระวังสถานการณ์การแพร่ระบาดอย่างใกล้ชิด จึงจำเป็นต้องใช้มาตรการเฝ้าระวัง ควบคุม และป้องกันอย่างเข้มข้น รวมถึงลดปัจจัยเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุทางถนนของประชาชนโดยส่วนรวม จึงออกคำสั่งให้ปิดสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่ของโรคติดต่ออันตราย ได้แก่ ร้านค้า หรือสถานประกอบการขายสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด ตั้งแต่ 11-30 เมษายน 2563 โดยสามารถจำหน่ายสินค้าประเภทอื่นได้ ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 

“และในการประชุมของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดศรีสะเกษ ได้มีคำสั่งให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ต้องสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าทุกครั้งก่อนออกจากเคหสถาน หรือเดินทางไปในสถานที่สาธารณะหรือสถานที่ใดๆ สำหรับบุคคลซึ่งอยู่ในเคหสถาน ร้านค้า หรือในสถานที่ใดๆ ที่ต้องติดต่อกับบุคคลอื่น ต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกครั้ง ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท”

สงขลาห้ามขายเหล้า 12–19 เม.ย. ห้ามเล่นสงกรานต์-ออกจากบ้านต้องใส่แมสก์

นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ประชุมพิจารณาแนวทางการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยมีมติออกคำสั่งรวดเดียว 3 ฉบับ ได้แก่ คำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสงขลา เรื่องให้ประชาชนในพื้นทีจังหวัดสงขลาสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกครั้งเมื่องออกจากเคหสถาน หากฝ่าฝืนโทษปรับ หรือจำคุก หรือทั้งจำทั้งปรับ ตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน 2563 เป็นต้นไป

คำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสงขลาที่ 17/2563 เรื่อง มาตรการในการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ช่วงเทศกาลสงกรานต์ในเขตพื้นที่จังหวัดสงขลา ห้ามจัดงานสงกรานต์ทุกระดับ และห้ามเล่นสงกรานต์ เช่น ฉีดน้ำ สาดน้ำ พ่นน้ำ ประแป้งในที่สาธารณะ หรือห้ามใช้รถยนต์ เปิดท้ายกระบะนำถังน้ำใส่ท้ายกระบะเล่นสงกรานต์บนถนนเป็นต้น ฝ่าฝืนมีโทษปรับ หรือจำคุก หรือทั้งจำทั้งปรับ

และคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสงขลา ฉบับที่ 18/2563 เรื่อง การปิดพื้นที่หรือบริเวณจำหน่ายสุรา หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และห้ามจำหน่ายสุรา เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด โดยให้มีผลตั้งแต่ วันที่ 12–19 เมษายน 2563 เป็นต้นไป หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง อาจเป็นความผิดตามมาตรา 52 แห่ง พระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท และอาจเป็นความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

อุดรธานีประกาศห้ามซื้อขายเหล้า 11–30 เม.ย.


ผู้ว่าฯ อุดรธานี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ทั้งนี้สถานการณ์โควิด-19 อุดรธานีมีผู้ป่วยติดเชื้อสะสม 8 คน เป็นอันดับที่ 29 ของประเทศ โดยคณะกรรมการฯเป็นห่วงเทศกาลสงกรานต์ แม้จะทางราชการจะยกเลิกจัดงาน และขอความร่วมมือไปแล้ว แต่เพราะเป็นประเพณีสืบต่อกันมานาน เกรงว่ายังจะมีการเล่นน้ำ รวมกันเป็นกลุ่ม จึงออกคำสั่งห้ามเล่นน้ำสงกรานต์ และห้ามจำหน่าย จ่าย แจก สุรา เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด ตลาด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (11 เม.ย.) ถึง 30 เมษายน นอกจากนี้ยังมีมติให้ปรับปรุงโรงพยาบาลสนามหอพักมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ให้พร้อมรองรับบุคคลที่ทางการให้กักตัวตามมาตรการ 14 วัน โดยส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ โดยใช้งบประมาณราว 6 ล้านบาท 

ปัจจุบันมีจังหวัดที่ออกมาตรการห้ามจำหน่ายสุราและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด 30 จังหวัด ได้แก่ 

1.สกลนคร ตั้งแต่วันที่ 31 มี.ค. ถึง 16 เม.ย. 2563

2.ลำพูน ตั้งแต่วันที่ 1-30 เม.ย. 2563

3.พิษณุโลก ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2563 จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง

4.ระยอง ตั้งแต่วันที่ 2-15 เม.ย. 2563

5.สมุทรสงคราม ตั้งแต่วันที่ 2-30 เม.ย. 2563

6.สุรินทร์ ตั้งแต่วันที่ 2-30 เม.ย. 2563

7.บุรีรัมย์ ตั้งแต่วันที่ 2-30 เม.ย. 2563

8.นครปฐม ตั้งแต่วันที่ 2-30 เม.ย. 2563

9.สุพรรณบุรี ตั้งแต่วันที่ 4-30 เม.ย. 2563

10.มุกดาหาร ตั้งแต่วันที่ 6-30 เม.ย. 2563

11.กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันที่ 10-20 เม.ย. 2563

12.เชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 10-20 เม.ย. 2563

13.ปราจีนบุรี ตั้งแต่วันที่ 10-20 เม.ย. 2563

14.สมุทรสาคร ตั้งแต่วันที่ 10-20 เม.ย. 2563

15.ชัยนาท ตั้งแต่วันที่ 3-30 เม.ย.2563

16.ประจวบคีรีขันธ์ ตั้งแต่วันที่ 9- 30 เม.ย.2563

17.อุบลราชธานี 10-30 เม.ย.2563

18.ยโสธร ตั้งแต่วันที่ 11-17 เม.ย.2563

19.สุราษฎร์ธานี ตั้งแต่วันที่ 11 -17 เม.ย.2563

20.ชัยภูมิ ตั้งแต่วันที่ 11-20 เม.ย.2563

21.แพร่ ตั้งแต่วันที่ 11-20 เม.ย.2563

22. สมุทรปราการ ตั้งแต่วันที่ 11-20 เม.ย.2563

23 ลพบุรี ตั้งแต่วันที่ 12-16 เม.ย.2563

24.อุดรธานี ตั้งแต่วันที่ 11-30 เม.ย.2563

25.ปทุมธานี ตั้งแต่วันที่ 11-19 เม.ย.2563

26.ศรีสะเกษ ตั้งแต่วันที่ 11-30 เม.ย.2563

27.ลำปาง ตั้งแต่วันที่ 11-15 เม.ย.2563

28.กาฬสินธุ์  ตั้งแต่วันที่ 11-17 เม.ย.2563

29. สงขลา ตั้งแต่วันที่ 12-19 เม.ย.2563

30. ภูเก็ต 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดชื่อ “73 อรหันต์” ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ 69 ประชุมนัดแรก 9 มิ.ย.

รัฐสภา 31 พ.ค. – เปิดชื่อ “73 อรหันต์” ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 69 ประชุมนัดแรก 9 มิ.ย.นี้ เคาะประธาน-รองประธาน วางกรอบการทำงาน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 จำนวน 73 คน ประกอบด้วย สัดส่วนคณะรัฐมนตรี (ครม.) จำนวน 18 คน คือ 1. นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง 2. นายจักรพงษ์ แสงมณี 3. นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง 4. นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม 5. นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ 6. นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ […]

สภาวุ่น! งูเห่าไทยสร้างไทย เสนอชื่อ กมธ.งบฯ แข่ง

รัฐสภา 31 พ.ค.- สภาวุ่น! งูเห่าไทยสร้างไทย เสนอชื่อ กมธ.งบฯ แข่ง ประธานสั่งพักประชุม 5 นาที สุดท้ายงูเห่ายอมถอย ไปอยู่สัดส่วน ครม.แทน การประชุมสภาผู้แทนราษฎรหลังที่ประชุมมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติพิจารณางบประมาณรายจ่ายงบประมาณ 2569 ในขั้นตอนการเสนอชื่อกรรมาธิการวิสามัญฯ จำนวน 73 คน ในสัดส่วนของพรรคไทยสร้างไทย จำนวน 1 คน โดยนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ประธานวิปฝ่ายค้าน และ สส.พรรคประชาชน ได้เสนอชื่อ นายชัชวาล แพทยาไทย ขณะที่นางสุภาพร สลับศรี สส.พรรคไทยสร้างไทย นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ ทำให้เกิดการประท้วงกันเนื่องจากมีการเสนอชื่อ 2 คน แต่ปกรณ์วุฒิ ยืนยันว่าพรรคไทยสร้างไทยมีหนังจากกรรมการบริหารพรรคว่าจะเสนอชื่อนายชัชวาล เป็นตัวแทนของพรรคทำให้นายฐากูร ยืนยันว่าที่ผ่านมาการเสนอชื่อบุคคลเป็นกรรมาธิการวิสามัญจะต้องถูกเสนอโดยคนของพรรคตัวเอง ไม่ใช่พรรคอื่น ซึ่งวันนี้พรรคไทยสร้างไทยเสนอชื่อตน แต่พรรคการเมืองอื่นเป็นเสนอชื่ออีกคน ทำให้นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ประธานในที่ประชุม วินิจฉัยว่า ใครจะเป็นผู้เสนอชื่อก็ได้ขอแค่มีผู้รับรอง ก่อนจะให้เวลาทั้ง 2 ฝ่ายหารือกัน […]

“ชาดา” ปลุกรัฐบาล ถ้าไม่แจกเงินหมื่น “นายกฯ เท้ง” มาแน่

รัฐสภา 31 พ.ค.-“ชาดา” ปลุกรัฐบาล ถ้าไม่แจกเงินหมื่น “นายกฯ เท้ง” มาแน่ ลั่นถ้าทำให้นายกฯ ไม่ได้ ก็เปลี่ยนตัว เอาคนอื่นไปนั่งแทน นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย อภิปรายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 1 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ วาระร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 นายชาดา กล่าวว่าในฐานะที่อยู่ในสภาฯ มาพอสมควร ขอชื่นชมฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลมีการพัฒนาในการอภิปรายอย่างมาก ปี 69 มีงบประมาณลงทุน 7 แสนล้านบาท คนพูดกันตลอดเวลาว่าทำไมช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวยในประเทศนี้จึงห่างขึ้นทุกวัน ยกตัวอย่าง ในงบลงทุนเป็นงบก่อสร้าง 4.75 แสนล้านบาท ซึ่งงบก่อสร้างไม่เหมือนในอดีตเพราะต้องถูกตัดไปให้ธนาคาร 5% จึงอยากให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเข้ามาดูเพราะเป็นการเอาเปรียบประชาชน ในจำนวนนี้มีค่าธรรมเนียม 2.5% ต่อปี นอกจากนี้ยังมีเรื่องเร่งรัดการเบิกจ่ายอีก 15% ซึ่งธนาคารตัดไป 3% และคิดค่าธรรมเนียมอีกต่างหาก นายชาดา กล่าวว่างบก่อสร้าง มีเครื่องจักรเหล็กหินวัสดุที่เป็นปูน หากเป็นงานถนนมีแรงงานเพียง 15% เงินส่วนนี้ไม่ได้ไปสู่ระบบข้างล่าง […]

ฝากขังพระเอกลิเกฆ่าลูกเลี้ยงป่วยออทิสติก

นครราชสีมา 30 พ.ค. – ตำรวจคุมตัวพระเอกลิเกฆ่าลูกเลี้ยงป่วยออทิสติก และขืนใจลูกวัย 11 ขวบ ฝากขังศาลจังหวัดนครราชสีมา อ้างวันเกิดเหตุถูกผู้ตายด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ด้วยความโมโหและมึนเมาสุรา จึงก่อเหตุ ความคืบหน้ากรณีพ่อเลี้ยงพระเอกลิเกสุดโหดใช้ค้อนสำหรับทุบหมู ทำร้ายลูกเลี้ยงนางเอกลิเกที่ป่วยเป็นโรคออทิสติก จนบาดเจ็บเลือดคั่งในสมอง ก่อนที่จะเสียชีวิตในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.นครราชสีมาบุกรวบตัวผู้ต้องหาคือ นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเกชื่อ “รักยิ้ม ทับทิมสยาม” พ่อเลี้ยง ได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ เมื่อคืนที่ผ่านมา (29 พ.ค.) ขณะผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา ก่อนจะควบคุมตัวมายังสถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมา เพื่อสอบปากคำ เช้าวันนี้ (30 พ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา คุมตัวผู้ต้องหามาสอบสวนขยายผล จนผู้ต้องหา ยอมให้การรับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุจริง อ้างว่าในวันเกิดเหตุถูกผู้ตายด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ด้วยความโมโห พร้อมกับมีอาการมึนเมาจากการดื่มสุรา จึงลงมือก่อเหตุดังกล่าว เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหา “ทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย” ส่วนข้อหากระทำอนาจารต่อลูกสาววัย 11 ขวบ ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่พบหลักฐาน หากตรวจพบหลักฐานที่ชัดเจนจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังศาลจังหวัดนครราชสีมา […]

ข่าวแนะนำ

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

สระแก้วพบผู้ป่วยติดเชื้อแอนแทรกซ์รายแรก

สระแก้ว 2 มิ.ย.- สระแก้วพบผู้ป่วยแอนแทรกซ์รายแรก ซักประวัติชอบกินก้อย-ซอยจุ๊-เนื้อดิบ จนท.เตรียมลงพื้นที่สอบสวนโรคเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงและผู้สัมผัสเชื้อ นายแพทย์ธราพงษ์ กัปโก นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า พบผู้ป่วยโรคแอนแทรกซ์รายแรกของจังหวัด เป็นชาย อายุ 53 ปี อาชีพรับจ้างตัดไม้ อยู่ที่ตำบลท่าแยก อำเภอเมืองสระแก้ว เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลพัทยาปัทมคุณ จังหวัดชลบุรี ด้วยอาการตุ่มแผลบริเวณศีรษะ ด้านหลังคอ แขน และขา การตรวจทางห้องปฏิบัติการยืนยันพบเชื้อแอนแทรกซ์ จากการซักประวัติพบว่า ผู้ป่วยมีพฤติกรรมเสี่ยง คือ ดื่มสุราทุกวัน และชอบบริโภคก้อย ซอยจุ๊ เนื้อดิบเป็นประจำ ล่าสุดได้รับประทานเนื้อดิบเมื่อประมาณ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา คาดว่าผู้ป่วยติดเชื้อจากการบริโภคเนื้อสัตว์ป่วยที่ไม่ได้รับการปรุงสุก วันนี้ (2 มิถุนายน 2568) จะลงสอบสวนโรคเพื่อเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงและผู้สัมผัสเชื้อ เน้นย้ำให้ประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอเมืองสระแก้วและพื้นที่ใกล้เคียง ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด หลีกเลี่ยงการสัมผัสโค กระบือ แพะ แกะ ที่ป่วยหรือตายผิดปกติ ล้างมือและชำระล้างร่างกายหลังสัมผัสสัตว์ เลือกบริโภคเนื้อสัตว์ที่ได้รับการรับรองความปลอดภัย บริโภคอาหารที่ปรุงสุก ร้อน และสะอาดเท่านั้น หากพบสัตว์ป่วยหรือตายผิดปกติ […]

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนยังมีฝนตกหนักบางแห่ง

กทม. 2 มิ.ย.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนฟ้าคะนอง ทะเลอันดามันคลื่นสูง 2 เมตร กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง .-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย