หลายจังหวัดประกาศห้ามขายเหล้า-ห้ามเล่นสงกรานต์

ภูมิภาค 10 เม.ย. -กาฬสินธุ์ ลำปาง ศรีสะเกษ สงขลา อุดรฯ ประกาศห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์-ห้ามเล่นสงกรานต์ ป้องกันโควิด-19 แพร่ระบาด ล่าสุดมี 30 จังหวัด ประกาศห้ามขายเหล้า-เบียร์


นายชัยธวัช เนียมศิริ ผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์ แถลงยกระดับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ประกาศสั่งห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เริ่มพรุ่งนี้ถึง 17 เมษายน พร้อมห้ามเล่นสาดน้ำ และงดจัดงานสงกรานต์ทุกระดับเด็ดขาด ผู้ใดฝ่าฝืนจะได้รับโทษตามกฎหมาย เนื่องจากคาดว่าในช่วงสงกรานต์ 7 วันอันตราย จะมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาอีกจำนวนหนึ่ง มาตรการดังกล่าวจะช่วยป้องกันการรวมกลุ่มญาติเพื่อนฝูงพบปะสังสรรค์นั่งล้อมวงดื่ม นอกจากนี้ น้ำและความชื้นจากน้ำเป็นตัวนำเชื้อไวรัสให้แพร่กระจายได้ง่าย ดังนั้นให้งดเล่นสาดน้ำ งดการจัดงานสงกรานต์ในทุกระดับ งดการรดน้ำขอพรญาติผู้ใหญ่ทุกกรณีอย่างเด็ดขาด เว้นระยะห่างด้วยการงดเข้าร่วมกิจกรรมที่มีการรวมตัวกันของคนหมู่มาก โดยให้ประชาชนสืบสานเทศกาลสงกรานต์ด้วยการสรงน้ำพระพุทธรูปที่บ้าน ขอพรพ่อแม่ญาติผู้ใหญ่ ด้วยการกราบไหว้เว้นระยะห่าง 1-2 เมตร 


สำรวจบรรยากาศในจังหวัดบรรดาผู้สูงอายุ สุดเหงาใจ วิกฤติโควิด-19 ทำให้ลูกหลานที่ไปทำงานต่างถิ่น ไม่ได้กลับมาเยี่ยมบ้านในช่วงสงกรานต์ โดยนายไสว ทับธานี อายุ 76 ปี ชาวบ้านอำเภอยางตลาด กล่าวว่าอยู่บ้านคนเดียว ปกติในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ลูกสาว ลูกชาย จะพาลูกหลานมาเยี่ยม มีเสื้อผ้าตัวใหม่มาฝาก ร่วมทำบุญตามประเพณี แต่ปีนี้ ทางการห้ามเคลื่อนย้ายบุคคล งดการเดินทาง และข้อห้ามต่างๆ ได้แต่ส่งความคิดถึง และโทรศัพท์ติดต่อ ปลอบใจและให้กำลังใจกัน ส่วนนายนิวาส คำฤาเดช อายุ 67 ปี ชาวอำเภอยางตลาด อีกคน บอกว่า ลูกสาวและลูกเขยทำงานที่กรุงเทพ และตกงานขาดรายได้ จึงเดินทางกลับมาเยี่ยมบ้านไม่ได้ ด้วยความรักลูกจึงได้แต่ส่งอาหารแห้ง ข้าวสารไปให้ 

เช่นเดียวกับจังหวัดลำปาง ได้ประกาศขอให้ผู้ที่มีใบอนุญาต งดขายเหล้าเบียร์ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ถึงวันที่ 15 เมษายน รวมทั้งงดการรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุปีใหม่เมือง หรือการร่วมกลุ่มตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ลักษณะรวมตัวสังสรรค์ดื่มเหล้าเบียร์ทุกประเภท และการชุมนุมในสถานที่แออัดต่างๆ ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามจะมีโทษตามกฎหมายตามมาตรา 18 ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน



ศรีสะเกษห้ามขายเหล้า 11–30 เม.ย. และให้ใส่หน้ากากเมื่อออกนอนบ้าน 

นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่าจังหวัดศรีสะเกษยังมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้น และยังคงต้องเฝ้าระวังสถานการณ์การแพร่ระบาดอย่างใกล้ชิด จึงจำเป็นต้องใช้มาตรการเฝ้าระวัง ควบคุม และป้องกันอย่างเข้มข้น รวมถึงลดปัจจัยเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุทางถนนของประชาชนโดยส่วนรวม จึงออกคำสั่งให้ปิดสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่ของโรคติดต่ออันตราย ได้แก่ ร้านค้า หรือสถานประกอบการขายสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด ตั้งแต่ 11-30 เมษายน 2563 โดยสามารถจำหน่ายสินค้าประเภทอื่นได้ ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 

“และในการประชุมของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดศรีสะเกษ ได้มีคำสั่งให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ต้องสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าทุกครั้งก่อนออกจากเคหสถาน หรือเดินทางไปในสถานที่สาธารณะหรือสถานที่ใดๆ สำหรับบุคคลซึ่งอยู่ในเคหสถาน ร้านค้า หรือในสถานที่ใดๆ ที่ต้องติดต่อกับบุคคลอื่น ต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกครั้ง ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท”

สงขลาห้ามขายเหล้า 12–19 เม.ย. ห้ามเล่นสงกรานต์-ออกจากบ้านต้องใส่แมสก์

นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ประชุมพิจารณาแนวทางการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยมีมติออกคำสั่งรวดเดียว 3 ฉบับ ได้แก่ คำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสงขลา เรื่องให้ประชาชนในพื้นทีจังหวัดสงขลาสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกครั้งเมื่องออกจากเคหสถาน หากฝ่าฝืนโทษปรับ หรือจำคุก หรือทั้งจำทั้งปรับ ตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน 2563 เป็นต้นไป

คำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสงขลาที่ 17/2563 เรื่อง มาตรการในการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ช่วงเทศกาลสงกรานต์ในเขตพื้นที่จังหวัดสงขลา ห้ามจัดงานสงกรานต์ทุกระดับ และห้ามเล่นสงกรานต์ เช่น ฉีดน้ำ สาดน้ำ พ่นน้ำ ประแป้งในที่สาธารณะ หรือห้ามใช้รถยนต์ เปิดท้ายกระบะนำถังน้ำใส่ท้ายกระบะเล่นสงกรานต์บนถนนเป็นต้น ฝ่าฝืนมีโทษปรับ หรือจำคุก หรือทั้งจำทั้งปรับ

และคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสงขลา ฉบับที่ 18/2563 เรื่อง การปิดพื้นที่หรือบริเวณจำหน่ายสุรา หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และห้ามจำหน่ายสุรา เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด โดยให้มีผลตั้งแต่ วันที่ 12–19 เมษายน 2563 เป็นต้นไป หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง อาจเป็นความผิดตามมาตรา 52 แห่ง พระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท และอาจเป็นความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

อุดรธานีประกาศห้ามซื้อขายเหล้า 11–30 เม.ย.


ผู้ว่าฯ อุดรธานี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ทั้งนี้สถานการณ์โควิด-19 อุดรธานีมีผู้ป่วยติดเชื้อสะสม 8 คน เป็นอันดับที่ 29 ของประเทศ โดยคณะกรรมการฯเป็นห่วงเทศกาลสงกรานต์ แม้จะทางราชการจะยกเลิกจัดงาน และขอความร่วมมือไปแล้ว แต่เพราะเป็นประเพณีสืบต่อกันมานาน เกรงว่ายังจะมีการเล่นน้ำ รวมกันเป็นกลุ่ม จึงออกคำสั่งห้ามเล่นน้ำสงกรานต์ และห้ามจำหน่าย จ่าย แจก สุรา เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด ตลาด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (11 เม.ย.) ถึง 30 เมษายน นอกจากนี้ยังมีมติให้ปรับปรุงโรงพยาบาลสนามหอพักมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ให้พร้อมรองรับบุคคลที่ทางการให้กักตัวตามมาตรการ 14 วัน โดยส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ โดยใช้งบประมาณราว 6 ล้านบาท 

ปัจจุบันมีจังหวัดที่ออกมาตรการห้ามจำหน่ายสุราและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด 30 จังหวัด ได้แก่ 

1.สกลนคร ตั้งแต่วันที่ 31 มี.ค. ถึง 16 เม.ย. 2563

2.ลำพูน ตั้งแต่วันที่ 1-30 เม.ย. 2563

3.พิษณุโลก ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2563 จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง

4.ระยอง ตั้งแต่วันที่ 2-15 เม.ย. 2563

5.สมุทรสงคราม ตั้งแต่วันที่ 2-30 เม.ย. 2563

6.สุรินทร์ ตั้งแต่วันที่ 2-30 เม.ย. 2563

7.บุรีรัมย์ ตั้งแต่วันที่ 2-30 เม.ย. 2563

8.นครปฐม ตั้งแต่วันที่ 2-30 เม.ย. 2563

9.สุพรรณบุรี ตั้งแต่วันที่ 4-30 เม.ย. 2563

10.มุกดาหาร ตั้งแต่วันที่ 6-30 เม.ย. 2563

11.กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันที่ 10-20 เม.ย. 2563

12.เชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 10-20 เม.ย. 2563

13.ปราจีนบุรี ตั้งแต่วันที่ 10-20 เม.ย. 2563

14.สมุทรสาคร ตั้งแต่วันที่ 10-20 เม.ย. 2563

15.ชัยนาท ตั้งแต่วันที่ 3-30 เม.ย.2563

16.ประจวบคีรีขันธ์ ตั้งแต่วันที่ 9- 30 เม.ย.2563

17.อุบลราชธานี 10-30 เม.ย.2563

18.ยโสธร ตั้งแต่วันที่ 11-17 เม.ย.2563

19.สุราษฎร์ธานี ตั้งแต่วันที่ 11 -17 เม.ย.2563

20.ชัยภูมิ ตั้งแต่วันที่ 11-20 เม.ย.2563

21.แพร่ ตั้งแต่วันที่ 11-20 เม.ย.2563

22. สมุทรปราการ ตั้งแต่วันที่ 11-20 เม.ย.2563

23 ลพบุรี ตั้งแต่วันที่ 12-16 เม.ย.2563

24.อุดรธานี ตั้งแต่วันที่ 11-30 เม.ย.2563

25.ปทุมธานี ตั้งแต่วันที่ 11-19 เม.ย.2563

26.ศรีสะเกษ ตั้งแต่วันที่ 11-30 เม.ย.2563

27.ลำปาง ตั้งแต่วันที่ 11-15 เม.ย.2563

28.กาฬสินธุ์  ตั้งแต่วันที่ 11-17 เม.ย.2563

29. สงขลา ตั้งแต่วันที่ 12-19 เม.ย.2563

30. ภูเก็ต 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

ทบ.ส่งทหารช่างเก็บกู้ทุ่นระเบิดชายแดนไทย-กัมพูชา

20 ก.ค.- ทหารช่างปฏิบัติภารกิจเก็บกู้ทุ่นระเบิดพื้นที่ช่องบก ชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะที่กองทัพบกเตรียมมาตรการตอบโต้ทางทหารอย่างเหมาะสม จากกรณีทหารไทยประสบเหตุเหยียบกับระเบิด บาดเจ็บ 3 นาย ขณะปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนรักษาความสงบในพื้นที่ช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ล่าสุดเช้านี้ (20 ก.ค. 68) กองทัพภาคที่ 2 เสริมกำลังทหารช่างลงพื้นที่ทันที เพื่อตรวจพื้นที่และเก็บกู้ทุ่นระเบิดตลอดแนวชายแดน โดยใช้ยุทโธปกรณ์หนัก รถแทรกเตอร์หุ้มเกราะ ชุดตรวจค้นทุ่นระเบิดชำนาญการ กำลังชุดทหารช่างตรวจค้นกวาดล้างทุ่นระเบิด (Mine Clearing) เขตทางพื้นที่สงสัยให้ปลอดภัย พร้อมใช้รถโกยตัก ถางขุดตอ และรถถากถางติดตั้งเกราะเหล็กป้องกันพลขับในการทำงานในพื้นที่เสี่ยงภัย ปฏิบัติการดังกล่าว นอกจากดูแลความปลอดภัยของกำลังพลที่จะออกลาดตระเวนในพื้นที่เขตแดนไทยแล้ว ยังเป็นการเก็บหลักฐานเพื่อแสดงให้เห็นว่ากัมพูชามีพฤติการณ์ที่ขัดต่ออนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล แม้ทางฝ่ายกัมพูชาจะไม่ยอมรับ แต่กระทรวงการต่างประเทศ จะทำหนังสือเพื่อประท้วงอย่างเป็นทางการผ่านสหประชาชาติ (UN) และทางกองทัพบก จะมีมาตรการตอบโต้ทางทหารอย่างเหมาะสม.-สำนักข่าวไทย

พฐ.เตรียมตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้โรงงานแปรรูปยางพารา

20 ก.ค.- เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเตรียมตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้โรงงานแปรรูปยางพารา จ.บุรีรัมย์ เบื้องต้นไม่มีผู้บาดเจ็บ คาดเสียหายหลายสิบล้านบาท เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานรับซื้อและแปรรูปยางพาราขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ริมถนนสาย 24 โชคชัย-เดชอุดม ตำบลโคกม้า อ.ประโคกชัย จ.บุรีรัมย์ โดยต้นเพลิงเป็นโกดังเก็บยางพาราอัดแท่ง จัดว่าเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้เพลิงลุกไหม้รวดเร็วและรุนแรง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตอนเกิดเหตุช่วงแรก พนักงานช่วยกันดับแต่เอาไม่อยู่ จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้าช่วยเหลือ ตำรวจ สภ.ประโคนชัย พร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ลงพื้นที่ตรวจสอบและประสานรถดับเพลิงกว่า 20 คัน เข้าฉีดสกัดนานกว่า 2 ชั่วโมง จึงคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้ แต่ยังต้องฉีดน้ำหล่อเลี้ยงไว้ตลอดป้องกันไม่ให้ไฟปะทุลามไปจุดอื่นในโรงงาน พร้อมเคลื่อนย้ายถังแก๊ส ถังน้ำมัน จากอาคารใกล้เคียงไปไว้ยังจุดปลอดภัย เบื้องต้นไม่มีพนักงานได้รับบาดเจ็บ ด้านนายจำเริญ แหวนเพ็ชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่าแม้จะควบคุมเพลิงไว้ได้แล้ว แต่รถดับเพลิงก็ยังต้องฉีดน้ำเพื่อหล่อความเย็นจนกว่าไฟจะดับสนิท ส่วนสาเหตุเพลิงไหม้ยังไม่ทราบ ต้องรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบ สำหรับมูลค่าความเสียหายอยู่ระหว่างการประเมิน คาดหลายสิบล้านบาท ทั้งนี้ โรงงานดังกล่าวเคยเกิดเหตุไฟไหม้มาแล้ว เมื่อปี 63 -สำนักข่าวไทย

จับตา! กัมพูชาพาทัวร์เขมรเยือน “ตาเมือนธม”

สุรินทร์ 20 ก.ค.- จับตา! กัมพูชาพาทัวร์เขมรเยือนปราสาท “ตาเมือนธม” ด้านทหารไทย-ฝ่ายปกครอง จัดกำลังดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวไทยใกล้ชิด บรรยากาศการท่องเที่ยวช่วงวันหยุดที่ปราสาทตาเมือนธม ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ วันนี้ ถูกจับตามองเป็นพิเศษ หลังมีรายงานว่าทางกัมพูชาเตรียมเกณฑ์นักท่องเที่ยวชาวเขมรขึ้นมาเยือนปราสาทตาเมือนธม ซึ่งขณะนี้ทราบว่า มวลชนมาด้วยรถโดยสารประจำทางของฝั่งกัมพูชาเกือบ 23 คันรถ โดยจอดอยู่ข้างล่างฝั่งกัมพูชาและเริ่มทยอยขึ้นมายังปราสาทตาเมือนธมอย่างต่อเนื่อง บรรยากาศภายในตัวปราสาทฯ ยังคงเนืองแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งไทยและกัมพูชา ท่ามกลางการดูแลอำนวยความสะดวกของเจ้าที่ทหารไทยเป็นอย่างดี ขณะนี้ยังไม่มีปัญหาเกิดขึ้นแต่อย่างใด -สำนักข่าวไทย

Vietnam's Halong Bay boat disaster

พายุ “วิภา” ทำเรือท่องเที่ยวล่มในเวียดนาม

ฮานอย 20 ก.ค.- เกิดอุบัติเหตุเรือนักท่องเที่ยวล่มในอ่าวฮาลองหรือฮาลองเบย์ แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของเวียดนามที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ท่ามกลางสภาพอากาศเลวร้าย มีผู้เสียชีวิตแล้ว 38 คน และยังไม่พบตัวอีก 5 คน หนังสือพิมพ์วีเอ็นเอ็กซ์เพรสส์ของเวียดนามรายงานว่า เรือท่องเที่ยวชื่อวันเดอร์ซี (Wonder Sea) พลิกคว่ำในอ่าวฮาลองเมื่อเวลาประมาณ 14.00 น.วันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลาเดียวกันในไทย เป็นช่วงที่พายุโซนร้อนวิภา (Wipha) เคลื่อนตัวข้ามทะเลจีนใต้เข้าใกล้เวียดนาม มีรายงานกระแสลมแรง ฝนตกหนัก และฟ้าผ่าในพื้นที่ดังกล่าว ขณะเกิดเหตุบนเรือมีชาวเวียดนามทั้งหมด 53 คน เป็นลูกเรือ 5 คน และผู้โดยสาร 48 คน ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากกรุงฮานอย ซึ่งอยู่ห่างจากอ่าวฮาลองไปทางตะวันตกราว 165 กิโลเมตร และในจำนวนนี้เป็นเด็ก 20 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยชีวิตผู้ประสบเหตุได้ 10 คน และพบศพใกล้จุดที่เรืออับปาง โดยพบศพเด็กแล้ว 8 คน และยังคงค้นหาผู้สูญหายอยู่ 5 คน ท่ามกลางฝนที่ตกหนักต่อเนื่องเป็นอุปสรรคต่อภารกิจค้นหาและกู้ภัย นายกรัฐมนตรีฝั่ม มิงห์ […]