อภ.วิจัยพัฒนา-ผลิตยารักษาโรคสะเก็ดเงินเพื่อผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

กรุงเทพฯ 25 ต.ค. – องค์การเภสัชกรรม (อภ.) วิจัยพัฒนาและผลิตยารักษาโรคสะเก็ดเงิน เพื่อผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เนื่องจากเป็นโรคที่รักษาไม่หายขาด จะต้องใช้ยาในการประคับประคองอาการตลอดชีวิต ซึ่งยังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดโรคที่แน่ชัด


จากสถิติของกรมการแพทย์ โดยสถาบันโรคผิวหนังพบว่าปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงิน ประมาณ 2% ของประชากรไทยทั้งหมด ซึ่งโรคสะเก็ดเงินเป็นโรคเรื้อรัง ผู้ป่วยจำเป็นต้องพบแพทย์อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นโรคที่รักษาไม่หาย แต่สามารถควบคุมอาการได้ โดยการรักษาที่เหมาะสม สำหรับผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการไม่มาก สามารถใช้ยาทาภายนอก หรือการฉายแสงเฉพาะรอยโรคในการควบคุมอาการ และประมาณ 20-25% ที่มีอาการรุนแรงจำเป็นต้องรักษาด้วยยารับประทานที่ออกฤทธิ์กดภูมิคุ้มกัน การฉายแสงอาทิตย์เทียม หรือยาฉีดชีวโมเลกุล โดยต้องมีการดูแลอย่างใกล้ชิดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

พญ.มิ่งขวัญ สุพรรณพงศ์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม กล่าวว่า โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis) จัดเป็นโรคผิวหนังเรื้อรัง โดยมีอาการแสดงที่สําคัญ คือ ผื่นแดง นูน ขอบเขตชัดเจน มีขุยหนาสีเงินปกคลุมที่เกิดจากเซลล์ผิวหนังมีการแบ่งตัวเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็วโดยไม่ทราบสาเหตุ บางรายเป็นตุ่มหนอง กระจายทั่วร่างกายและหนังศีรษะ มีเล็บผิดปกติร่วมด้วย โดยผื่นอาจมีอาการคันหรืออาจมีอาการข้ออักเสบผิดรูปร่วมด้วย นอกจากโรคสะเก็ดเงินจะมีอาการแสดงทางผิวหนังแล้ว ยังอาจพบร่วมกับโรคอื่น ๆ ได้ด้วย เช่น โรคเส้นเลือดหัวใจอุดตัน เบาหวาน ไขมันสูง อัมพฤกษ์ อัมพาต เป็นต้น ซึ่งโรคสะเก็ดเงินถือเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศไทย เนื่องจากเป็นโรคที่รักษาไม่หายขาด จะต้องใช้ยาในการประคับประคองอาการตลอดชีวิต ซึ่งยังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดโรคที่แน่ชัด จากหลักฐานในปัจจุบันบ่งชี้ว่าน่าจะเกิดจากหลายปัจจัยร่วมกัน ได้แก่ พันธุกรรม ระบบภูมิคุ้มกันและปัจจัยกระตุ้นภายนอก โดยวิธีการรักษาโรคสะเก็ดเงิน มี 4 วิธีหลัก ได้แก่ 1. ยาทาภายนอก เช่น ยาทาสเตียรอยด์ ยาทากลุ่มวิตามินดี ยาทากลุ่มน้ำมันดิน และยาทา Dithranol (Anthralin) 2. ยารับประทาน เช่น Methotrexate Retinoid และCyclosporine 3. การฉายแสงอัลตร้าไวโอเลต เช่น Narrowband UVB และ PUVA และ 4. ยาฉีดชีวโมเลกุล เช่น Etanercept, Infliximab และ Ustekinumab เนื่องจากโรคสะเก็ดเงินเป็นโรคเรื้อรังที่ยังไม่ทราบสาเหตุชัดเจน และปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาให้หายขาดได้ ดังนั้น ควรพิจารณาเลือกวิธีการรักษาที่ควบคุมผื่นได้ดี และมีผลข้างเคียงน้อยที่สุด


พญ.มิ่งขวัญ กล่าวต่อว่า องค์การเภสัชกรรมได้วิจัยพัฒนาและผลิตยาสำหรับรักษาและบรรเทาอาการให้ผู้ป่วยที่เป็นโรคสะเก็ดเงิน ได้แก่ ยาทากลุ่มสเตียรอยด์ ซึ่งประกอบด้วย ยาครีม Mometasone furoate 0.1% , ยาครีม Triamcinolone acetonide 0.1% , ยาครีม Betamethasone valerate 0.1% , และโลชันTriamcinolone acetonide 0.02% , นอกจากนี้ยังมียาที่อยู่ระหว่างการขึ้นทะเบียน ได้แก่ ยาครีม Hydrocortisone acetate 1% ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างองค์การเภสัชกรรมกับสถาบันโรคผิวหนัง

สำหรับยากลุ่มน้ำมันดิน เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีสารสำคัญ คือ Coal tar หรือ น้ำมันดิน ซึ่งเป็นน้ำมันดิบที่ได้จากการกลั่นและการทำลายถ่านหินด้วยอุณหภูมิสูง โดยปัจจุบันองค์การเภสัชกรรมมีผลิตภัณฑ์ยากลุ่มน้ำมันดิน จำนวน 2 รายการ ได้แก่ ยาครีม Coal tar topical solution 5% และ แชมพูยา Coal tar topical solution 20% ซึ่งจัดเป็นยาที่มีประสิทธิภาพดีในการรักษาโรคสะเก็ดเงิน แต่ผลข้างเคียงต่ำ และเป็นยาที่สถาบันโรคผิวหนังมีการผลิตเพื่อใช้ในการรักษาโรคสะเก็ดเงินมาเป็นเวลายาวนานกว่า 40 ปี โดยสถาบันโรคผิวหนังมีความต้องการใช้ ยาครีม Coal tar topical solution 5% และแชมพูยา Coal tar topical solution 20% ในปริมาณมาก แต่ความสามารถในการผลิตมีจำกัด ทำให้การกระจายยาจากสถาบันโรคผิวหนังไปยังโรงพยาบาลต่างๆ ทำได้ยาก จึงเกิดปัญหาการเข้าถึงยาของผู้ป่วยที่มีความต้องการ ดังนั้นสถาบันโรคผิวหนังจึงมีความร่วมมือในการวิจัยและพัฒนายาครีมCoal tar topical solution 5% และ แชมพูยา Coal tar topical solution 20% กับทางองค์การเภสัชกรรม โดยควบคุมการผลิตยาให้ได้ตามหลัก GMP และควบคุมคุณภาพของยาตามข้อกำหนดของเภสัชตำรับ เพื่อให้ยามีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสำหรับผู้ป่วย นอกจากนี้ จากแนวคิดของน้ำมันดินที่เป็นยาที่ช่วยรักษาโรคสะเก็ดเงิน องค์การเภสัชกรรมได้ปรับโฉมรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ให้แตกต่างจากรูปแบบยาเดิมๆ ด้วยลวดลายภาพปะการังหลากชนิด ซึ่งเมื่อเกิดการทับถมก็จะกลายเป็นน้ำมันดิน เพื่อช่วยเยียวยาสภาพจิตใจของผู้ป่วยเมื่อใช้ผลิตภัณฑ์ โดยคาดว่าจะสามารถออกสู่ท้องตลาดได้เดือนธันวาคม 2566

ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงิน พบได้ทั้งวัยเด็ก วัยทำงาน และผู้ป่วยสูงอายุ โดยในจำนวนนี้ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการไม่มาก การรักษาที่เหมาะสม คือการทายาเฉพาะที่ที่ผิวหนัง หรือการฉายแสงเฉพาะรอยโรค ส่วนผู้ป่วยที่มีอาการมากจำเป็นต้องรักษาด้วยยารับประทานที่ออกฤทธิ์กดภูมิคุ้มกัน การฉายแสงอาทิตย์เทียม ซึ่งสามารถใช้สิทธิประกันสุขภาพทั่วหน้า สิทธิประกันสังคมและสิทธิข้าราชการได้ แต่มีผู้ป่วยจำนวนหนึ่งที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาข้างต้นจำเป็นต้องรักษาด้วยยาฉีดชีวโมเลกุลซึ่งมีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูง แต่ราคาแพง ไม่สามารถเบิกได้ ผู้ป่วยต้องจ่ายเงินเอง ทำให้มีปัญหาในการเข้าถึงยา ถึงแม้ว่าโรคสะเก็ดเงินยังไม่มีวิธีการรักษาให้หายขาดได้ แต่การรักษาในปัจจุบันนี้สามารถทำให้ผื่นยุบและอาการของโรคสงบลงได้ ผู้ป่วยสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้เป็นปกติเหมือนคนทั่วไป โดยผู้ป่วยยังต้องทายาเป็นครั้งคราว หรือรับประทานยา ภายใต้การดูแลของแพทย์ เหมือนการรักษาโรคทั่วไป ผู้ป่วยควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมดูแลตัวเอง นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ขจัดความเครียด ออกกำลังกายเป็นประจำ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ไม่ควรปล่อยให้ตัวเองน้ำหนักเกินเพราะจะส่งผลต่อการรักษา อีกทั้งผู้ป่วยจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้เกิดผื่นเห่อ เช่น การแกะเกา การดื่มสุรา และที่สำคัญควรรักษาสุขภาพให้ร่างกายแข็งแรงอยู่เสมอ. -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.สั่งเยียวยา ตรวจสอบเหตุ ฮ.ตำรวจตก

ประจวบคีรีขันธ์ 24 พ.ค. – ลำเลียงร่างตำรวจ 3 นาย เสียชีวิตจาก ฮ.ตก ส่งชันสูตร ด้าน ผบ.ตร.สั่งเยียวยาเต็มที่ ให้เร่งตรวจสอบหาสาเหตุโดยด่วน ช่วงบ่ายของวันนี้ เกิดเหตุ เฮลิคอปเตอร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติประสบอุบัติเหตุ ระเบิดกลางอากาศ จนมีตำรวจเสียชีวิต 3 นาย จุดเกิดเหตุอยู่ในพื้นที่ บ้านหนองกก ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ข้อมูลเบื้องต้นทราบว่า เฮลิคอปเตอร์ที่ประสบเหตุเป็นรุ่น เบล 212 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเดินทางจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี และจะบินกลับที่หน่วย ตชด. จังหวัดกาญจนบุรี อุบัติเหตุในครั้งนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 นาย ประกอบด้วยนักบิน 2 คน คือ พ.ต.ต.ประเทือง ชูเลิศ, ร.ต.ท.ทรงพล บุญชัย และ ช่างเครื่อง 1 คน คือ ร.ต.ท.ทินกฤต สุวรรณน้อย สาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้ กำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ […]

ฮ.ตำรวจตก จ.ประจวบฯ เสียชีวิต 3 นาย

ประจวบฯ 24 พ.ค. – คืบหน้าเหตุเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกในพื้นที่ จ.ประจวบฯ พบผู้เสียชีวิต 3 นาย เป็นนักบิน 2 ช่างเครื่อง 1 ความคืบหน้าเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกในพื้นที่ใกล้เคียงวัดหนองพังพวย ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ จากการตรวจสอบพบว่าเหตุเกิดเมื่อเวลา 13.10 น. มีผู้เสียชีวิต 3 นายคือ พันตำรวจตรีประเทือง ชูเลิศ นักบิน ร้อยตำรวจเอกทรงพล บุญชัย นักบิน และร้อยตำรวจโททินกฤต สุวรรณน้อย ช่างเครื่อง สำหรับภารกิจขึ้นบิน อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ขึ้นจากท่าแร้งไปต่างจังหวัด หรือเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ประจำการในพื้นที่แล้วปฏิบัติภารกิจ ล่าสุดมีภาพผู้เสียชีวิตบางส่วน และบางรายโดดร่มลงจากเฮลิคอปเตอร์ แต่รายละเอียดยังไม่สามารถยืนยันได้ เนื่องจากเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายโมงที่ผ่านมา และทุกอย่างยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ เบล 212 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติขึ้นบินจากค่ายอาภากรเกียรติวงศ์ จ.ชุมพร ปลายทางค่ายนเรศวร จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้แสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตทั้ง 3 นายและครอบครัว สั่งการเร่งด่วนให้ช่วยเหลือเยียวยา และตรวจสอบสาเหตุต่อไป.-สำนักข่าวไทย

สายลับไรเดอร์ ตามจับบัญชีม้า แก๊งคอลเซ็นเตอร์

เชียงใหม่ 24 พ.ค.-ตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ ปลอมตัวเป็นไรเดอร์ สะกดรอยตามจับ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักท่องเที่ยวผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก เปิดให้จองที่พักทิพย์ตามแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังในจังหวัด เสียหายมากถึงวันละ 300,000 บาท โดยมีเงินโอนเข้าบัญชีม้าไม่ต่ำกว่า 50 บัญชี แก๊งนี้ทำมาแล้วกว่า 6 เดือน ตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ นำหมายจับศาลเชียงใหม่ ติดตามจับกุมนายบุญ (หนุ่มชาติพันธุ์) คาห้องเช่า ใกล้พรมแดน ในพื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ผู้ต้องหาตามหมายจับ ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และความผิดตามพรบ.คอมพิวเตอร์ คดีหลอกลวงทางออนไลน์ พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ 9 เครื่อง เครื่องนับเงินสด และเงินสดอีกจำนวน 20,000 บาท สมุดบัญชีธนาคาร บัตรกดเงินสด หลายรายการ ซุกซ่อนในตู้เสื้อผ้า นอกจากนี้ ยังขยายผลจับกุมผู้ต้องหา ที่เปิดบัญชีม้า ในการรับโอนเงินได้อีก 3 คน และอยู่ระหว่างขยายผลเพิ่มเติม โดยเฉพาะคนที่จัดหาบัญชีม้า และโทรศัพท์มือถือ สำหรับใช้ในการกระทำความผิดกับผู้ต้องหา ด้าน พันตำรวจโท อวิรุทธ์ สุขแย้ม […]

ทหารเมียนมา ต้านไม่ไหว ฐานเจดีย์ขาวเบอโด้ แตกแล้ว

ตาก 24 พ.ค.-ทหารเมียนมา ต้านไม่ไหว ฐานเจดีย์ขาวเบอโด้ แตกแล้ว ถึงแม้ว่าทหารเมียนมาจะใช้เครื่องบินมาทิ้งระเบิดตลอดทั้งวัน พ.อ.ณัฐกร เรือนติ๊บ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจราชมนู (ผบ.ฉก.ราชมนู) กองกำลังนเรศวร เปิดเผยถึงสถานการณ์สู้รบบริเวณแนวชายแดน ประเทศเมียนมา ที่ติดอยู่กับประเทศไทย การสู้รบอยู่บริเวณด้านตรงข้าม บ.ห้วยน้ำนัก ม.4 ต.พบพระ อ.พบพระ จ.ตาก ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 1 กิโลเมตร โดยหลังจากทหารเมียนมา ใช้อากาศยาน แบบ Y-12 บินตรวจการณ์และทิ้งระเบิด จำนวนประมาณ 30 ลูก โจมตี กกล.KNLA บริเวณพื้นที่โดยรอบ ฐานเจดีย์ขาว บ.เบอโด้ อ.ซูการี จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง สหภาพเมียนมา เพื่อสนับสนุนการป้องกันฐานที่มั่น หลังจากถูก กกล.KNLA ปิดล้อมและโจมตี แต่ก็ไม่สามารถต้านทาน กกล.KNLA ได้ กระทั้งเวลา 19.00 น. กกล.KNLA สามารถเข้าควบคุมฐานเจดีย์ขาว ได้สำเร็จ สามารถตรวจยึดอาวุธและยุทโธปกรณ์ได้หลายรายการ […]

ข่าวแนะนำ

เคลื่อนร่าง 2 นายตำรวจ ฮ.ตก ถึงวัดนวลจันทร์แล้ว

25 พ.ค.- เคลื่อนร่าง 2 นายตำรวจ เหตุ ฮ.ตก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ถึงวัดนวลจันทร์แล้ว เตรียมพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ 17.00 น.วันนี้ จากกรณีวันที่ 24 พ.ค. เฮลิคอปเตอร์ รุ่นเบลล์ 212 หมายเลขประจำเครื่อง 2215 ประจำหน่วยบินตำรวจกาญจนบุรี ประสบอุบัติเหตุตกในบริเวณพื้นที่บ้านหนองกก ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นเหตุให้ 3 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แก่ พ.ต.ต.ประเทือง ชูเลิศ (ตำแหน่งนักบิน สบ 2) อายุ 33 ปี ร.ต.อ.ทรงพล บุญชัย (ตำแหน่งนักบิน สบ 1) อายุ 34 ปี และ ร.ต.ท.ทินกฤต สุวรรณน้อย (ตำแหน่งช่างอากาศยาน สบ 1) อายุ 55 ปี เสียชีวิตในที่เกิดเหตุทั้งหมด […]

งดเล่นน้ำตกแม่สา หลังฝนตกหนักน้ำขุ่นเชี่ยว

เชียงใหม่ 25 พ.ค.- อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย งดให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำตกแม่สา หลังฝนตกหนักตลอดคืน ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก สำนักทรัพยากรน้ำที่ 1 ออกประกาศเตือนภัยเตรียมพร้อม (ระดับสีเหลือง) ที่บ้านหนองหอย ต.โป่งแยง อำเภอแม่ริม ปริมาณฝนสะสม 12 ชั่วโมง 103. มิลลิเมตร ทำให้ทางนายธงชัย นาราษฎร์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพปุย ได้มีคำสั่ง งดให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำตกแม่สา หลังเกิดฝนตกหนักสะสม ทำให้น้ำตกแม่สา มีสีขุ่นแดง กระแสน้ำเชี่ยว ปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาเที่ยวชมธรรมชาติได้ตามปกติ แต่ไม่สามารถลงเล่นน้ำได้ เช่นเดียวกับที่อุทยานแห่งชาติออบขาน ประกาศปิดการท่องเที่ยว และพักแรมชั่วคราว สถานการณ์แม่น้ำขาน วันที่ 25 พฤษภาคม 2568 ณ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติออบขาน ระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทางอุทยานจะรีบอัปเดตสถานการณ์ให้ทราบอย่างต่อเนื่อง พร้อมแจ้งเตือนประชาชนลุ่มน้ำขานเฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะตั้งแต่บ้านห้วยโท้ง ตำบลน้ำบ่อหลวง อำเภอสันป่าตองลงไป เฝ้าระวัง เนื่องจากระดับน้ำที่ผ่านหน้าอุทยานฯ ลงไป มีมวลน้ำจากอำเภอสะเมิง ไหลลงมาเติมต่อเนื่อง .-สำนักข่าวไทย

จนท.ลงพื้นที่เก็บชิ้นส่วน ฮ.ตำรวจตก

ประจวบคีรีขันธ์ 25 พ.ค. – เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่จุดเฮลิคอปเตอร์ตำรวจตก บริเวณ ต.เกาะหลัก อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ เก็บชิ้นส่วนที่กระจัดกระจายตามบ้านเรือนและไร่สวนของชาวบ้าน พร้อมกั้นโดยรอบ ป้องกันผู้ไม่เกี่ยวข้อง บรรยากาศจุดเกิดเหตุเฮลิคอปเตอร์ตำรวจตก พื้นที่หมู่ 1 บ้านหนองกก ต.เกาะหลัก อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง จัดกำลังดูแลความเรียบร้อยตั้งแต่เกิดเหตุ พร้อมนำโปลิศไลน์มากั้นโดยรอบพื้นที่เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาอย่างเด็ดขาด ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่สารวัตรเวร เจ้าของคดี ลงพื้นที่เก็บรายละเอียดในที่เกิดเหตุอีกครั้ง พร้อมนำทีมชุดพนักงานสอบสวน นำโดรนบินถ่ายภาพมุมสูง เพื่อตรวจสอบว่าชิ้นส่วนของเครื่องบินที่แตกกระจัดกระจายอยู่บริเวณจุดไหนบ้าง ขณะนี้อยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่ทยอยเก็บชิ้นส่วนที่ตกกระจัดกระจายตามบ้านเรือนและไร่สวนของชาวบ้าน มารวบรวมไว้บริเวณเต็นท์อำนวยการจุดที่ตัวเครื่องบินตก และรอเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้ามาดำเนินการ ส่วนเศษชิ้นส่วนเครื่องบินบางส่วนที่รวบรวมได้ยังไม่มีการเคลื่อนย้ายแต่อย่างใด ต้องรอคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา หรือต้องรอเจ้าหน้าที่บริษัทผู้ผลิตเครื่องบินมาตรวจอย่างละเอียดก่อน ในส่วนของชาวบ้านที่ได้รับความเสียหายจากชิ้นส่วนเครื่องบินตกใส่หลังคาเสียหายเป็นรู ซึ่งเจ้าหน้าที่เก็บชิ้นส่วนออกไปแล้ว ส่วนชิ้นส่วนหางขนาดใหญ่ที่ตกเฉียดบ้านของชาวบ้านที่อยู่ห่างกันประมาณ 100 เมตร นางใย ชาวบ้านที่ถูกชิ้นส่วนเครื่องบินตกใส่หลังคาเป็นรู เล่าให้ฟังว่า ก่อนจะเกิดเหตุเครื่องบินตกตนเองพร้อมด้วยหลานอีก 2 คน ไปนั่งอยู่หลังบ้าน ต่อมาได้ยินเสียงเฮลิคอปเตอร์บินผ่านหลังคาบ้านมา และได้ยินเสียงปะทุ ดังติดต่อกัน 3 ครั้ง ซึ่งเห็นหางเครื่องบินตกลงมาก่อน ก่อนตัวเครื่องบินจะตกลง นอกจากนี้ได้ยินวัตถุชนิดหนึ่งตกลงบนหลังคาบ้าน จึงเข้ามาดูในบ้านพบว่าหลังคาเป็นรู และมีวัสดุตกลงมาอยู่ที่พื้น […]

นึกว่าสงคราม! โจ๋ยกพวกไล่ถล่มปาระเบิด

สมุทรปราการ 25 พ.ค.- แพรกษาเดือด! วัยรุ่นหลายสิบคนยกพวกปาระเบิดกลางถนน กว่า 10 ลูก ถล่มกันจนชาวบ้านผวาต้องหาที่กำบังหนีตาย กล้องวงจรปิดริมถนน ซอยมังกรขันดี ใกล้ตลาดแสงทอง ตำบลแพรกษา อำเภอเมืองสมุทรปราการ จับภาพกลุ่มวัยรุ่น พากันขี่รถจักรยานยนต์แต่งซิ่ง ท่อเสียงดัง ขับวนไปมาภายในซอยดังกล่าว ก่อนเปิดฉากปาระเบิดปิงปองไม่ต่ำกว่า 15 ลูก ใส่กันกลางถนน จนเกิดเสียงดังสนั่น ชาวบ้านหลายคนต้องวิ่งหาที่หลบภัย ขณะที่รถบางคัน ไม่กล้าขับผ่านต้องรีบวนรถกลับ หวั่นโดนลูกหลง กลุ่มวัยรุ่นหลายสิบคน นอกจากจะมีระเบิดปิงปองที่เตรียมมาปาถล่มใส่กันแล้ว ยังมีอาวุธมีดตะขอ ติดมือมาไล่ห้ำหั่นกันอย่างกับสงครามกลางเมือง หลังเกิดเหตุ ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยเดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบเศษชิ้นส่วนระเบิดปิงปองแตกกระจายเกลื่อนถนน ส่วนวัยรุ่นที่ยกพวกตีกัน แยกย้ายกันไปก่อนที่เจ้าหน้าที่จะไปถึง ตำรวจกระจายกำลังหาข้อมูล จนทราบว่า มีวัยรุ่นกว่า 20 คน ยกพวกไล่ทำร้ายกัน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ไปโรงพยาบาลด้วยตัวเอง 2 ราย เจ้าหน้าที่จะเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามตัวกลุ่มวัยรุ่นทั้งหมดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย จากการสอบถามผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ขณะกำลังซื้อข้าวอยู่ตรงตลาดบ่อทอง ได้ยินเสียงระเบิด 3 […]