อภ.ส่งหน้ากากN95 ไปยัง รพ.ทั่วประเทศ สู้โควิด-19

องค์การเภสัชกรรม10 เม.ย.-องค์การเภสัชกรรม ส่งหน้ากาก N95ล็อตใหม่ 2แสนชิ้นไปยังโรงพยาบาลทั่วประเทศแล้ว สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ใช้ในภารกิจโควิด-19 พร้อมเตรียมร่วมมือผลิตชุด PPE แบบผ้าซักฆ่าเชื้อได้ ใช้ทดแทนนำเข้า



นพ.โสภณ เมฆธน ประธานกรรมการองค์การเภสัชกรรม (บอร์ด อภ.) พร้อมด้วย นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม ร่วมส่งมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์และจัดส่งหน้ากากอนามัยN95 สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ในการใช้ทำงานเพื่อต่อสู้กับโรคโควิด-19 ไปยังโรงพยาบาลต่างๆทั่วประเทศ พร้อมทั้งตรวจเยี่ยมชมคลังสำรองยาและเวชภัณฑ์รองรับสถานการณ์  การแพร่ระบาดโรคโควิด-19


นพ.โสภณ เปิดเผยว่า ช่วงเช้าวันนี้ทางบริษัท 3 M ได้จัดส่งหน้ากาก N95  เข้าในคลังที่องค์การเภสัชกรรม สำนักงานใหญ่และที่คลังบางนาแล้วจำนวน 2 แสนชิ้น พร้อมได้มีการกระจายให้กับโรงพยาบาลต่างๆ ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคทันทีให้กับสำนักงานสาธารณสุข 76 จังหวัดทั่วประเทศเพื่อใช้ในโรงพยาบาลในพื้นที่ โรงพยาบาลในเขตกรุงเทพฯ ทั้งรัฐและเอกชน 73 แห่ง จำนวน รวมทั้งสิ้น 1.47 แสนชิ้น ส่วนที่เหลือจะเร่งทยอยจัดส่งให้โรงพยาบาลอื่นๆเพิ่มเติมต่อไป ตามการจัดสรรของศูนย์ปฏิบัติการกระจายเวชภัณฑ์ในภาวะCOVID-19 ที่จัดสรรตามจำนวนของผู้เข้าข่ายติดเชื้อและลักษณะของระดับอาการของผู้ป่วย โดยจะพิจารณาใช้ใน 2 กรณีหลัก คือ กรณี PUI Case:Patients under investigated  ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเชื้อระบบทางเดินหายใจส่วนบนที่ต้องสอบสวนโรคและเฝ้าระวัง จะใช้ประมาณ 5 ชิ้น/ Case/วันหรือครั้ง และกรณี Confirmed Case ซึ่งเป็นผู้ป่วยที่ยืนยันติดเชื้อ COVID-19  ใช้ประมาณ 15 ชิ้น/Case/วันหรือครั้ง 


ในวันนี้ยังได้มีการจัดส่งหน้ากาก face mask N95จำนวนกว่า 51,200 ชิ้น และชุดป้องกันตนเองPPE แบบ Protective suits จำนวน 10,020 ชุด ที่ได้รับบริจาคจากมูลนิธิแจ็ค หม่า และมูลนิธิอาลีบาบา ให้แก่ 79 รพ.ด้วย โดยการจัดส่งมอบให้ทางบริษัทไปรษณีย์ไทยจัดส่งหน้ากากอนามัย N95 กำหนดเส้นทางจัดส่งตรงกระจายไปยังโรงพยาบาลและสถานพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศที่ต้องการ ยืนยันว่าการจัดส่งไม่มีปะปนกับพัสดุหรือจดหมายของประชาชนตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง เป็นโรงพยาบาลของรัฐ 600 แห่งเอกชน 300 แห่ง โรงเรียนแพทย์ และ โรงพยาบาลนอกสังกัด สธ.อีก 100 กว่าแห่ง 

นพ.วิฑูรย์ กล่าวว่า  การจัดซื้อหน้ากาก N95  และชุดPPE องค์การเภสัชกรรมได้ดำเนินการจัดซื้อจากผู้ผลิตทั้งในและต่างประเทศหรือตัวแทนจากบริษัทต่างประเทศ โดยหน้ากาก N95 มีผู้ผลิตในประเทศอยู่เพียงจำนวน 1 ราย ซึ่งเป็นบริษัทได้รับการส่งเสริมการลงทุนไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ดังนั้นบริษัท จึงดำเนินการผลิตหน้ากากอนามัยทางการแพทย์สำหรับการส่งออกทั้งหมด และส่วนใหญ่จะผลิตภายใต้ลิขสิทธิ์ของผู้จ้างผลิต 

ส่วนชุด PPE ไม่มีบริษัทที่ผลิตอยู่ในประเทศไทย จึงจำเป็นต้องสั่งซื้อจากผู้ผลิตในต่างประเทศเท่านั้น ซึ่งจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ทั่วโลก ทำให้ทุกประเทศมีความต้องการใช้หน้ากาก N95 และชุด PPE จำนวนมากขึ้น รวมทั้งประเทศไทยด้วย การตลาดอุปกรณ์ทางการแพทย์ ที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์COVID-19 มีความผันผวนสูง ทั้งในเชิงปริมาณและราคาของผลิตภัณฑ์ รวมถึงคุณภาพด้วย แต่ด้วยความร่วมมือ และจากการประสานของทุกๆ ฝ่าย ทำให้องค์การเภสัชกรรมสามารถจัดซื้อหน้ากาก N95 และชุด PPE ได้ให้มีใช้อย่างเพียงพอต่อเนื่องโดยหน้ากากN95 และชุด PPE ประเทศไทยต้องหาทางพึ่งพาตัวเองด้วย 

ทั้งนี้ ในระยะยาวนั้น  องค์การเภสัชกรรมกำลังพิจารณาแนวทางแสวงหาความร่วมมือจัดตั้งโรงงานเพื่อผลิตหน้ากาก N95 และ ชุด PPE เพื่อความมั่นคงของประเทศ ส่วนในระยะสั้นสำหรับสถานการณ์โควิด-19นี้ ได้มีการหารือร่วมกับสถาบันสิ่งทอไทยในการผลิตชุด PPE ใช้เอง โดยจะมีการใช้ผ้าโพลีเอสเตอร์100%เคลือบสารกันน้ำ ซึ่งได้รับรายงานว่ามีผ้าในสต๊อกที่สามารถตัดเย็บได้ 40,000ชุด อยู่ระหว่างตัดชุดต้นแบบเพื่อทดสอบคุณภาพความทนต่อแรงดันน้ำ ตะเข็บเย็บต้องไม่รั่วและทนต่อแรงดันน้ำเช่นกัน และเนื่องจากเป็นผ้าจึงสามารถนำมาฆ่าเชื้อกลับมาใช้ซ้ำได้ 

ขณะนี้อยู่ระหว่างการทดสอบของรพ.ศิริราช และสถาบันบำราศนราดูร เบื้องต้นพบใช้ซ้ำได้ 20 ครั้ง รวมทั้งทดสอบว่าสามารถทนต่อแรงดันน้ำได้หรือไม่ ซึ่งชุดที่ตัดขึ้นหากผ่านการทดสอบคุณภาพและการใช้ซ้ำแล้ว จะทำให้สามารถ มีชุดป้องกันทดแทนได้ถึง 800,000 ชุด/ครั้ง ซึ่งจะนำมาใช้กับภารกิจดูแลผู้ป่วยที่ไม่ใช่ผู้ป่วยหนักต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ  

สำหรับชุดป้องกันเชื้อส่วนบุคคลหรือชุดPPE(Personal Protective Equipment) ประกอบด้วย 

1.ชุดคลุมป้องกันเชื้อชนิดคลุมทั้งตัว (ชุดหมี) Protective Clothing  

2. เสื้อคลุมป้องกันเชื้อ Isolation Gown  

3. ถุงหุ้มขา Leg Covering  

4.กระบังหน้าป้องกันเชื้อ Face Shield  

5.หมวกคลุมศีรษะ Disposable Cap  

6. ถุงมือยางไนไตรล์ 9 นิ้ว Nitrile Gloves  

7.หมวกคลุมทั้งหัว Hood Cover  

8.เสื้อกาวน์ป้องกันเชื้อ Surgical Gown .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณอีสาน-ตะวันออก-ใต้ฝั่งตะวันตก

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณภาคอีสาน ภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันตก โดยเฉพาะบริเวณ จ.จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดจันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ ประเทศลาว เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาว และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง […]

“ภูมิธรรม” นำจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568

สนามหลวง 12 ส.ค.- “ภูมิธรรม” และภริยา เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 เวลา 20.05 น. ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นางอภิญญา เวชยชัย ภริยา เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 โดยมีประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกาและคู่สมรส ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีและคู่สมรส เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน และภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง เมื่อรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี และภริยา ถึงบริเวณพิธีท้องสนามหลวง ขึ้นสู่เวที รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกา […]

จากแม่ถึงลูกทหารบาดเจ็บ เหตุปะทะไทย-กัมพูชา

ขอนแก่น 12 ส.ค. – ครอบครัวตระกูลบุญธรรมในอำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น ที่ลูกชายทหารเกณฑ์บาดเจ็บจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา แม้สื่อสารกันน้อย แต่ความรักของแม่ลูก ไม่ได้ลดน้อยลง และพร้อมสนับสนุนลูกชายสู่เส้นทางทหารอาชีพตามความตั้งใจ หลังไปเป็นรั้วของชาติ แล้วเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ลั่นพร้อมใช้สิทธิปกป้องกำลังพล-ปรับแผนลาดตระเวน

12 ส.ค.- “แม่ทัพภาค2” ชี้เขมรแอบลอบวางทุ่นระเบิด ละเมิดเงื่อนไขหยุดยิง หวังยั่วยุ พร้อมใช้สิทธิปกป้องคุ้มครองกำลังพล เป็นเรื่องหน้างานไม่เกี่ยวเจรจา เชื่อเขมรไม่ยอมรับตามเงื่อนไขที่ไทยเสนอ เล็งใช้กล้องวงจรปิด ปรับแผนการลาดตระเวน เผยรายงานรัฐบาล-ผบ.ทบ.แล้ว จ่อประท้วงระดับสากล เมื่อวันที่ 12 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่ทหารพราน ร้อย.ทพ.2610 เหยียบกับระเบิดระหว่างปฏิบัติภารกิจลาดตระเวน ในพื้นที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บสูญเสียขาซ้าย 1 นาย คือ ส.อ.ธีรพล เพียขันที ขณะนี้ปลอดภัยแล้ว ซึ่งเหตุเกิดในจุดแนววางรั้วลวดหนามทางด้านทิศตะวันตก ถ้าหันหน้าเข้าเขมรจะอยู่ฝั่งขวาของตัวปราสาท และห่างจากตัวปราสาทประมาณ 1 กิโลเมตร เรียกว่าช่องจุ๊บตาโมก สันนิษฐานว่าเขมรลักลอบมาวางระกับเบิดช่วงที่ถอนกำลังทหารออกไป ซึ่งวันนี้ทหารไปตรวจสอบแนววางลวดหนาม บริเวณดังกล่าวอยู่ในเขตแดนไทย เป็นเส้นทางที่ใช้ลาดตระเวนประจำอยู่ในฝั่งไทยอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นการยั่วยุ ผิดเงื่อนไขการหยุดยิง เพราะการวางทุ่นระเบิด ถือเป็นการยิงเหมือนกัน เราจะมีมาตรการตอบโต้ และรายงานให้รัฐบาลรับทราบตามขั้นตอนแล้ว หลังจากนี้จะนำไปสู่ขั้นตอนการประท้วงในระดับสากล พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ […]